บทความทั่วไป

Advertisement น.ส.สลิลลา สีหพันธุ์ รองประธานกรรมการฝ่ายกิจการบรรษัท เทสโก้ โลตัส กล่าวว่า เนื่องในโอกาสวันแม่ที่กำลังจะมาถึง เทสโก้ โลตัส จัดเตรียมโปรโมชั่นพิเศษเติมความสุขให้ทั้งคุณลูกและคุณแม่ เริ่มตั้งแต่วันที่ 11-14 ส.ค. นี้ โดยทุกวันจะมีโปรโมชั่นลดราคาสินค้าแรงสูงสุด 50% ทั้งสินค้าเพื่อสุขภาพและความงาม เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องครัว ชุดเครื่องนอน เสื้อผ้าและชุดชั้นใน Advertisement   Advertisement นอกจากนั้น พิเศษสุดๆ ในวันที่ 12 ส.ค. เพียงแค่บอกรักหรือกอดคุณแม่ที่แคชเชียร์ ก็จะได้รับส่วนลดทันที 100 บาทเมื่อซื้อสินค้า 800 บาทขึ้นไปคู่กับบัตรคลับการ์ด ต่อที่สองสามารถนำใบเสร็จไปแลกบัตรรับประทานอาหารมูลค่า 100 บาทเพื่อใช้ในศูนย์อาหารได้ฟรีทันที (สำหรับลูกค้า 500 ท่านแรก เฉพาะสาขาที่มีศูนย์อาหารเท่านั้น) ต่อที่สาม เพียงช็อปตั้งแต่ 300 บาทขึ้นไป ลุ้นรับบัตรกำนัลช้อปฟรีให้แม่มูลค่า 1,000 บาททุกชั่วโมง สำหรับลูกค้าเทสโก้ โลตัส เอ็กซ์เพรส เพียงใช้จ่าย 200 […]

เป็นกระแสรุนแรงในสังคมออนไลน์เกี่ยวกับหญิงสาวท่านหนึ่งได้โพสต์รูปภาพของนายตำรวจ ที่มีใบหน้าขึงขัง ดุดัน พร้อมกับเปรียบเปรยว่า"นี่มันพันธุ์อะไร?" ทำให้โลกโซเชียลต่างรุมจวกหญิงสาวท่านนี้ในเรื่องความไม่เหมาะสม            ล่าสุดหญิงสาวท่านนี้ได้รุดเข้าขอโทษและขอขมานายตำรวจที่ตนได้โพสต์ นายตำรวจท่านนี้มีชื่อว่า ร.ต.ท. ปราโมทย์ ตระกูลวังทอง  รองสารวัตรจราจร สภ.เมืองตรัง ผู้หมวดปราโมทย์ได้กล่าวว่า ตนไม่ได้เล่นโซเชียลเนตเวิร์คอะไรทั้งนั้น มีเพื่อนตำรวจนำมาให้ดู แต่ก็ไม่ได้โกรธเคืองอะไรเพราะตนเองเป็นตำรวจตระเวณชายแดนเก่า ถูกฝึกมาให้มีความอดทน อดกลั้น สิ่งที่เขาทำอาจจะเป็นความสุขของเขา เป็นเรื่องของเขา องค์กรไม่เสียหายถือว่าไม่เป็นไร ให้อภัยได้ถึงแม้ครอบครัวจะไม่พอใจ ส่วนตัวไม่ได้โกรธเคืองอะไรทั้งนั้นคิดว่าเหมือนลูกเหมือนหลาน          ด้านหญิงสาวมือโพสต์ได้โพสต์ในFacebook ส่วนตัวเกี่ยวกับเรื่องที่ตนไปขอขมาผู้หมวดปราโมทย์ความว่า…. "วันนี้…ได้มาขอโทษคุณลุง ร.ต.ท. ปราโมทย์ ตระกูลวังทอง หน้าศูนย์โรงเรียนทักสิณา ที่จังหวัดตรัง คุณลุงปราโมทย์ได้อบรม ตักเตือน ไม่เอาโทษและให้ข้อคิดดีๆในการใช้ พิมพ์หรือโพสต์อะไรในโลกโซเชียล …จะนำคำพูดของคุณลุงปราโมทย์ไปปฏิบัติ แก้ไขในความผิดพลาดที่ผ่านมาและจะไม่ทำผิดซ้ำอีกค่ะ …กราบขอโทษครอบครัวญาติพี่น้องและลูกๆหลานๆและเพื่อนๆของคุณลุงปราโมทย์ไว้ ณ ที่นี้ ด้วยความเคารพและนับถือจากใจจริงๆค่ะ"            การให้อภัยกันเป็นเรื่องที่งดงาม แต่การไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อนนับเป็นเรื่องที่งดงามยิ่งกว่า นับเป็นบทเรียนที่ยิ่งใหญ่ในชีวิตของหญิงสาวท่านนี้เลยทีเดียวครับ  ผิดแล้วยอมรับผิดถือเป็นเรื่องที่น่านับถือครับ ยังไงก็ขอเป็นกำลังใจให้ทั้งคู่นะครับ    […]

