ทั่วไป

Advertisement   Advertisement วันนี้ (24 ม.ค.) นายสกลธี ภัททิยกุล อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กรุงเทพมหานคร พรรคประชาธิปัตย์ และแกนนำกปปส. โพสต์ข้อความทางเฟสบุ๊ก กรณีพนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 4 มีกำหนดนัดให้ผู้ต้องหาในคดีพิเศษ ที่มี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. กับพวกน มาพบเพื่อทราบคำสั่งและการกำหนดส่งตัวผู้ต้องหาต่อศาลอาญาในข้อหาร่วมชุมนุมฯ, ร่วมกันเป็นกบฏ และข้อหาอื่นในวันนี้ (24 ม.ค.) โดยนายสกลธี โพสต์ข้อความระบุว่า วันนี้แกนนำ กปปส. หลักๆ รวมทั้งตัวผมที่โดนฟ้องไปก่อนแล้วกำลังจะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมต่อสู้คดีกบฎ อั้งยี่ ซ่องโจร บุกรุกสถานที่ราชการและขัดขวางการเลือกตั้ง รวมถึงก่อการร้ายที่โดนบางคน…พวกผมไม่หนี ไม่เบี้ยว ยอมรับในกระบวนการยุติธรรม เพราะฉะนั้นไอ้วาทกรรม 2 มาตรฐานที่ชอบพูดๆ กันน่าจะเลิกเอาไปใช้หากินได้แล้วนะครับ…ถ้าจะไม่จบก็คือการ 2 มาตรฐานแบบที่มีเงินแล้วหลบหนีกระบวนการยุติธรรมปล่อยให้คนอื่นโดนคดีแล้วติดคุกแทนนี่แหละ Advertisement โดนคดีมากมายไม่เท่าไหร่…แต่ติดอยู่นิดเดียวว่าโดนตั้งข้อหาร่วมเป็นกบฎกับนายสุเทพซะงั้น…ถ้าจะให้ถูกต้องร่วมเป็นกบฎกับประชาชนเป็นล้านๆ คนต่างหาก       ข้อมูลจาก : สกลธี ภัททิยกุล

  23 ม.ค.61 เฟซบุ๊ก Weeraboon Wisartsakul โพสต์ภาพหนังสือคำสั่งราชการจากสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สนองนโยบายนายกรัฐมนตรีในการปรับปรุงระบบการศึกษาให้เข้ากับบริบทของสังคมโลก โดย 1 ในประเด็นที่น่าสนใจจนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างมากก็คือ "2. กรณีการสนับสนุนงบประมาณให้อุดมศึกษา ให้ควบคุมสาขาที่ไม่มีงานทำ/ไม่ตรงความต้องการ การลดเงินอุดหนุน หรือไม่ให้ เช่น จีน ทำเหตุผล จบมาไม่มีงานทำ ต้องใช้หนี้ กยศ./ปัญหาต่อเนื่อง" ซึ่งเป็นประเด็นสะเทือนวงการการศึกษาระดับอุดมศึกษาเป็นอย่างมาก ในเรื่องของการจ้างงานของอาจารย์มหาวิทยาลัย ที่อาจต้องเปลี่ยนสถานะเป็นลูกจ้าง และรายได้อาจลดลง ในขณะที่นิสิต-นักศึกษา อาจต้องเบนเข็มไปเรียนสาขาที่ตรงความต้องการของตลาดแรงงาน     โดยโพสต์ดังกล่าวถูกแชร์ออกไปกว่า 2,000 ครั้ง และถูกพูดถึงกว่า 200 ความคิดเห็นถึงปัญหาดังกล่าว อย่างไรก็ดี ต้องติดตามต่อไปว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัดในแบบใดบ้างหรือไม่     ขอบคุณข้อมูลจาก : Weeraboon Wisartsakul

  คู่ไหนใครเลิก แต่คู่นี้เชิดใส่ และเซอร์ไพรส์มากๆๆๆๆๆ เพราะถ้าบอกใครไปจะตกใจทาบอกหมดเลย เพราะมีข่าวรั่วออกมา สำหรับสัมพันธ์แบบมากกว่าคู่จิ้นของ เต๋อ ฉันทวิชช์ กับนางเอกพันล้าน ใหม่ ดาวิกา… อะ!! ช็อกป่ะล่ะ เรื่องมันมีอยู่ว่า ดาวิ คนสวยของเราก็มีคนมาจีบเพียบ แต่เธอก็ไม่ยอมเซย์เยสกับใคร จนมาเจอะ พี่เต๋อ คนหล่อ คารมดี แถมตลกด้วย จากที่ร่วมงานในละคร ชายไม่จริงหญิงแท้ เลยทำให้สนิทชิดเชื้อกันมากขึ้น จากที่ไม่ค่อยได้เปิดใจ ใหม่ก็พูดคุย น่ารัก ประกอบกับบทละครในเรื่องก็พาจิ้น มี kiss เบาๆ เลยทำให้มีคนแซว เต๋อกับใหม่ มากขึ้น อย่างล่าสุดที่ลงรูปโปรโมตละครตอนจบ จับมือกันแน่น แล้วคนก็เข้ามาแซวกันเพียบ งานนี้แหล่งข่าวเพื่อนสนิทระบุชัดว่า น้องใหม่ กับ พี่เต๋อ ศึกษาดูใจกันมา 3-4 เดือนแล้ว แต่จะใช้คำว่า พี่น้อง หรือ แฟน หรือเปล่า ..ไว้นักข่าวเจอคงได้ถามทั้งคู่เองแหละ ยังไงคนรักกันเราก็ดีใจด้วยแหละ…และคาดว่าไม่ใช่แค่กระแสโปรโมตละคร เพราะจบไปสักพักแล้ว…จริงไม่กลัว กลัวแต่คนไม่จริง อิอิ! […]

  นายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการคณะกรรมการป.ป.ช. แถลงยอมรับว่า การสอบสวนเรื่องแหวนเพชรและนาฬิกาหรูของ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จำเป็นต้องตรวจสอบให้ชัดเจนว่า มีนาฬิกาปรากฎออกมา 25 เรือนจริงๆ หรือ มีภาพซ้ำกัน ซึ่งต้องใช้เวลาในการตรวจสอบ ดังนั้น กรณีนี้คาดว่าจะสอบสวนแล้วเสร็จ และนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุมป.ป.ช.ได้ช่วงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์นี้ ซึ่งทางประธานป.ป.ช.ได้แจ้งต่อที่ประชุมแล้วว่า หากมีวาระเรื่องของการพิจารณากรณีนาฬิกาหรูนี้ ก็จะขอถอนตัวไม่เข้าร่วมพิจารณาสำนวนนี้ เลขาธิการคณะกรรมการป.ป.ช. ระบุว่า ได้เข้าไปตรวจสอบที่ศูนย์จำหน่ายนาฬิกายี่ห้อที่ปรากฎเป็นข่าวแล้ว และได้สอบพยานที่เกี่ยวข้องไปแล้ว 3 ปาก เหลือเพียงหนึ่งราย ที่เดินทางไปต่างประเทศ ซึ่งจะเดินทางกลับมาให้ข้อมูลกับป.ป.ช.ในสัปดาห์หน้า แต่ยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียดว่า มีพยานรายใดยืนยันความเป็นเจ้าของนาฬิกาบ้าง ขณะเดียวกัน ก็ยอมรับว่า ตามกฎหมายของป.ป.ช.ให้ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองแสดงบัญชีทรัพย์สิน เฉพาะที่เป็นของตนเอง คู่สมรส และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะเท่านั้น ดังนั้น ถ้านาฬิกาทั้งหมดเป็นของบุคคลอื่น พลเอกประวิตรก็ไม่จำเป็นต้องแสดงรายการทรัพย์สิน ทั้งนี้ ระหว่างการแถลงข่าว เกิดความวุ่นวายขึ้นเล็กน้อย เมื่อได้มีตัวแทนภาคประชาชนบุกมามอบกรอบรูปให้กับ ป.ป.ช. และเรียกร้องให้ตรวจสอบเรื่องนาฬิกาหรูอย่างตรงไปตรงมา โดยรูปภาพที่นำมามอบให้เป็รูปลิง สวมนาฬิกา และทำสัญลักษณ์ ปิดหู ปิดตา ปิดปาก และรูปหมูใส่เครื่องแบบ […]

  เข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์เพื่อศึกษาธรรมะและทำหน้าที่ลูกผู้ชายอย่างสมบูรณ์เป็นที่เรียบร้อย สำหรับหนุ่ม แดน-วรเวช ดานุวงศ์ และล่าสุดเจ้าตัวได้ฤกษ์สึกออกมาเดินหน้าทำงานให้แฟน ๆ หายคิดถึงกันแล้ว งานนี้เมื่อได้เจอเจ้าตัวเลยพลาดไม่ได้ต้องให้เจ้าตัวเปิดใจถึงความรู้สึกหลังบวชเรียน พร้อมทั้งที่คนจับตามองว่าบวชแล้วเตรียมจะมีข่าวดีหวานใจ แพทตี้-อังศุมาลิน สิรภัทรศักดิ์เมธา แล้วหรือยัง               แดน เปิดเผยว่า หลังจากบวชแล้วก็ดีครับ สงบดี หลัก ๆ เป็นเรื่องของการชำระล้างจิต เหมือนเราได้เคลียร์เรื่องราวที่ไม่จำเป็นในชีวิต ทำให้จิตเราสะอาดขึ้น มันทำให้สภาพจิตใจเราดีขึ้นเยอะมาก ผมไม่ได้ตั้งใจบวชเงียบ ๆ ขนาดนั้น เราเองก็บอกเท่าที่บอกคนได้ครับ เพราะว่าวัดที่บวชเดินทางค่อนข้างลำบากไปไกลมากต้องขึ้นเขา การจัดงานของเราจริง ๆ ไม่ได้มีแห่ใด ๆ ไปถึงก็บวชเลย ตอนบวชก็ได้ฝึกสมาธิเยอะมาก ค่อยคิดค่อยทำ ใจเย็นขึ้นครับ ส่วนนิสัยก็คงเหมือนเดิม แต่อาจจะปล่อยวางได้มากขึ้น ส่วนที่คนจับตามองว่าบวชแล้วอาจจะเบียดเลย ก็ยังไงเรื่องเบียดมันได้เบียดแน่ครับ แต่คงไม่ใช่เร็ว ๆ นี้แค่นั้นเอง อย่างน้อยก็สบายใจว่าบวชแล้ว เรื่องแพลนแต่งงานผมมองช่วงเวลาที่สมควรมากกว่า จริง ๆ ก็มีอยู่ในหัวของลูกผู้ชายคนหนึ่งที่ควรจะรับผิดชอบอะไรบางอย่าง แต่ก็พยายามทำอะไรให้มั่นคงก่อน สำหรับเรื่องสินสอดไม่กังวลเลย ตอนนี้ผมสร้างความมั่นคงเป็นหลัก เพราะว่าเราไม่อยากให้วันหนึ่งที่เราแต่งงานไปมีปัญหาเหนื่อยกับการไม่มีเงิน สุดท้ายเป็นปัญหาทะเลาะกันอีก ผมกับน้องก็คุยกันเรื่องแต่งงาน ถือเป็นการคุยกันจริงจัง บอกเพื่อให้น้องสบายใจว่าชีวิตไม่ได้ล่องลอยขนาดนั้น น้องเองก็น่าจะสบายใจขึ้นนะ เรื่องความพร้อมของน้อง […]

  วันที่ 23 ม.ค. จากกรณีเหตุการณ์ที่ชายใส่สูทกับชายเสื้อม่วง ได้ชกต่อยกันกลางถนนสุขุมวิท หน้าตลาดอ่อนนุช สืบเนื่องจากเหตุ รถ จยย. เฉี่ยวชนรถเบนซ์ที่บริเวณใต้สถานีรถไฟฟ้าพระโขนง มีพลเมืองดีที่เห็นเหตุการณ์ขี่ จยย. ติดตามมาทันกันบริเวณ หน้าตลาดอ่อนนุช จึงเกิดมีปากเสียงและชกต่อยกันขึ้น ปรากฏตามคลิป โดยชายที่สวมเสื้อยึดสีม่วง เป็นคนที่ขี่ จยย. เฉี่ยวรถเบนซ์ ชายสวมสูทขี่รถติดตามมา โดยวันที่ 23 ม.ค. นายดณุพล วะรงค์ อายุ 33 ปี ชายเสื้อม่วงได้เข้ามาพบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สน.พระโขนง เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาขี่จักรยานยนต์ไม่สวมหมวกกันน็อก ขี่รถไม่ติดป้ายทะเบียน ส่วนเรื่องทำร้ายร่างกายต้องรอให้คู่กรณีมาพบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และทำการตรวจผลร่างกายอีกครั้ง     ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ สน.พระโขนง ว่า คู่กรณีชายที่ใส่สูทไม่ได้เดินทางมาที่สถานีตำรวจในวันดังกล่าว อีกทั้ง ผู้ใช้เฟซบุ๊กคุณ Namemes Trd ได้โพสต์ข้อความเมื่อเวลา 10.51 น. วันเดียวกันว่า “ฝากถึงพี่ๆนักข่าวนะครับ ผมขออนุญาตไม่ให้ข้อมูลใดๆหรือสัมภาษณ์เรื่องคลิป อีกแล้วนะครับ ทางพี่เสื้อสูท เขาไม่ติดใจเอาความใดๆทั้งสิ้นครับ” […]

กลายเป็นเรื่องราวที่ทำให้มีคนเข้ามาสนใจกันเป็นจำนวนมากเลยทีเดียว สำหรับสาวสวยที่เดินตากฝนกลับบ้านคนเดียวจนได้มีเว็บไซต์ต่างประเทศได้เผยแพร่ภาพเหล่านี้ออกมา จึงทำให้ชาวบ้านแถวนั้นพากันมุงดูเธอกันเป็นจำนวนมาก แต่ที่เด็ดไปกว่านั้นคือชุดที่เธอใส่นั้นบางจนเห็นข้างในนั้นเอง แหม๋ๆแต่งตัวแบบนี้ใครไม่มองก็บ้าแล้วแม่คุณเอ๊ย เอาเป็นว่าเราไปชมพร้อมๆกันดีกว่าว่าจะเด็ดแค่ไหน ขอบคุณที่มา : ck101

เชื่อว่าในประเทศนี้ไม่มีใครไม่รู้จักพวกเขาอย่างแน่นอน สำหรับ “แก๊งสามช่า” เป็นกลุ่มบุคคลกลุ่มหนึ่งในวงการตลกไทยที่ประกอบด้วย “หม่ำ จ๊กมก” “เท่ง เถิดเทิง” และ “โหน่ง ชะชะช่า” ทำหน้าที่เป็นตลกสร้างเสียงหัวเราะประจำรายการเกมโชว์ “ชิงร้อยชิงล้าน” และยังเป็นสัญลักษณ์สำคัญของบริษัท เวิร์คพอยท์ ด้วยเรียกได้ว่าตอนนี้มีอิทธิพลในวงการทีวีและโซเชียลอย่างมาก ล่าสุดเป็นภาพที่เห็นแล้วอดยิ้มไม่ได้จริงๆ เมื่อ เท่ง เถิดเทิง ได้โพสต์ภาพมอบของขวัญให้กับ หม่ำ จ๊กมก แต่แทนที่พี่หม่ำจะยิ้มด้วยความดีใจกับทำหน้าเสียงอารมณ์ซะอย่างนั้น แหมจะไม่ให้พี่หม่ำเสียงอารมณ์ได้ไงก็ของขวัญที่ได้นั้นมันเป็น น้ำดื่มเวิร์คพอยท์ ที่พี่หม่ำกินทุกวันอยู่แล้ว ขอบคุณที่มา : FB : เท่ง เถิดเทิง แฟนคลับ