4 มี.ค.นี้ เปิดจองเหรียญบรมราชาภิเษก เหรียญแพลทินัมมูลค่า1ล้านบาท

กรมธนารักษ์เปิดรับจองเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก และเหรียญที่ระลึก ในโอกาสพระราชพิธีบรมราชาภิเษก สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เริ่ม 4 มี.ค.–4 เม.ย.2562 โดยเหรียญกษาปณ์ที่ระลึกมี 3 ชนิด และเหรียญที่ระลึก 3 ชนิด โดยเหรียญแพลทินัม มูลค่าสูงสุด 1 ล้านบาท เริ่มรับเหรียญได้ 1 มิ.ย.2562 เมื่อวันที่ 28 ก.พ.62 ที่กระทรวงการคลัง นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง เปิดเผยว่า กรมธนารักษ์ได้จัดทำเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก เหรียญที่ระลึก และเหรียญเฉลิมพระเกียรติ ในโอกาสพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 4 พฤษภาคม 2562 เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร และเผยแพร่พระเกียรติคุณของพระองค์ท่านให้แผ่ไพศาลทั้งภายในประเทศและนานาอารยประเทศ ตลอดจนน้อมนำจิตใจของปวงชนชาวไทยให้แสดงความจงรักภักดี และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อประชาชนทุกหมู่เหล่า รวมทั้งเพื่อความเป็นสวัสดิมงคลของประเทศชาติและราชอาณาจักร ทั้งนี้ ได้จัดทำขึ้น 3 ประเภท ประกอบด้วย เหรียญกษาปณ์ที่ระลึก 3 ชนิดราคา ได้แก่ เหรียญกษาปณ์ที่ระลึกทองคำขัดเงา ชนิด 19,000 […]

รมว.คลังแนะนำ ปั๊มซีดีสอนเด็กทั่วประเทศ เด็กไทยจะได้เก่งเท่าเทียมกัน

  เกิดเป็นประเด็นขึ้นมาช่วงปลายปี เมื่อเครดิตสวิส (Credit Suisse) เผยแพร่รายงานความมั่งคั่งโลก ประจำปี 2561 ระบุว่า ไทยเป็นประเทศที่มีความเหลื่อมลํ้าสูงที่สุดในโลก โดยพบว่า คนไทย 1% มีทรัพย์สินรวมกัน 66.9% ของทรัพย์สินทั้งประเทศ เมื่อเทียบกับปี 2559 ที่สัดส่วนอยู่ที่ 58.0% นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ที่พูดกันมาก คือ ความร่ำรวย ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่ทุกคนจะรํ่ารวยเท่ากันหมด ถ้าจะได้ต้องกลับไปที่ยุคคอมมิวนิสต์ แต่ก็พิสูจน์ได้แล้วว่า ไม่สำเร็จ แต่สิ่งสำคัญสำหรับรัฐบาล คือ ต้องสร้างความเท่าเทียมกันในเรื่องโอกาส แล้วผลลัพธ์จะเป็นอย่างไรค่อยมาว่ากัน เพราะคนเราเก่งไม่เท่ากัน มันก็จะมีคนเก่งที่ได้ 4 ไม่เก่งก็ได้ 2 รัฐบาลต้องไปช่วยคนที่สอบตก ว่า ทำอย่างไรไม่ให้ตก เหมือนที่โรงเรียนมีคนติวให้กับคนที่สอบตก สิ่งที่รัฐบาลคิด คือว่า ทำไมไม่ใช้ระบบแบบประเทศไทยที่เคยมี คือ สังคมไทยที่พร้อมจะช่วยเหลือคนที่อ่อนแอกว่า เอาคนที่ได้ 4 คนที่เก่ง มาช่วยคนเหล่านี้ […]

คลังมั่นใจเศรษฐกิจปีนี้โตดีเกินคาดหลังประกาศเลือกตั้ง เชื่อโตเกิน 4%

   คลัง มั่นใจเศรษฐกิจปีนี้ โตดีเกินคาด หลังประกาศเลือกตั้งแน่ เชื่อโตเกิน 4% พร้อมประกาศอย่างเป็นทางการ 28 ม.ค.นี้   นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง หรือ สศค. เปิดเผยถึงกรณีที่ประกาศให้มีการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ ผ่าน พระราชกฤษฎีกา ให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2562 ว่าจะส่งผลให้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนดีขึ้น ซึ่งจะมีผลในทิศทางบวกต่อเศรษฐกิจแน่นอน ทั้งนี้หากการเลือกตั้งผ่านไปได้ด้วยดีมีความเรียบร้อยก็จะทำให้เศรษฐกิจไทยในปีนี้ขยานตัวได้ดีกว่าที่ประมาณการไว้จากเดิมที่ 4% อย่างไรก็ตาม สศค. จะมีการทบทวนประมาณการเศรษฐกิจในปีนี้อย่างเป็นทางการอีกครั้งก่อนจะประกาศในวันที่ 28 มกราคมนี้   ส่วนเศรษฐกิจปี 2561 ยอมรับว่าได้รับผลกระทบจากการส่งออกที่ต่ำกว่าการประมาณการไว้ โดยการส่งออกจะขยายตัวได้เพียง 6.7 -6.8% ต่ำกว่าที่คาดการไว้เดิมที่ 8% ทำให้เศรษฐกิจไทยปี ที่ผ่านมา ขยายตัวได้ กว่า 4% ต่ำกว่าประมาณการณ์เดิมที่คาดว่าจะโตได้ 4.5% ข่าวจาก : เรื่องเล่าเช้านี้

คลังยืมมือธนาคาร ช่วยกล่อมผู้สูงอายุฐานะดี1ล้านคน สละเบี้ยคนชราให้คนที่ยากจน(มีคลิป)

  กระทรวงการคลังตั้งเป้า ผู้สูงอายุมีฐานะ 1 ล้านคน ให้สละเงินให้ผู้สูงอายุยากจน โดยจะมีการเพิ่มเงินเบี้ยบังชีพจาก 600 เป็น 1,000 บาท โดยเงินที่เพิ่มมาจากผู้สูงมีอายุที่สละให้นั่นเอง แต่ที่ผ่านมาพบปัญหามีผู้สละเบี้ยยังชีพแค่ 800 รายจาก 3 ล้านคน จากนี้จะใช้วิธีให้ธนาคารช่วยประชาสัมพันธ์ กับลูกค้าผู้สูงอายุที่มีเงินฝากในบัญชีจำนวนมาก แต่ยืนยันว่าต้องเป็นไปอย่างสมัครใจไม่ใช่การบังคับ ข่าวจาก : เรื่องเล่าเช้านี้    

สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง รับสมัครสอบเป็นพนักงานราชการ วุฒิ ป.ตรี สมัครออนไลน์22-28ม.ค.62

    สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง รับสมัครบุคคลเพื่อเลือกสรรเป็นพนักงานราชการทั่วไป 1. เจ้าหน้าที่วิเคราะห์นโยบายและแผน 1 อัตรา : ได้รับคุณวุฒิปริญญาตรี หรือคุณวุฒิอย่างอื่นที่เทียบได้ในระดับเดียวกันในสาขาวิชารัฐศาสตร์ สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ สาขาวิชาบริหารรัฐกิจ สาขาวิชาบริหารธุรกิจ สาขาวิชาเศรษฐศาสตร์ หรือสาขาวิชานิติศาสตร์ ((คลิกที่นี่เพื่ออ่านรายละเอียดเพิ่มเติม/ดาวน์โหลดเอกสาร))  2. นักทรัพยากรบุคคล 2 อัตรา : ได้รับคุณวุฒิปริญญาตรี หรือคุณวุฒิอย่างอื่นที่เทียบได้ในระดับเดียวกันในสาขาวิชารัฐศาสตร์ สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ สาขาวิชาบริหารรัฐกิจ สาขาวิชานิติศาสตร์ สาขาวิชาบริหารธุรกิจ ((คลิกที่นี่เพื่ออ่านรายละเอียดเพิ่มเติม/ดาวน์โหลดเอกสาร)) เปิดรับสมัครทางเว็บไซต์ http://www.mof.go.th หัวข้อ “ระบบรับสมัครสอบออนไลน์” และทางเว็บไซต์ http://paladmof.thaijobjob.com ภายในวันที่ 22-28 ม.ค.62

ครม. มอบของขวัญปีใหม่-ตรุษจีน ทุ่มหมื่นล้านคืนภาษี VAT5% จ่ายสินค้าผ่านบัตรเดบิต 1-15 ก.พ.62