หลังจากมีข่าวกระฉ่อนโซเชียลถึงคลิปผู้หญิงคนหนึ่งที่ไล่สาวไซด์ไลน์ออกห้องในสภาพที่ยังเปลือยเปล่า หนำซ้ำฝ่ายชายซึ่งเรียกมาใช้บริการเองก็ไม่ได้จ่ายเงิน แถมยังโยนข้าวของคืนไปเหมือนเธอไม่ใช่คน (อ่านย้อนหลังได้ที่ http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1470554320) ล่าสุดเมื่อวานนี้ (7 ส.ค.59) เฟซบุ๊กสาวนามว่า Sanfan Jitbanjong ได้โพสต์เฟซบุ๊กตามหาหญิงสาวไซด์ไลน์ในคลิปเพื่อต้องการชุบชีวิตใหม่ ชุบทางเดินใหม่ให้เธอ เพราะเธอเชื่อว่าหากมอบโอกาสดีๆ ให้คนหนึ่ง คนๆ นั้นต้องมีชีวิตที่ดีกว่านี้แน่นอน อีกทั้งเธอยังวอนสังคมเห็นใจ คนเรามีต้นทุนไม่เหมือนกัน ทิ้งท้ายฝากชาวโซเชียลแชร์ถึงสาวในคลิปให้ติดต่อกลับเธอโดยด่วน และในไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา สาวใจบุญคนดังกล่าวก็ได้เจอเฟซบุ๊กของสาวที่เธอประกาศตามตัว พร้อมแก้ข่าวว่าสาวคนนี้ยังไม่ตาย อีกทั้งเปิดคอมเม้นท์ให้หลายคนได้เข้ามาให้กำลังใจสาวคนดังกล่าวอีกด้วย   คลิกที่นี่หากต้องการเข้าสู่ลิ้งค์ต้นเรื่อง

กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) เพิ่มโปรโมชั่นคืนเงินตอบแทน 3% สำหรับผู้กู้ยืม กยศ.และ กรอ.ที่ไม่ค้างชำระหนี้และมาชำระหนี้ปิดบัญชี ระหว่างวันที่ 1 ส.ค. – 30 ก.ย. 2559 ภาพจาก board.postjung.com "ดร.ฑิตติมา วิชัยรัตน์" ผู้จัดการกองทุนฯ เปิดเผยว่า คณะกรรมการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา ได้มีมติเห็นชอบมาตรการจูงใจให้ชำระหนี้กองทุน กยศ. และ กรอ. สำหรับผู้กู้ยืมที่ไม่ค้างชำระหนี้ หากมาชำระหนี้ปิดบัญชีทั้งจำนวนระหว่างวันที่ 1 ส.ค. – 30 ก.ย.2559 จะได้รับเงินตอบแทนร้อยละ 3 ของเงินต้นคงเหลือ เป็นรางวัลตอบแทนให้แก่ผู้กู้ยืมที่ดี ชำระหนี้ตรงเวลา และมีความพร้อมในการชำระหนี้ปิดบัญชี  สำหรับผู้กู้ยืมที่ได้ชำระหนี้ปิดบัญชีเรียบร้อยแล้ว ต้องแจ้งความประสงค์ที่จะขอคืนเงินพร้อมหลักฐานยืนยันการชำระหนี้ปิดบัญชีให้แก่กองทุนฯ ประกอบด้วย สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้กู้ยืม และสำเนาสมุดบัญชีออมทรัพย์ธนาคารกรุงไทยเพื่อรับเงินคืนโอนเข้าบัญชี  โดยรับรองสำเนาถูกต้องทุกฉบับ ส่งมาที่กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) เลขที่ 89 อาคารเอไอเอ แคปปิตอล เซ็นเตอร์ ชั้น 5-6 ถนนรัชดาภิเษก แขวงดินแดง เขตดินแดง […]

ไม่ใช่แค่ทหารใต้เท่านั้นที่มีความลำบากยากแค้นในการดำรงชีวิต แม้แต่ตำรวจสถานีตำรวจท่าธง จ.ยะลา กว่า 35 นายก็ต้องทนกับอาศัยในแฟลตร้างเป็นที่หลับนอน ทำกิจวัตรต่างๆ  โดยเมื่อวันที่ 4 ส.ค.ที่ผ่านมา เพจ ตำรวจไทย สู้ๆ ได้โพสต์แฉความรันทดของตำรวจท้องที่ดังกล่าวว่า หลังจากโพสต์นี้ได้เผยแพร่ออกไปก็มีหลายคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก รวมถึง ตร.ในท้องที่บางนายที่แชร์สภาพความเป็นอยู่ของตนเองให้โลกให้รู้ด้วย และล่าสุด เมื่อวันที่ 6 ส.ค.ที่ผ่านมา ทางทีมงานรายการ ทุบโต๊ะข่าวก็ได้ไปสัมภาษณ์ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น ถึงได้ทราบว่านี่คือแฟลตในโครงการไทยเข้มแข็ง สมัยพรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล แต่ผู้รับเหมาทิ้งงาน อีกทั้งผู้เกี่ยวข้องไม่มีการสานต่อโครงการให้เสร็จสิ้น แฟลตจึงมีสภาพไม่สมบูรณ์ถูกทิ้งร้างจนถึงทุกวันนี้ ไว้ต้อนรับตำรวจชั้นผู้น้อยที่ไม่สามารถหาที่พักที่อื่นได้ ซึ่งหากจะพักที่แห่งนี้ก็ต้องลงไปอาบน้ำที่ชั้น 1 เอง วันดีคืนดีฝนก็รั่วลงมาทุกชั้น เพราะด้านบนสุดไม่มีเพดาน อุปกรณ์กันฝน สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ต้องจัดหาเองหมด ภรรยาของตำรวจบางนายที่เดินทางมาเยี่ยมก็แทบไม่เชื่อว่าสามีตนเองจะทนลำบากขนาดนี้ได้ [embedyt] http://www.youtube.com/watch?v=HAuuWELXZ0Y[/embedyt] ก็ต้องรอติดตามข่าวกันต่อไปว่าทางผู้ที่เกี่ยวข้องจะเข้ามาจัดการสวัสดิภาพของตำรวจชั้นผู้น้อยในแฟลตดังกล่าวได้อย่างไร Thaijobsgovเองก็หวังว่าจะตำรวจทั้ง 35 นายในท้องที่นั้นจะได้รับข่าวดีในเร็วๆ นี้ ขอบคุณข้อมูลจาก เพจ ตำรวจไทย สู้ๆ ขอบคุณคลิปจาก AMARIN TVHD

แรงงานมีฝีมือ 20 สาขา มีเฮ! รัฐบังคับนายจ้างเพิ่มค่าจ้างสูงสุด 700 บาท เริ่ม 10 ส.ค.นี้ หากฝ่าฝืน ไม่ทำตาม นายจ้างไม่จ่าย มีโทษคุก 6 เดือนปรับ 1 แสน ภาพประกอบจาก www.saskatchewan.ca 5 ส.ค. ที่ผ่านมา ที่กระทรวงแรงงาน มีการแถลงข่าวเปิด “ประกาศอัตราค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือ (ฉบับที่ 5)” ภายหลังกระทรวงแรงงานได้ประกาศแล้ว 35 สาขาอาชีพ และในวันที่ 10 ส.ค.นี้จะบังคับใช้อีก 20 สาขาอาชีพใน 5 กลุ่มอุตสาหกรรมไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ ชิ้นส่วนอะไหล่ยานยนต์ ยานยนต์ อัญมณี และกลุ่มลอจิสติกส์ โดยในกลุ่มเหล่านี้จะมีอัตราค่าจ้างตั้งแต่ 300 บาทขึ้นไปจนถึงประมาณวันละ 700 บาท         ม.ล.ปุณฑริก สมิติ ปลัดกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า “การกำหนดอัตราค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือ” เป็นกลยุทธ์หนึ่งที่ส่งเสริมการพัฒนาทางอ้อมเช่นกัน เพราะการได้รับค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือจะเป็นเสมือนเส้นทางความก้าวหน้าในสาขาอาชีพ (Career Path) ของลูกจ้าง […]

จากที่มีการโพสต์คลิปวีดีโอซึ้งเป็นคลิปสะท้อนสังคมเกี่ยวกับการที่พ่อแม่ในสังคมไทยในปัจจุบัน ที่อนุญาตและส่งเสริมให้ลูกมีรถจักรยานยนต์เป็นของตัวเอง โดยซื้อให้เพื่อใช้ขับขี่เล่นหรือไปโรงเรียน โดยในคลิปนั้นเด็กที่ได้รถจักรยานยนต์เป็นของขวัญนั้นอายุประมาณ 12-13 ปีเท่านั้น  จากสถิติที่เกิดขึ้นในประเทศไทย มีเด็กได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการขับขี่รถจักรยานยนต์แล้วเกิดอุบัติเหตุปีละ 15,800 รายและเสียชีวิตประมาณ 700 คนต่อปี และสถิติที่น่ากลัวและน่าตกใจที่สุดก็คือ "เด็กอายุ 12-15 ปี มียอดการตายอันดับ 1 มาจากการขับขี่รถจักรยานยนต์" และอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น 1 ใน 3 เกิดในรัศมี 1 กิโลเมตรจากบ้านหรือที่พัก พ่อแม่ที่กำลังอ่านบทความและรับชมคลิปนี้อยู่นั้นควรที่จะคิดทบทวนและไตร่ตรองให้ดีก่อนที่จะซื้อรถจักรยานยนต์ให้บุตรหลานของท่าน หากบุตรหลานของท่านอายุยังไม่ถึง 15 ปี ก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรอย่างยิ่งที่จะซื้อรถจักรยานยนต์ให้ เนื่องจากเด็กที่อายุยังไม่ถึง 15 ปีนั้น มีพัตนาการที่"ไม่พร้อม"ในการขับขี่รถจักรยานยนต์บนท้องถนนเพียงลำพัง ชมคลิป >>> https://www.facebook.com/yeducation/videos/1758032101137877/    เรียบเรียงโดย Thaijobsgov ขอบคุณคลิปวีดีโอจาก เพจเกรียนศึกษา [ads=center]

ทำมาค้าขายเดี๋ยวนี้ไม่เพียงแต่ต้องระวังเงินเข้าเงินออกในกระเป๋าหรือพวกโจรขโมยเงินขโมยของซะแล้ว แม้แต่หน้าร้านและอุปกรณ์ในการค้าขายเองก็ต้องระวัง แม้จะเป็นเพียงแค่ของกินที่ดูแล้วขโมยเอาไปไม่ได้ก็ตาม เหมือนดังเช่นแม่ค้าเจ้าของเฟซบุ๊กชื่อว่า แหนมหมูยอ เครป แม่ค้าขายเครปหน้าเซเว่นทางรถไฟ มหาชัย เพียงแค่ไปเอาของมาเติมแป๊บเดียว กลับมาเจอร้านสภาพพังเละเทะจากฝีมือใครก็ไม่รู้ ถึงจะดูเป็นภาพเหมือนตลก แต่แม่ค้าขำไม่ออกเลย ใครคิดจะแกล้งแม่ค้าอย่าทำเด็ดขาด อาจถูกแจ้งความดำเนินคดีได้ ส่วนแม่ค้าพ่อค้าคนไหนที่มีร้านเป็นของตัวเองก็ต้องระวังไว้ ภัยสมัยนี้มีทุกรูปแบบจริงๆ แม้แต่ออกไปธุระแป๊บเดียวก็อย่าได้ประมาท ปิดร้านไว้ก่อนจะปลอดภัยสบายใจกว่า คลิกที่นี่หากต้องการเข้าสู่ลิ้งค์ต้นเรื่อง

จากที่มีข่าวพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินของสายการบิน Cebu Pacific ถูกผู้โดยสารทำร้ายร่างกายด้วยการใช้มือตบไปที่บริเวณหน้า ทำให้ได้รับบาดเจ็บ เนื่องจากไม่พอใจที่พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินหรือแอร์โฮสเตสปฏิเสธการยกกระเป๋าขึ้นเก็บให้ในช่องเก็บกระเป๋าเหนือศรีษะภายในห้องโดยสารของเครื่องบิน   วันนี้เรามาทราบกันดีกว่าครับว่า จริงๆแล้ว พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินนั้นมีหน้าที่ยกกระเป๋าให้กับผู้โดยสารหรือไม่ โดยมีข้อบังคับของคณะกรรมการการบินพลเรือนระบุไว้อย่างชัดเจนนะครับว่า  ตามข้อบังคับของคณะกรรมการการบินพลเรือน ฉบับที่ 69 ว่าด้วยข้อกำหนดเกี่ยวกับสัมภาระติดตัวผู้โดยสาร  "ข้อ ๕ ผู้โดยสารมีหน้าที่จัดเก็บสัมภาระติดตัวในห้องโดยสารอากาศยาน และต้องปฏิบัติตามคำสั่งเจ้าหน้าที่ประจำอากาศยานเกี่ยวกับการจัดเก็บสัมภาระติดตัวดังกล่าว" สรุปอย่างง่ายๆคือ ผู้โดยสารมีหน้าที่เก็บกระเป๋าสัมภาระส่วนตัวของตนเองเอง พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินไม่มีหน้าที่ยกกระเป๋าให้กับผู้โดยสาร แต่หากผู้โดยสารช่วยเหลือตัวเองไม่ได้เช่น มีอาการบาดเจ็บอย่างชัดเจนหรือเป็นผู้โดยสารที่ต้องการคว่ามช่วยเหลือเป็นพิเศษ(พิการ) ก็สามารถช่วยเหลือได้ตามหลักมนุษยธรรมครับ ฉะนั้นอย่าไปต่อว่าโวยวายพวกเธอเลยครับ เพราะแค่ทำความสะอาดเครื่องบิน ทำความสะอาดห้องน้ำ ดูแลผู้โดยสารหลายร้อยคน ดูแลเครื่องมือความปลอดภัยแค่นี้เธอก็เหนื่อยแล้วครับ เป็นกำลังใจให้พวกเธอดีกว่าครับ    เรียบเรียงโดย Thaijobsgov  ข้อมูลจาก เพจ Thai Jobs Aviation ภาพจาก Thai Jobs Aviation,Google [ads=center]       

เป็นที่ฮือฮาพอสมควรเมื่อโลกโซเชียลได้กระพือข่าวข้าราชการหนุ่มคนหนึ่งโพสต์เฟซบุ๊กเหยียดเด็กปั๊มรูปร่างอ้วนในเชิงตลก เยาะเย้ย ล่าสุดข่าวนี้ได้ดังไปถึงหูผู้กำกับมือทอง "พชร์ อานนท์" แล้ว โดยผู้กำกับคนดังกล่าวสนใจที่จะปั้นน้องผู้หญิงคนนี้เข้าวงการอีกคน หลังจากได้ให้โอกาสทองกับเน็ตไอดอลหนุ่มหน้าขาว "เทพพิทักษ์ แอสละ" ประสบความสำเร็จไปคนหนึ่งแล้ว ก็ต้องตามลุ้นกันต่อไปว่าสาวน้อยคนนี้จะได้รับโอกาสดีๆ อะไรอีก ถือว่าเป็นอีกข่าวที่น่าชื่นใจ ที่อย่างน้อยคนไทยก็ไม่ทิ้งกัน ข้อมูลต้นเรื่องจาก : เฟซบุ๊ก พชร์ อานนท์