รวมวิธีแก้เวียนหัวและคลื่นไส้!! ได้ผลดีแน่นอน

Advertisement สวัสดีครับทุกท่าน วันนี้เราได้รวบรวมวิธีแก้อาการเวียนหัว คลื่นไส้ จากการเมารถ เมาเรือ เครื่องบิน แพ้ท้อง เครียด  ด้วยวิธีง่ายๆ ที่ทุกคนทำได้เมื่อเกิดอาการเหล่านี้ครับ Advertisement แก้อาการเวียนหัวจากสาเหตุต่างๆได้ดังนี้ เมารถ ควรกินยาเมารถก่อนเดินทาง 30-60 นาที นั่งในส่วนที่โปร่งที่สุดในรถ และมองไปข้างหน้าในจุดที่มีการเคลื่อนไหว ถ้าเมามากกินยาแล้วไม่หาย ให้กินยาเพิ่มแล้วนอนหลับ เวียนศีรษะจากการขึ้นที่สูง ให้นั่งลงกับพื้นและมองสิ่งใกล้ตัว นั่งพักจนหายเมาแล้วค่อยเดินทางต่อ คลื่นไส้จากสารพิษหรือแอลกอฮอล อาจล้วงคอให้อาเจียนแล้วนอนพัก หากอาเจียนตลอดเวลาหรืออาเจียนเป็นเลือด ควรพบแพทย์ทันที เวียนศีรษะจากการเปลี่ยนท่า โดยเฉพาะจากท่านั่งยองๆ เป็นท่ายืน แสดงว่าร่างกายไม่แข็งแรง เลือดไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ จึงเกิดอาการเวียนศีรษะ หรือหน้ามืดเป็นลมได้ เมื่อเกิดอาการให้รีบนั่งหรือนอนลงทันที เพราะอาจหมดสติและล้มลง เกิดอันตรายได้ และเมื่อหายจากอาการ ควรหาเวลาออกกำลังกายท่าบริหารเข่า ทำเป็นประจำช่วยลดอาการได้ เวียนหัว-บ้านหมุน ถ้ามีอาการเวียนหัวเฉียบพลัน เห็นบ้านหรือสิ่งของหมุนจนเสียการทรงตัว อาจคลื่นไส้อาเจียนร่วมด้วย แสดงว่าสมดุลในร่างกายผิดปกติ หรือเกิดจากอาการของโรคบางชนิด เช่น สมองขาดเลือด เครียด อดนอน ดื่มสุรา หูชั้นในอักเสบ ไมเกรน เนื้องอกในสมองหรือหู เมื่อมีอาการควรนอนพัก ดื่มน้ำอุ่นหรือน้ำเกลือแร่บ่อยๆ จะลดอาการคลื่นไส้ได้ และควรไปพบแพทย์ Advertisement ไมเกรน […]