  วันที่ 18 ธ.ค. 61 การประชุมคณะรัฐมนตรี วาระพิจารณาที่น่าจับตาคือ กระทรวงการคลัง เสนอมาตรการคืนภาษีมูลค่าเพิ่มให้ร้อยละ 5 กำหนดวงเงินการใช้ไม่เกิน 20,000 บาทต่อคน หรือคิดเป็นวงเงินการคืนภาษีสูงสุดไม่เกิน 1,000 บาท ล่าสุด นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ในฐานะโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม.อนุมัติ มาตรการคืนภาษีมูลค่าเพิ่มให้ร้อยละ 5 กำหนดวงเงินการใช้ไม่เกิน 20,000 บาทต่อคน หรือคิดเป็นวงเงินการคืนภาษีสูงสุดไม่เกิน 1,000 บาท พร้อมทั้งกำหนดระยะเวลาใช้จ่าย 15 วัน คือช่วงวันที่ 1-15 ก.พ. 62 หลังจากนั้น รัฐจะเริ่มคืนเงินช่วงกลางเดือน มี.ค. เป็นต้นไป ผ่านทางระบบพร้อมเพย์ ที่ลงทะเบียนผ่านบัตรประชาชนเท่านั้น และคาดว่าจะใช้งบประมาณในโครงการนี้ประมาณ 1 หมื่นล้านบาท เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในปี 62 และเป็นการสนับสนุนการใช้จ่ายผ่าน E-Payment อีกด้วย ข่าวจาก : อัมรินทร์ทีวี

แบงค์พาณิชย์ จ่อเก็บค่าถอนเงินทั้งATM–หน้าเคาน์เตอร์

  ธนาคารพาณิชย์ เตรียมหารือธนาคารแห่งประเทศไทย ถึงแผนเก็บค่าธรรมเนียมถอนเงินสด-เช็ค ทั้งจากตู้เอทีเอ็ม-หน้าเคาน์เตอร์ หลังเลิกเก็บค่าธรรมเนียมออนไลน์ เมื่อวันที่ (3 ธ.ค. 61) นายกอบศักดิ์ ดวงดี เลขาธิการสมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า ที่ผ่านมาสมาคมธนาคารไทย รวมถึงธนาคารต่างๆ ได้หารือเรื่องการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการถอนเงินสด หน้าเคาน์เตอร์ และเครื่องเอทีเอ็มจริง ซึ่งมีการหารือร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท.อย่างต่อเนื่อง แต่ยังไม่มีข้อสรุป เพราะธปท.ต้องการพิจารณาให้รอบคอบ ก่อนอนุญาตให้แบงค์สามารถเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจากการทำธุรกรรมเงินสด หรือการใช้เช็คเงินสดต่างๆ ได้ สาเหตุที่ต้องเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจากการทำธุรกรรมเบิกถอนเงินสด เพราะธุรกรรมส่วนนี้เป็นต้นทุนที่สูงของธนาคาร ไม่ว่าจะเป็นการบริหารจัดการเงินสดตู้เอทีเอ็ม และพนักงาน นางปรัศนี อุยยามะพันธุ์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ กล่าวว่า ในอนาคตเมื่อธุรกรรมเกือบทั้งหมดอยู่บนช่องทางออนไลน์มากขึ้น คาดว่าการเก็บค่าธรรมเนียม จากการทำธุรกรรมผ่านเงินสด หรือผ่านเช็คเงินสด น่าจะเกิดขึ้นซึ่งปัจจุบันได้หารือร่วมกับธปท.ไปหลายครั้งแล้ว ส่วนจะสามารถเก็บได้ในเร็วๆ นี้หรือไม่ เชื่อว่าธปท.คงอยู่ระหว่างการพิจารณาให้รอบคอบ เนื่องจากพฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงค่อนข้างมากทั้งการหันไปใช้คิวอาร์โค้ด พร้อมเพย์ อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้นหากสามารถเก็บค่าธรรมเนียมได้จริง คงไม่ได้เพิ่มขึ้นอย่างมากในระยะเริ่มแรก แต่อาจเป็นการลดสิทธิประโยชน์ด้านเงินสดลง เช่น การถอนเงินผ่านตู้เอทีเอ็ม ที่อาจให้สิทธิการถอนฟรีลดลง เพราะทุกวันนี้ทุกธนาคารให้ถอนเงินสดผ่านตู้เอทีเอ็ม ข้ามธนาคาร ฟรีเฉลี่ย […]

1 9 10 11 13
error: