ทั่วไป

Advertisement สัตว์น้ำสุดสะพรึง!! โผล่ขึ้นมาเหนือน้ำลอยเกลื่อน ชาวบ้านแตกตื่นมันคือตัวอะไร?? Advertisement อื้อหือ บอกตรงๆเลยนะ เกิดก็เพิ่งเคยเห็นเนี่ยแหละ น่ากลัวมาอ่ะเผลิอลงน้ำนี่คงเงิบ สตั๊น ไปไม่เป็นเลย หลังจากที่สมาชิคเฟสบุ๊คท่านนึงได้ลงโพสไว้ ก็ได้มีชาวเน็ตที่รู้จักมาช่วยตอบให้ว่าที่จริงแล้วมันคือ ” เพรียงทะเล” หรือบางพื้นที่เรียก ” แมงกะดาน” ” เพรียงทะเล” หรือบางพื้นที่เรียก ” แมงกะดาน” จะมีช่วงต้นหนาว ลักษณะลำตัวแบนยาว ตอนนี้หาดูยากมากแล้ว เวลาโดนตัวมันจะขาดนะแต่ไม่ตาย เลือดมันมีหลายสี มักจะหลุดมากับน้ำทะเล อาจเป็นช่วงที่น้ำทะเลหนุน ปีนึงจะหาดูได้รั้งเดียว Advertisement   [ads]         [ads=center]

นขี้เหล็กพันปี หัวเป็นม้า หน้าคล้ายพระพุทธรูป ที่ผ่านมา ชาวบ้านต่างพากันไปดูต้นขี้เหล็ก ขนาดใหญ่ 5 คนโอบ สูงร่วม 10 เมตร อายุน่าจะถึง 1 พันปี อยู่กลางหมู่บ้านสันป่างิ้ว หมู่ 12 ต.ต๋อม อ.เมือง จ.พะเยา ซึ่งสถานที่ตั้งเดิมเคยเป็นวัดเก่ามาแต่ครั้งโบราณกาล ชื่อวัดทองแสนขัน จนเกิดการล่มสลายหายไป เหลือเพียงเศษหิน เศษอิฐ แท่งหิน ชาวบ้านนำมาเก็บไว้หน้าศาลพ่อเสี้ยว ใกล้กับต้นขี้เหล็กที่ขึ้นอยู่ โดยชาวบ้านในพื้นที่เล่าขานกันมา เมื่อถึงวันพระใหญ่จะมีลูกแก้วลอยออกมา แล้วลอยกลับหายไปในต้นขี้เหล็ก ต่อมา เมื่อหลายปีก่อน ชาวบ้านได้ร่วมแรงร่วมใจสร้างอาคารอเนกประสงค์ในหมู่บ้านใกล้กับต้นขี้เหล็ก ซึ่งต่างบอกกันว่า ได้เห็นใบหน้าคล้ายพระ ติดอยู่กับต้นขี้เหล็ก จนเป็นที่ฮือฮา และได้เลขนำไปเสี่ยงโชคซื้อหวย โชคดีไปตามๆ กัน สำหรับต้นขี้เหล็กต้นนี้ มีลักษณะเป็นต้นใหญ่ และเคยยืนต้นตายมาแล้ว แต่สุดท้ายก็ไม่ตาย เพราะมีต้นโพธิ์ที่ติดกับต้นขี้เหล็กคอยโอบอุ้มค้ำจุนเอาไว้ ทำให้ต้นขี้เหล็ก สามารถยืนต้นออกกิ่งก้านและใบได้อีก นอกจากนี้ บริเวณกลางลำต้นขี้เหล็ก จะมีรูปใบหน้าพระ มีตา ใบหู จมูก มองเห็นอย่างชัดเจนอยู่ที่ลำต้น […]

ชาวเน็ตดราม่า !! จากเหตุการณ์ยิงกล่มเมืองปารีส “ทำไมชาวไทยต้องเปลี่ยนรูปโปรไฟล์ในเฟสด้วยรูปธงชาติฝรั่งเศษ” ทีบ้านตัวเองเกิดเหตุไม่เห็นมีใครทำเช่นนี้เลย กลายเป็นกระแสดราม่า เมื่อสมาชิคเฟสบุ๊คตั้งคำถาม “วันที่ประเทศไทยโดนวางระเบิดที่แยกราชประสงค์ ไม่เห็นว่าจะมีชนชาติใดในโลก เปลี่ยนรูปตัวเองให้มีลายธงชาติไทยในเฟสบุ๊คของตัวเองเลย แล้วคนไทยจะเอาธงชาติฝรั่งเศษมาทับหน้าตัวเองทำไม…???” #‎โปรดใช้วิจารณญาณ‬ [ads] เครดิต Facebook

วันนี้อ้อมจะมาแชร์เรื่องราวต่างๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิตและทุกสิ่งที่ทำให้เรา เป็นตัวเราในวันนี้ อ้อมผ่านจุดที่ลำบากที่สุดในชีวิต และคำดูถูกของคนมากมาย จนเรียนจบมีงานทำ มีเงินเลี้ยงดูพ่อแม่ได้ เลยอยากมาแบ่งปันให้กับคนที่กำลังท้อ และเบื่อหนายกับชีวิต ให้สู้ตราบใดที่เรายังมีลมหายใจ กลับการถ่ายทอดเรื่องราวของ อ้อมแอ้ม มิกิ อ้อมเติบโตมาจากเด็กบ้านนอกที่ยากจน อ้อมเป็นลูกชาวนา ทำงานช่วยที่บ้านตั้งแต่ 5 ขวบเช่น ทำนา หาบน้ำ ใส่ตุ่มให้ย่าทุกวัน นับว่าเป็นช่วงเวลาตอนเด็กที่ลำบากมากค่ะ อ้อมได้สัมผัสความยากจนตั้งแต่ตอนนั้นทำให้อ้อมคิดว่าสักวันหนึ่งต้องมีชีวิตที่ดีกว่าที่เป็นอยู่ให้ได้พ่อและแม่จะได้สบาย หลังจากจบมัธยมปีที่ 3 อ้อมก็ไม่ได้เรียนต่อเพราะทางบ้านยากจน ก็เลยคิดหางานทำเพื่อส่งตัวเองเรียนต่อ อ้อมก็เลยไปเป็นพนักงานอยู่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ทำงานมาอยู่หลายปี   จนอ้อมมาเจอพี่คนหนึ่ง เขาได้ชวนให้อ้อมมาทำงานเกี่ยวกับพริ้ตตี้ตามงานมอเตอร์โชว์ต่างๆ อ้อมก็เริ่มพอมีเงินเก็บอยู่พอสมควร พอที่จะเรียนต่อ อ้อมก็เลยไปสมัครเรียนที่มหาลัยแห่งหนึ่ง ในช่วงเวลาเรียนก็ทำงานไปด้วย บอกตรงๆว่าลำบากมาก บางวันแทบจะไม่ได้นอน แต่ก็ทำไปเพราะต้องการเก็บเงินเพื่อไปศัลยกรรมให้ตัวเองดูดีขึ้น เพราะคิดว่างานถ่ายแบบคงได้เงินดีกว่า หลังเปลี่ยนแปลงตังเองจากการศัลยกรรม ก็เลยหันมารับงานถ่ายแบบแทน ซึ่งงานที่ถ่ายก็จะออกไปทางเซ็กซีทั้งหมด มันก็ไม่ง่ายอย่างที่คิด กว่าจะได้เงินแต่ละบาท ตอนแรกก็ไม่กล้า แต่พอถ่ายไปเรื่อยๆก็เริ่มชินกับมันและมีเงินส่งให้ทางบ้านอีกด้วย       [ads]   ในช่วงนั้นก็มีผู้ชายเข้ามาจีบเยอะอยู่พอสมควร จนมาเจอกับผู้ชายคนหนึ่ง เค้าเป็นคนหน้าตาดี […]

อาจารย์เจนได้บอกว่า ไม่สนิทกัน แทบจะไม่รู้จักกัน และได้บอกอีกว่า เห็นกรรมของคุณริว แต่เราไม่พูด กรรมของใครของมัน  สร้างความสงสัยให้กับลูกศิษย์อย่างมาก  [ads]         [ads=center]

เป็นประเด็นเมื่อ…."ผู้จัดการสุดหื่น" ชอบลวนลามสาวออฟฟิตดังกล่าว แต่เธอไม่เล่นด้วยทำให้ผู้จัดการรู้สึกไม่พอใจ และ พูดทีเล่นทีจริงกับเธอ จนวันหนึ่งผู้จัดการขอมีอะไรด้วย และบอกเธอว่าถ้าไม่ทำจะเอารูปที่มีในมือถือแฉให้หมด ถ้าไม่ยอมมีอะไรด้วย   เธอบอกรูปอะไรยังไม่ได้มีอะไรกันเลยจะมีรูปได้ยังไง ความที่เธอไม่รู้ว่าเค้าแอบถ่าย เราไว้ระหว่างที่เราทำงาน และจนวันหนึ่งเธอได้เห็นภาพของเธอได้ถูกแชร์เป็นจำนวนมากบนอินเตอร์เน็ต ทำให้เธอต้องลาออกจากงาน แต่ทุกคนที่แชร์ก็เข้าใจทีหลังว่าเธอไม่ได้เป็นฝ่ายที่จะทำภาพฉาวแบบนี้ออกมา เป็นเพราะผู้จัดการหื่นนั้นเอง…. [ads]   ขอบคุณเนื้อหาและภาพจาก http://ck101.com/thread-3397052-1-1.html   [ads=center]

เกิดมามีปมตัวเป็นหญิงแต่ดันมีรสนิยมชอบเพศเดียวกัน!!! ของแบบนี้มันห้ามกันไม่ได้ เป็นสาวห้าวหรือทอมบอยให้เพื่อนๆพากันล้อพากันแซว ชีวิตของ น้องฝน ทอมนักสู้ที่ลุกขึ้นมาปฏิวัติตัวเองจากทอมขี้เหร่ถ่ายทอดเรื่องของตัวเองในเฟสบุค Namfon Chaikitwattana จากอดีตทอมหน้าเหียกมีปมในชีวิตเพราะความขี้เหร่ ไปจีบใครไปคุยกับใครก็ไม่มีใครชอบ โดนแกล้งจนเกิดจุดพลิกในชีวิตทำให้ ฝน เกิดกลับใจหันมาทำสวย เก็บหอบรอมริบไปทำศัลยกรรมซะสวยชนิดที่เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ ‘’หนูเป็นเด็กบ้านนอกค่ะ สมัยมัธยมเพื่อนและรุ่นพี่หลายคนชอบดูถูกและแกล้งเราด้วยความที่เราเป็นคนไม่สวย ไม่ได้หน้าตาดี อะไร สิวเต็ม ดั้งไม่มี หน้าตาธรรมดา จนมันเป็นปมในใจของเรา บางครั้งเก็บมาคิดสารพัด แอบนอนร้องไห้บ้างและน้อยใจว่าทำไมต้องเป็นเรา ที่โดนอะไรแบบนี้คนอื่นมองเป็นเรื่องสนุกปาก แต่เรากลับนั่งทุกข์ใจทุกวันเพียงแค่คำพูดจากปากของคนไม่กี่คน”   [ads] ขี้เหร่ไม่พอยังเรียนหนังสือสอบได้ที่โหล่ของห้องอย่างเสมอต้นเสมอปลาย!! จนทางบ้านหนักอกหนักใจว่า คนแอร๊ยยย!! ทำไมหาดีอะไรเลยไม่ได้สักอย่าง กลายเป็นปมชีวิตให้กับน้องฝน ทอมนักสู้ เข้าไปอีก  “การเรียนสมัยมัธยมหนูก็ไม่ได้เป็นเด็กเรียนดีอะไรนะคะ เรียนติด 0 เกรด 1 มาตลอด บวกกับเป็นเด็กที่ติดเพื่อนและติดเที่ยวมาก ทำให้พ่อแม่หนักใจสุดๆ มีช่วงหนึ่งที่บ้านประสบปัญหา รายได้ไม่เข้ามาเยอะเหมือนแต่ก่อน บอกก่อนเลยว่าหนูเป็นลูกครอบครัวคนจีน ในจังหวัดสงขลา ที่บ้านทำธุรกิจสวนยางธรรมดาทั่วๆไป ช่วงนั้นเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของชีวิต การที่หนูเห็นป๊ากับแม่เครียดหนักมาก ทั้งเรื่องเราเองและเรื่องเงินที่กำลังประสบปัญหา ทำให้ฝนรู้สึกว่าเราจะต้องทำอะไรสักอย่าง” ถึงจะเรียนโง่แต่ ฝนกลับมีพรสวรรค์ในงานศิลปะและงานออกแบบจนเป็นที่มาทำให้ ฝน เริ่มต้นเก็บเงินจากตรงนี้เพื่อไปแก้ปมความขี้เหร่หน้าเน่าหน้าสิว นั่นคือการทำศัลยกรรมซะแบบเพื่อนเก่าเพื่อนแก่ที่ชอบแซวนักแซวหนา พากันตาค้างตะลึงกันทั้งโรงเรียน  “เริ่มคิดที่จะหาเงินใช้ โดยไม่ลำบากพ่อแม่ การหาเงินครั้งแรกของหนูคือรับตกแต่งแฟนเพจและเว็บไซต์ […]

เรื่องนี้ไม่เคยมีใครเคยรู้มาก่อน สำหรับเด็กวัยอายุ 18 ปีคนนี้ น้องนัท สมิตา ไผ่งาม เจ้าของเฟสบุ๊ค Samita Pai-ngam เด็กสาวนักสู้ ที่มีธุรกิจของตัวเองตั้งแต่มอ3 เล่าประสบการณ์ชีวิตที่ไม่น่าเชื่อว่าเป็นเด็กวัย 18ปีจริงๆ!! เธอสามารถเลี้ยงดูแลแม่และครอบครัวของเธอได้อย่างสุขสบาย  ส่งตัวเองเรียนมาตลอด หาเงินเป็นล้านๆมาปลดหนี้ให้แม่จนหมด เปิดร้านขายอุปกรณ์เบเกอรี่ให้แม่ตามความฝันของแม่เธอ มีที่ดินเป็นของตัวเอง ทั้งหมดนี้เธอหามาด้วยน้ำพักน้ำแรงของเธอเอง นอกจากนี้เธอยังมีเงินเก็บในบัญชีอีก 2-3 ล้านไว้ลงทุนหมุนเวียนธุรกิจของเธอ ตอนนี้กำลังศึกษาอยู่ชั้นมอปลาย เรียนไปด้วยทำธุรกิจของเธอไปด้วยอย่างน่าเหลือเชื่อ! [ads] “หนูเริ่มขายของในไอจีตั้งแต่มอ3ค่ะ คือแม่หนูขายน้ำตามตลาดนัดค่ะ ช่วงหน้าฝนแม่ขายของไม่ได้เลย ตั้งร้านแป๊ปเดียวก็เก็บแล้ว ช่วงหน้าร้อนขายดีแต่แม่จะโดนแดดเต็มๆ หนูเห็นแม่ลำบากหนูคิดว่าหนูต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว หนูต้องช่วยแม่แบ่งเบาได้บ้างแหละ หนูก็ไปติดต่อเรื่องทำแบรนด์สินค้า ตอนนั้นหนูสั่งผลิตแค่โลเดียวหนูจำได้ดีตอนนั้นไม่มีลูกค้าที่อื่นเลยนอกจากเด็กที่ ร.ร.หนู 5555 ตอนแรกพอแม่รู้ว่าหนูขายครีมคือแม่บอกว่าหนูหาเรื่อง เขาบอกว่ามีหน้าที่เรียนก็เรียนไป หนูก็ไม่ฟัง ทำต่อไป พอขายไปสักพักก็เริ่มมีทุนมีเงินเก็บ หนูก็ไปคุยกับทางโรงงานขอสูตรเฉพาะของหนูแบบที่ไม่เหมือนใคร จนได้สูตรหนึ่งหนูลองเองใช้เองมานาน  พอเอาออกมาด้วยความแปลกใหม่เลยทำให้ขายดีมาก รีวิวเยอะมากเลย ลูกค้าใช้แล้วบอกต่อกัน”  “ตัวแทนหนูเก่งด้วยช่วยกันขาย จนยอดขาย 6,000 กระปุกภายในหนึ่งเดือน กลับมาจาก ร.ร.หนูจะมานั่งแพ็คของ แม่จะเป็นคนส่งของให้เวลาหนูไปเรียน หนูเก็บเงินเรื่อยๆพอครบ แต่ละแสนหนูจะโอนเข้าบัญชีแม่ไว้ สะสมไปเรื่อยๆจนมีเงินล้าน […]

ทำเอาบรรดาชาวเน็ตถึงกับตะลึงในความเปลี่ยนแปลงที่ไปในทางที่ดีของหนุ่มนักร้องเสียงดีจากเวที The Voice ซีซั่น 1 ธนนท์ จำเริญ จนถึงขั้นต้องไปตั้งเป็นกระทู้กันในเว็บพันทิปกันเลยทีเดียว ชื่อกระทู้ว่า "ไม่น่าเชื่อ!!!! น้องมาไกลมากกกกก ขนาดนี้ได้ไง!!!" อิอิ เราลองไปดูกันสิว่าฮีจะเปลี่ยนไป.ขนาดไหนน๊าา  [ads]   [ads=center]

  ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี "น้องโบว์ เวนด้า" แฟนสาวของพระเอกหนุ่ม "ปอ ทฤษฎี" ได้อุ้ม "น้องมะลิ" ลูกสาววัย 2 ขวบ ซึ่งเป็นลูกของโบว์และปอ หลังจากการสอบถามผู้จัดการส่วนตัวของปอว่า น้องมะลิ เป็นลูกของปอจริงๆ เหตุผลที่พามาเพราะอยากให้ลูกได้มาเจอและเป็นกำลังให้คุณพ่อ   ขอบคุณข้อมูลจาก khaosod ขอบคุณภาพจาก matichon   [ads=center]