แจกสูตร 4 น้ำซุปรสเลิศ!!! พร้อมเคล็ดลับ

น้ำซุปนั้นเรียกได้ว่าเป็นหัวใจของแกงจืด ต้มจืดและก๋วยเตี๋ยวเลยก็ว่าได้นะครับ จะอร่อยหรือไม่อร่อยก็อยู่ที่เจ้าน้ำซุปนี่แหละ วันนี้เรามีสูตรและเคล็ดลับการต้มน้ำซุปมาฝากทุกๆท่านครับ แหม่..ใช่ว่าจะต้มกันง่ายๆนะครับ เรามาดูกันเลยครับ หลักของการต้มน้ำซุป  1. ต้องใช้หม้อใบใหญ่และมีฝาปิด ควรใช้หม้อที่มีหูจับได้สะดวกต่อการยกขึ้นอุ่นบนเตาครับ 2. วัตถุดิบที่จะน้ำมาต้มเป็นน้ำซุปต้องสด กระดูกสับชิ้นใหญ่ประมาณ 4 นิ้ว เนื้อหั่นชิ้นเล็กๆ ตัดส่วนมันออกให้หมด ผักที่เป็นหัวๆ ให้ปอกเปลือกแล้วหั่น ส่วนผักชนิดอื่นตัดเป็นท่อน ๆ 3. น้ำกระดูกที่สำหรับต้มน้ำซุปแช่ในน้ำประมาณ 2 ชม. เพื่อให้น้ำหวานในกระดูกออก ใช้ไฟกลาง จนกว่าจะเดือด ใช้ทัพพี ช้อนฟองทิ้งเคี่ยวไฟ อ่อนๆต่อไป เมื่อน้ำซุปจวนจะได้ที่แล้ว ใส่ผัก และเคี่ยวต่อไป 4. กรองน้ำซุปด้วยตะแกรงและใช้ผ้าขาวบาง วางใต้ตะแกรงอีกชั้นหนึ่ง ส่วนไขมันที่ลอยหน้ายังไม่ต้องช้อนทิ้งจนกว่าจะใช้ เพราะไขมันนี้จะช่วยไม่ให้อากาศเข้าไปในน้ำซุป ซึ่งจะทำให้เสียง่าย น้ำซุปที่ดีต้องใส ควรทำล่วงหน้าก่อนที่จะใช้หนึ่งวัน ไม่ควรเก็บไว้นานวัน เฉพาะอย่างยิ่งในที่ๆมีอากาศร้อน สูตรน้ำซุปชนิดต่างๆ น้ำซุปกระดูกเนื้อวัว   -สับกระดูกที่ตัดเศษเนื้อและมันออกให้หมด ประมาณ1/2กิโลกรัม -ใส่น้ำ 8-10 ถ้วยลงในหม้อ ใส่เกลือ 1 ช้อนชา แช่ ไว้ประมาณ 20-30 นาที เพื่อให้น้ำหวานในกระดูกออก […]

สูตรหน้าใสจากมันฝรั่ง!!ที่ไม่ได้มีดีแค่ทำเฟรนช์ฟราย!!

ท่านใดที่กำลัประสบปัญหาใบหน้าหมองคล้ำ ไม่ขาวใส วันนี้เรามีสูตรหน้าขาวใสมาแนะนำกันครับ โดยใช้"มันฝรั่ง" ใช่ครับ…มันฝรั่งที่ไว้ใช้ทำ French Fried นี่แหละครับสามารถทำให้หน้าขาวใสได้ เรามารู้จักและวิธีการทำกันเลยครับ  มันฝรั่งอุดมไปด้วยสารอาหารหลายชนิด เช่น โพแทสเซียม และคาร์โบไฮเดรต เมื่อรับประทานเป็นประจำจะมีส่วนในการช่วยควบคุมระดับความดันโลหิตของกระแสเลือดให้เป็นปกติ ช่วยป้องกันการเกิดโรคหัวใจ ช่วยให้ระบบย่อยอาหารภายในร่างกายทำงานได้ดีขึ้น  สำหรับสูตรหน้าขาวใสจากมันฝรั่งนั้น จะเป็นวิธีการมาร์คหน้าโดยใช้มันฝรั่ง เหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีใบหน้าหมองคล้ำ มีกระ ฝ้า และจุดด่างดำบนใบหน้า รวมไปถึงรอยดำที่เกิดจากสิว นอกจากนี้สำหรับใครที่มีปัญหาเกี่ยวกับสิว ไม่ว่าจะเป็น สิวหัวดำ สิวอักเสบ สิวอุดตัน สิวผด สูตรหน้าขาวใสจากมันฝรั่งสูตรนี้ยังสามารถช่วยลดปัญหาต่างๆ เหล่านี้ให้คุณได้เป็นอย่างดี  วัตถุดิบในการทำ – มันฝรั่ง 1 หัว -นมสดพร่องมันเนย 3 ช้อนโต๊ะ วิธีการทำ ล้างมันฝรั่งให้สะอาด จากนั้นนำไปปลอกเปลือกแล้วนำไปต้มจนสุก เมื่อสุกแล้วนำมาบดให้ละเอียดนำมาผสมกับนมสด คนให้เข้ากันจนเป็นเนื้อเดียวกัน จากนั้นให้นำส่วนผสมที่ได้มาทาให้ทั่วบริเวณใบหน้ายกเว้นบริเวณรอบดวงตา และริมฝีปาก โดยในระหว่างการทาให้ใช้นิ้วมือคลึงเบาๆ เป็นวงกลมให้ทั่วใบหน้า เพื่อให้เนื้อครีมซึมซับเข้าสู่ใบหน้าได้ดียิ่งขึ้น เสร็จแล้วให้ทิ้งไว้ประมาณ 25-30 นาที แล้วล้างออกให้สะอาดเป็นอันเรียบร้อย สำหรับสูตรหน้าขาวใส จากมันฝรั่งสูตรนี้ควรทำสัปดาห์ละ 2 […]

3 เครื่องดื่มสยบอารมณ์แปรปรวน!! ดื่มแล้วอารมณ์ดี

เชื่อว่าสาวๆทุกท่านก็คงต้องเคยมีอารมณ์หงุดหงิด ฉุนเฉียว ทุกอย่างมันขวางหูขวางตาไปหมด จนไม่มีใครอยากอยู่ใกล้กันแน่นอนเลยใช่มั้ยครับ จริงๆแล้วภาวะอารมณ์แปรปรวนแบบนี้เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเพศหญิง (ฮอร์โมนเอสโทรเจน) ในช่วงก่อนมีประจำเดือน ส่งผลให้เกิดอาการหงุดหงิด วิตกกังวล และอารมณ์เปลี่ยนแปลงง่าย บางรายมีอาการปวดศีรษะและนอนไม่หลับร่วมด้วย โห..เรื่องว่าหนักเอาการเลยนะครับ วันนี้เราจึงมีเครื่องดื่มที่จะช่วยให้สาวๆนั้น อารมณ์ดีขึ้นได้ครับ 1.นมถั่วเหลือง ถ้าดื่มเป็นประจำจะทำให้อารมณ์ดี ไม่โมโหง่าย เพราะในนมถั่วเหลืองมีกรดไขมันอิ่มตัวต่ำ ทางตรงกันข้าม หากร่างกายได้รับกรดไขมันอิ่มตัวมากเกินไปจะทำให้ระดับฮอร์โมนเอสโทรเจนเพิ่มขึ้น กระตุ้นให้อารมณ์ฉุนเฉียว วิตกกังวลและหงุดหงิดง่ายอย่างแน่นอน   2.ดื่มน้ำผลไม้สด  ขอเป็นผลไม้คั้นสด ไม่เติมน้ำตาลนะครับ โดยดื่มแทนน้ำหวาน เนื่องจากน้ำตาลปริมาณมากในน้ำหวานจะส่งผลให้ระดับสารสื่อประสาทเซโรโทนินในสมองเพิ่มขึ้นและลดลงอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดอาการซึมเศร้าและอ่อนไหวได้ง่าย เมื่ออ่อนไหวง่าย แน่นอนครับไม่ว่าปัญหาอะไรเข้ามารับรองว่า มีอารมณ์ขึ้น!!อย่างแน่นอน 3.ดื่มชาสมุนไพรแทนกาแฟ เพราะสารกาเฟอีนในกาแฟกระตุ้นให้เกิดอาการหงุดหงิดฉุนเฉียว โกรธง่าย กระวนกระวายใจ ดังนั้นช่วงก่อนมีประจำเดือนควรดื่มชาสมุนไพรที่ไม่มีกาเฟอีน จะช่วยให้อารมณ์สงบลงได้ครับ สาวๆที่กำลังอ่านอยู่หรือหนุ่มๆที่ต้องการจะลดอารมณ์หงุดหงิดของเธอ ก็ลองนำไปปฏิบัติตามดูนะครับ "อารมณ์ดี สุขภาพใจก็ดี สุขภาพกายก็ดีตามไปด้วยนะครับ"   เรียบเรียงโดย Thaijobsgov ข้อมูลจาก กรมสุขภาพจิต ภาพจาก google.com [ads=center]    

กินอะไรช่วยให้หลับ?กินอะไรแล้วนอนไม่หลับ วันนี้มีคำตอบ…

ใครบอกกัน? ว่ากินอิ่มแล้วจะช่วยให้หลับสบาย!? ซึ่งในความจริงแล้วอาหารบางชนิดก็ส่งผลกับการนอนหลับของเราเช่นกันครับ วันนี้เราจะมาแนะนำให้ทุกท่านได้ทราบว่า อาหารชนิดไหน ส่งผลกับการนอนของเราครับ  อาหารที่กินแล้วนอนไม่หลับ แหม่…ศัตรูตัวร้ายของเราเลยทีเดียว มีอะไรบ้าง ก็จะเป็นอาหารที่มีสารไทรามีน (Tyramine) ซึ่งจะไปยับยั้งสารเคมีในสมองอย่างนอร์เอพิเนฟรีน (nor epinephrine ) ซึ่งทำให้มีอาการนอนไม่หลับพบได้ทั่วไปใน  "เบคอน ชิส ซ๊อคโกแลต แฮม มันฝรั่ง ไส้กรอก มะเขือเทศ" แล้วอาหารประเภทไหนหละ?ที่ช่วยให้เรานอนหลับสบาย…ก็ได้แก่  "อาหารจำพวกคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน ข้าวกล้อง อาหารจำพวกธัญพืชไม่ขัดขาว" การกินอาหารกลุ่มนี้ในเมื้อเย็นช่วยให้ใช้เวลาในการย่อยไม่มากนัก เมื่อถึงเวลานอน ร่างกายจึงเข้าสู่การนอนหลับได้ง่าย หรือการกินโยเกิร์ต 1 ถ้วยหลังมือเย็นก็จะช่วยให้นอนหลับอย่างสบาย เนื่องจากโยเกิร์ตมีทริปโตแฟน (tryptophan) ซึ่งเป็นสารที่ช่วยเรื่องการนอนหลับอยู่ด้วย และเวลาในการกินก็เป็นสิ่งสำคัญนะครับคือ เราไม่ควรกินกินอาหารเย็นค่ำเกินไป ไม่ควรกินอาหารก่อนเข้านอนอย่างน้อย 3 ชั่วโมงครับ แค่ปฏิบัติตามเพียงเท่านี้เราก็จะหลับอย่างสบายแล้วก็มีสุขภาพที่ดีด้วยครับ   เรียบเรียงโดย Thaijobsgov ข้อมูลจาก กรมสุขภาพจิต ภาพจาก google.com [ads=center]  

เช็คโรคสมองเสื่อมง่ายๆภายใน 1 นาที!!ด้วยตนเอง

สวัสดีครับทุกท่าน หากใครเริ่มมีอาการหลงๆลืมๆ จำอะไรไม่ค่อยได้ ไม่แน่ใจว่าเราเป็นโรคสมองเสื่อมหรือเปล่า วันนี้เรามีวิธีเช็คอาการสมองเสื่อมง่ายๆ ภายใน 1 นาที มาให้ทดสอบกันครับ อุปกรณ์ในการทดสอบ 1.กระดาษเปล่า 4 แผ่น , 2. ดินสอ 1 แท่ง ,3.นาฬิกาจับเวลา วิธีการทดสอบ ให้ เขียนชื่อสี สัตว์ ผลไม้ และจังหวัด อย่างละ 10 ชื่อ ลงในกระดาษ (หัวข้อละ 1 แผ่น) ภายในเวลา 1 นาที วิธีการนับคะแนน นับจำนวนคำตอบที่ถูกต้องด้วยตนเอง หรือให้เพื่อนช่วยตรวจคำตอบ คิดคำตอบละ 1 คะแนน (คะแนนเต็ม 40 คะแนน)​ ผลการทดสอบ 1 – 24 คะแนน เสี่ยงเป็นโรคสมองเสื่อม  25 – 40 คะแนน ไม่เป็นโรคสมองเสื่อม อย่างไรก็ตาม ผู้ที่มีแนวโน้มเป็นโรคสมองเสื่อม […]

ก.แรงงานประกาศกฎหมาย ตั้งแต่26 ต.ค. ช่างไฟต้องมีบัตรประจำตัว ฝ่าฝืนปรับ5,000

ในไม่กี่เดือนก่อนเราคงพอจะทราบข่าวกันมาบ้างสำหรับการยกมาตรฐานวิชาชีพพนักงานรักษาความปลอดภัย (รปภ.) โดยกำหนดให้มีคุณสมบัติต้องจบ วุฒิ ม.3 ล่าสุดอาชีพช่างไฟก็กำลังเข้าคิวอีกอาชีพหนึ่ง โดยกระทรวงแรงงานบังคับให้มีบัตรประจำตัวในการทำงาน ตั้งแต่วันที่ 26 ต.ค.นี้ หากฝ่าฝืนมีบทลงโทษจับ-ปรับจริง !!   ขอบคุณภาพจาก มาดูกัน เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้ออกประกาศกระทรวงแรงงาน เรื่อง กำหนดสาขาอาชีพ ที่อาจเป็นอันตรายต่อสาธารณะ ซึ่งต้องดำเนินการโดยผู้ได้รับหนังสือรับรองความรู้ความสามารถ โดยกำหนดให้ สาขาอาชีพช่างไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์ สาขาช่างไฟฟ้าภายในอาคาร เป็นสาขาอาชีพที่อาจเป็นอันตรายต่อสาธารณะ ซึ่งต้องดำเนินการโดยผู้ได้รับหนังสือรับรองความรู้ความสามารถ ตามพระราชบัญญัติส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน พ.ศ. 2545 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ประกาศกระทรวงแรงงานฉบับดังกล่าว กำหนดให้มีผลใช้บังคับ เมื่อพ้นกำหนด 365 วันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป จึงมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 26 ตุลาคม 2559 เป็นต้นไป ทั้งนี้หากช่างไฟฟ้าฝ่าฝืนไม่มีบัตรประจำตัว จะมีความผิด ปรับไม่เกิน 5,000 บาท นายจ้างที่จ้างแรงงานที่ไม่มีบัตรประจำตัวช่างไฟฟ้า มีความผิดปรับไม่เกิน 30,000 บาท ซึ่งกฏหมายฉบับนี้ดังกล่าว ควบคุมผู้ประกอบอาชีพช่างไฟฟ้าทุกคน (ยกเว้นผู้ที่จบวิศวะฯ และมีใบ กว. ช่างไฟฟ้ากำลัง) นักศึกษาที่จบ ปวช. ปวส. ปริญญาตรี […]

ส้วมตัน ชักโครกตันจะหมดไป ด้วย5วิธีนี้!!

พ่อบ้านแม่บ้านหลายท่านคงจะเคยประสบปัญหา"ส้วมตัน"กันใช่มั้ยหละครับ? สาเหตุมันก็ไม่มีอะไรมากมายนอกจากการทิ้งสิ่งของที่ไม่สามารถย่อยสลายได้ลงไปในชักโครกเช่น กระดาษชำระ ผ้าอนามัยเป็นต้น วันนี้เราจะมาบอกวิธีแก้ปัญหาส้วมตัน ชักโครกตันง่ายๆด้วย 5 วิธีนี้ครับ 1.ลูกยางปั๊ม วิธีBasicอันดับแรกๆที่เราเลือกใช้กันนะครับ เพราะว่าลูกยางมันหาซื้อง่าย มีขายทั่วไปครับ วิธีใช้ก็ให้สวมหัวลูกยางลงในคอชักโครก แล้วใช้แรงกดตามจังหวะ ฮึ้บๆๆๆ ด้วยแรงอัดของลูกยางและพละกำลังของเราเองก็สามารถทำให้สิ่งอุดตันหลุดออกไปได้ครับ แต่ขอเตือนว่าวิธีนี้อาจจะ"เลอะ"ซักนิดนึง ต้องระมัดระวังนะครับ 2. โซดาไฟ เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ได้รับความนิยมเช่นกันครับ เพราะโซดาไฟนั้นมีฤทธิ์กัดกร่อน มันจะช่วยทะลุทลวงสิ่งที่อุดตันให้หลุดไปได้ วิธีใช้ก็คือให้ผสมโซดาไฟกับน้ำอุ่น(เวลาผสมให้ค่อยๆเทลงไป เนื่องจากจะมีควันออกมาและระวังอย่าให้ควันถูกหน้าหรือเข้าตา) ใส่ถุงมือป้องกันก่อน แล้วราดโซดาไฟลงไปที่ชักโครกไม่นานสิ่งที่อุดตันก็จะหลุดออกไป 3.สายงูเหล็ก  ซึ่งมีลักษณะเป็นเส้นโลหะยาวๆมาพร้อมหัวจับ วิธีใช้ก็คือสอดสายงูเหล็กนี้ลงไปในชีกโครกให้ลึกที่สุด แล้วหมุนด้ามจับไปมา แรงหมุนจะช่วยตีคว้านให้สายโลหะดันสิ่งที่อุดตันออกไปจากท่อครับ สายงูเหล็กที่ว่านี้หาซื้อได้ตามร้านวัสดุก่อสร้างทั่วไปครับ 4.น้ำยาล้างท่ออุดตัน  น้ำยาประเภทนี้มักจะมีสารละลายไขมันหรือสิ่งต่างๆที่ไปอุดตันอยู่ในชักโครกโดยจะเป็นสารละลายที่ทำให้เกิดความร้อน เจ้าความร้อนที่เกิดจากปฏิกิริยาที่ว่านี้ จะช่วยละลายสิ่งอุดตันให้หลุดออกไปจากท่อชักโครกได้ แต่น้ำยาพวกนี้เป็นสารกัดกร่อน เวลาใช้จึงต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ ด้วยการสวมถุงมือครับ "ถ้าทำมาทั้งหมด 4 วิธีแล้วยังไม่หาย ต้องใช้วิธีต่อไปนี้แล้วหละครับ" 5. บริษัทรับจัดการท่อตัน ให้มืออาชีพเขามาจัดการดูแลเราดีกว่าครับ เขามีอุปกรณ์ที่พร้อมและก็ไม่ต้องเหนื่อยอีกต่อไปครับ   อย่าลืมนะครับ ส้วมตัน ชักโครกตันป้องกันได้โดยไม่ทิ้งอะไรที่ย่อยสลายยากลงไป ถ้าตันให้ใช้วิธีที่สามารถทำได้ด้วยตนเองก่อน ก่อนที่จะเรียกช่างมานะครับ จะได้ประหยัดไม่เสียเงินมากครับ    เรียบเรียงโดย Thaijobsgov ข้อมูลจาก เกร็ดความรู้.com ภาพจาก […]

หมากฝรั่ง…เห็นแบบนี้ก็มีประโยชน์นะครับ!!!

  ถ้าจะพูดถึงหมากฝรั่งแล้วคนทั่วไปจะคิดถึง ขนมที่มีรสหวานชนิดหนึ่งใช้สำหรับเคี้ยวให้ความเพลิดเพลินหรือดับกลิ่นปาก ให้ปากและลมหายใจสดชื่น มีความเหนียวหนึบ ประวัติของถือกำเนิดครั้งแรกในประเทศเม็กซิโกโดย นายพล อันโตนิโอ โลเปซ เดอ ซานตา อันนา แห่งกองทัพเม็กซิโก โดยได้นำยางไม้ชนิดหนึ่งจากป่าในเม็กซิโกมาเคี้ยว โดยยางไม้ชนิดนี้เป็นชนเผ่าพื้นเมืองในเม็กซิโกเรียกว่า ซิคลิ ในปัจจุบันมีการผลิตหมากฝรั่งมากมายในหลายรูปแบบ หลายรส หลายกลิ่นและมีทั้งผสมน้ำตาลและปราศจากน้ำตาล ประโยชน์ที่ได้รับจากการเคี้ยวหมากฝรั่ง 1.ลดความเครียด เมื่อเราได้เคี้ยวหมากฝรั่งจะทำให้ความรู้สึกกังวลนั้นหายไป โดยได้มีการทดสอบแล้วพบว่าปริมาณคอร์ติโซล(ฮอร์โมนที่ร่างกายหลั่งออกมาในขณะมีความเครียด) ในน้ำลายลดลง  2.ป้องกันฟันผุ ถ้าเราเลือกที่จะเคี้ยวหมากฝรั่งที่ปราศจากน้ำตาลนั้นจะทำให้แบคทีเรียในช่องปากไม่สามารถย่อยสลายเป็นอาหารได้ จึงช่วยลดปริมาณการเกิดคราบฟันและช่วยลดโอกาสการเกิดฟันผุ  3.เพิ่มออกซิเจนในสมอง เมื่อเคี้ยวหมากฝรั่งจะทำให้สมองมีการสั่งการได้รวดเร็วขึ้น เนื่องจากการเคี้ยวจะช่วยให้โลหิตไหลเวียนไปเลี้ยงสมองมากขึ้น ช่วยเพิ่มปริมาณออกซิเจนสู่สมองทำให้สมองสั่งการได้รวดเร็วกว่าปกติ ประมาณ 10 %เลยทีเดียว  4.ช่วยในการลดน้ำหนัก วารสารทางการแพทย์ของนิวอิงแลนด์ ได้เปิดเผยว่า เมื่อเราเคี้ยวหมากฝรั่งที่ปราศจากน้ำตาลจะช่วยเผาผลาญแคลอรี่ได้ถึง 22 กิโลแคลอรีต่อชั่วโมงเลยทีเดียว และการเคี้ยวหมากฝรั่งทำให้มีอาการอยากอาหารลดลง ทำให้ไม่อยากอาหาร จึงเป็นวิธีการในการจำกัดปริมาณอาหารวิธีหนึ่ง 5.บรรเทาอาการกรดไหลย้อน ผลวิจัยจากประเทศอังกฤษ พบว่าเมื่อเราเคี้ยวหมากฝรั่งจะทำให้ร่างกายผลิตน่ำลายออกมามาก และเจ้าน้ำลายนี้แหละ จะช่วยไปลดกรดให้เป็นกลาง ส่วนในรายที่เปิดกรดไหลย้อนขั้นรุนแรงให้นำหมากฝรั่งมาเคี้ยว หลังอาหาร30นาที จะช่วยลดอาการจุกเสียด แน่นเฟ้อ ได้เป็นอย่างดี   โอ้โห…เห็นดูเล็กๆ ดูแล้วทำให้อ้วน ก็ยังมีประโยชน์เหมือนกัน ผู้อ่านสามารถนำไปปฏิบัติตามได้นะครับและอย่าลืมดูแลสุขภาพให้ดี รับประทานอาหารให้ครบ5หมู่และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอนะครับ    เรียบเรียงโดย […]

ประเด็นดราม่า!!โพสต์รูปเปรียบเทียบล้อเลียนคนอื่นมีความผิดหรือไม่?

จากที่มีประเด็นดราม่าในโลกออนไลน์เกี่ยวกับนักร้องวงหนึ่งและเน็ตไอดอลคนดัง ที่มีการโพสต์ภาพเปรียบเทียบกันเสมือนกับเป็นการล้อเลียนว่ามีหน้าตาคล้ายคลึงกัน ทำให้ฝ่ายนักร้องเกิดความไม่พอใจ ออกมาระบายทางโซเชียลนั้น วันนี้เราจะมาพูดถึงประเด็นนี้ว่า การโพสต์รูปเปรียบเทียบล้อเลียนในโลกโซเชียลที่สร้างความตลกขบขันแก่สาธารณะแต่สร้างความเดือดเนื้อร้อนใจ รำคาญแก่อีกฝ่ายที่เสียหายนั้น มีความผิดทางกฏหมายหรือไม่   ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 บัญญัติไว้ชัดเจนว่า… มาตรา 16 ผู้ใดนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่ประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่ปรากฏเป็นภาพของผู้อื่น  และภาพนั้นเป็นภาพที่เกิดจากการสร้างขึ้น   ตัดต่อ เติม หรือ  หรือดัดแปลงด้วยวิธีการทางอิเล็คทรอนิกส์หรือวิธีการอื่นใด  ทั้งนี้  โดยประการที่น่าจะทำให้ผู้อื่นนั้นเสียชื่อเสียง  ถูกดูหมิ่น  ถูกเกลียดชัง  หรือได้รับความอับอาย  ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี  หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท  หรือทั้งจำทั้งปรับ  ถ้ากระทำตามวรรคหนึ่งเป็นการนำเข้าข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยสุจริตผู้กระทำไม่มีความผิด ความผิดตามวรรคหนึ่ง เป็นอันยอมความได้ สรุปให้เข้าใจง่ายๆก็คือ โพสต์รูปคนอื่นจากคอมพิวเตอร์ตัวเอง(ไม่ได้แฮคคอมพิวเตอร์คนอื่นไปโพสต์) ซึ่งเป็นรูปที่ทำขึ้นมาหรือตัดต่อดัดแปลง เมื่ออีกฝ่ายเห็นแล้วรู้สึกว่า ทำให้เสียชื่อเสียง ถูกเกลียดชังจากคนอื่น เกิดความอับอาย ผู้โพสต์จะต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ แต่ ​คดีนี้สามารถยอมความได้ นั่นคือ ถ้ามีการขอโทษขอโพยกัน หรือตกลงกันได้ จะเป็นตัวเงินหรือไม่เป็น ฝ่ายที่เสียหาย ไม่เอาความอีกฝ่ายได้ เรียบเรียงโดย Thaijobsgov ข้อมูลจาก site.rmutt.ac.th ภาพจาก Google.com [ads=center]

1 2,873 2,874 2,875 2,883
error: