เปิดกล้องดูถึงรู้! รายได้ที่ร้านทำไมน้อยกว่าที่คิด ที่แท้ฝีมือลูกจ้าง เพิ่งรับทำงาน ฉกไปแล้ว30กว่าครั้ง

Advertisement 29 ก.ค.66 สมาชิก TikTok @bbeam99 โพสต์คลิปกล้องวงจรปิดแฉลูกน้องตัวแสบ หลังขโมยเงินของร้านทุกวัน บางวันหลายรอบ แถมรู้ทั้งรู้ว่ามีกล้องวงจรปิดยังกล้าทำ ซึ่งก่อนหน้านี้เธอก็สงสัยอยู่แล้ว เพราะลูกค้าก็เข้าเยอะ แต่เงินกลับได้น้อยจนผิดสังเกต Advertisement โดยเธอเปิดร้านทุกอย่าง 20 บาท และเพิ่งรับลูกจ้างสาวคนนี้มาทำงานได้ไม่นาน ในคลิปวงจรปิด จะเห็นว่าลูกจ้างสาวคนนี้ได้แอบหยิบเงินที่อยู่ในเครื่องคิดเงิน โดยไม่มีความเกรงกลัวกล้องวงจรปิดเลยแม้แต่น้อย Advertisement ขณะเดียวกันเธอยังได้โพสต์คลิปตอนนั่งดูกล้องวงจรปิดแบบเรียลไทม์ ก็พบว่าลูกจ้างสาวดังกล่าวก็ยังทำพฤติกรรมเช่นเดิม แม้ว่าเธออยากจะตะโกนผ่านกล้องมากแค่ไหน ก็ต้องห้ามใจไว้ เพราะอยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานเพื่อไปดำเนินคดี นอกจากนี้เธอยังได้บอกว่า ตอนเห็นคลิปแรกก็เอาหลักฐานไปแจ้งความ ซึ่งตำรวจได้บอกเธอว่า ให้มาตรวจสอบกล้องอีกเชื่อว่าน่าจะก่อเหตุแบบนี้มาหลายครั้ง จากนั้นเธอก็กลับมานั่งไล่ดูกล้องวงจรปิดพบว่า ลูกจ้างสาวคนดังกล่าวก่อเหตุมากกว่า 30 ครั้ง และลงมือทั้งวันเมื่อสบโอกาส   ข่าวจาก : ข่าวสด

กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมาก 30ก.ค.-3ส.ค. วันนี้เริ่ม 28จังหวัด

30 กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่องฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทยและคลื่นลมแรงบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบน ฉบับที่ 2 (มีผลกระทบตั้งแต่วันที่ 30 ก.ค.-3 ส.ค.2566) โดยมีรายละเอียด ดังนี้ ร่องมรสุมเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือตอนบนและประเทศลาวตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณอ่าวตังเกี๋ย ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม รวมทั้งเพิ่มความระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย จังหวัดที่คาดว่าจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง มีดังนี้ 30 กรกฎาคม 2566 ภาคเหนือ: จังหวัดเชียงราย พะเยา แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ และตาก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดเลย หนองบัวลำภู อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร ยโสธร อำนาจเจริญ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี ภาคกลาง: จังหวัดกาญจนบุรี และ ราชบุรี ภาคตะวันออก: […]

“วิษณุ” ยอมรับ การโหวตนายกฯ ล่าช้า กระทบต่อการแต่งตั้งข้าราชการระดับสูง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่ผ่านมา ครม. รักษาการ มีนโยบายที่จะไม่พิจารณาการแต่งตั้งโยกย้ายในตำแหน่งที่เป็นข้าราชการระดับสูง เนื่องจากคาดว่าในเดือน ส.ค. 66 จะมีรัฐบาลใหม่ที่มีอำนาจเต็มเข้ามาบริหารประเทศ แต่ล่าสุดการเลื่อน โหวตนายกฯ จากการที่ยังไม่ได้ข้อยุติในเดือน ก.ค. 66 ทำให้มีความเป็นไปได้สูงที่ในเดือน ส.ค. 66 ครม. ชุดใหม่ก็ยังไม่ได้เข้ามาทำงานใน ทำเนียบรัฐบาล โดยล่าสุด “นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี” ได้ให้นโยบายแกสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ในฐานะฝ่ายเลขานุการของ ครม. ว่าให้สามารถบรรจุเรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูง รวมทั้งหัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจเข้ามาให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบได้ โดย ครม. จะพิจารณาให้ จากนั้นจะส่งไปที่ กกต. เพื่อพิจารณาให้ ซึ่งก็มีโอกาสมากขึ้นที่ กกต.จะพิจารณาเห็นชอบตามที่ ครม.เสนอ เพราะที่ผ่านมาในกรณีที่ กกต.ไม่เห็นชอบเป็นเรื่องของระยะเวลาในการดำรงตำแหน่งของคนเดิมที่ยังไม่หมดวาระ แต่หากใกล้ระยะเวลาที่คนเดิมจะหมดวาระหรือเกษียณอายุราชการแล้ว ก็คาดว่า กกต.จะอนุมัติให้เพื่อให้มีคนที่สามารถทำงานในตำแหน่งสำคัญของหน่วยงานได้ ด้านนายปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา เคยระบุไว้ก่อนหน้านี้ว่า การแต่งตั้ง โยกย้ายข้าราชการระดับสูงตั้งแต่ระดับปลัดกระทรวงขึ้นไปรัฐบาลรักษาสามารถทำได้ โดยให้หน่วยงานเสนอให้สำนักเลขาคณะรัฐมนตรีเสนอ ครม. เนื่องจากใกล้สิ้นปีงบประมาณแล้ว จะไม่มีคนเข้ามาทำงาน เพราะประเทศต้องเดินต่อไปข้างหน้า […]

“ธรรมนัส” ปฏิเสธบินนอกดีล “ทักษิณ” ยืนยันไม่ร่วมกับพรรคแก้ไข ม.112 ลุยข้ามความขัดแย้ง

29 กรกฎาคม นายธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา และว่าที่เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐคนใหม่ ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวการเดินทางไปฮ่องกงเพื่อพบกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคมที่ผ่านมาว่า ไม่ทราบว่ากระแสข่าวนี้มาจากไหน ได้เดินทางไปต่างประเทศมาจริงเพื่อไปทำภารกิจส่วนตัว แต่ยืนยันว่าไม่ได้มีการไปเจรจาทางการเมืองกับใครอย่างที่กระแสข่าวระบุ “เพราะพรรค พปชร.มีมติชัดเจนอยู่แล้วในการตัดสินใจเข้าร่วมหรือไม่เข้าร่วมรัฐบาล ผมกล่าวย้ำมาหลายครั้งว่าพรรค พปชร.ยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เพื่อให้ชาติมีความมั่นคง ประชาชนกินดีอยู่ดี เดินหน้าไปตามหลักประชาธิปไตย พรรคมีเจตจำนงแน่วแน่ที่จะไม่สนับสนุนพรรคการเมืองที่มีแนวคิดแก้ไข มาตรา 112 มีนโยบายชัดเจนว่าจะก้าวข้ามความขัดแย้ง” “ดังนั้น พรรคการเมืองใดก็ตามที่มองเห็นเป็นประจักษ์แล้วว่าเมื่อร่วมงานกันแล้วจะเกิดความขัดแย้งแน่นอน จะทำให้สังคมแตกแยกอย่างรุนแรง จะไม่ร่วมงานอย่างเด็ดขาด” ร.อ.ธรรมนัสกล่าว เมื่อถามถึงกระแสข่าวที่ระบุว่ามีการเจรจาเกี่ยวกับการเดินทางกลับประเทศไทยของนายทักษิณ โดย ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า การกลับประเทศของนายทักษิณเป็นเรื่องส่วนตัว จะต้องมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการรับผิดชอบ เรื่องนี้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง และเป็นเพียงผู้แทนราษฎรคนหนึ่งที่เข้ามาทำหน้าที่ในสภาเพื่อแก้ปัญหาให้กับประชาชนเท่านั้น คงไม่สามารถไปก้าวล่วงเรื่องส่วนตัวของนายทักษิณได้   ข่าวจาก : มติชน

ราชกิจจาฯ ประกาศให้ค่าทำศพผู้สูงอายุ60ปีขึ้นไป 3,000บาท มีผลแล้ว

เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เรื่อง การสนับสนุนการสงเคราะห์ในการจัดการศพตามประเพณีผู้สูงอายุที่เสียชีวิตจะได้รับ “ค่าทำศพผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป” ต้องเข้าหลักเกณฑ์ ดังนี้ อายุเกิน 60 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป สัญชาติไทย ผู้สูงอายุที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ แต่ผู้สูงอายุที่มีคุณสมบัติตามเกณฑ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ แต่ยังไม่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือยังไม่ได้ลงทะเบียน ให้ผู้อํานวยการเขต หรือนายอําเภอ หรือกํานัน หรือผู้ใหญ่บ้าน หรือนายกเทศมนตรี หรือนายกองค์การบริหารส่วนตําบล หรือนายกเมืองพัทยา หรือประธานชุมชน เป็นผู้ออกหนังสือรับรอง ตามแบบที่อธิบดีกรมกิจการผู้สูงอายุกําหนด ค่าทำศพผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ในประกาศนี้รวมถึงผู้สูงอายุที่อยู่ในศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุ สถานสงเคราะห์ สถานดูแล สถานคุ้มครอง หรือสถานใด ๆ ของรัฐหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่ดําเนินการในลักษณะเดียวกัน ซึ่งจัดการศพตามประเพณีโดยมูลนิธิ สมาคมวัด มัสยิด โบสถ์ การยื่นคําขอเพื่อขอ “ค่าทำศพผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป” ให้ผู้ที่รับผิดชอบในการจัดการศพตามประเพณีรายนั้น ยื่นคําขอในท้องที่ที่ผู้สูงอายุมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านหรือภูมิลําเนาในขณะถึงแก่ความตาย ในเขตกรุงเทพมหานคร ให้ยื่นคําขอที่สํานักงานเขต ส่วนจังหวัดอื่นให้ยื่นคําขอที่สํานักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด หรือที่ว่าการอําเภอ หรือสํานักงานเทศบาล หรือที่ทําการองค์การบริหารส่วนตําบล […]

ออสเตรเลียเผยผลวิจัย “ทำงานบ้าน4นาที” ช่วยลดความเสี่ยงมะเร็ง

เว็บไซต์ dailymail ได้รายงานเรื่องราวที่ถือเป็นข่าวดีของใครหลายคน เมื่อศาสตราจารย์ เอ็มมานูเอล สตามาตากิส จากมหาวิทยาลัยซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย ได้เปิดเผยผลการศึกษาว่า การทำงานบ้านหรือกิจกรรมประจำวันเป็นเวลา 4.5 นาที (ครั้งละประมาณ 1 นาที) ทำให้ความเสี่ยงของโรคมะเร็งลดลงได้ 18% ศาสตราจารย์ เอ็มมานูเอล กล่าวว่า “เราทราบดีว่าคนวัยกลางคนส่วนใหญ่ไม่ออกกำลังกายเป็นประจำ ซึ่งทำให้พวกเขามีความเสี่ยงเป็นมะเร็งเพิ่มขึ้น” ซึ่งเป็นมะเร็งที่เกี่ยวข้องกับการออกกำลังกาย ได้แก่ ตับ ปอด ไต กระเพาะอาหาร เยื่อบุโพรงมดลูก มะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดไมอีลอยด์ ไมอีโลมา ลำไส้ใหญ่และทวารหนัก มะเร็งต่อมน้ำเหลืองที่เต้านมและหลอดอาหาร การศึกษาใช้ข้อมูลจากอุปกรณ์สวมใส่เพื่อติดตามกิจกรรมประจำวันของผู้ที่ไม่ออกกำลังกายมากกว่า 22,000 คน จากนั้นนักวิจัยติดตามบันทึกสุขภาพทางคลินิกของกลุ่มเป็นเวลาเกือบ 7 ปี พวกเขาพบว่ากิจกรรมทางกายในการดำเนินชีวิตแบบไม่ต่อเนื่องเพียง 4 – 5 นาที (Vilpa) มีความสัมพันธ์กับความเสี่ยงมะเร็งที่ลดลงอย่างมากเมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่ทำ Vilpa จากการศึกษาตัวอย่างที่มีอายุเฉลี่ย 62 ปีซึ่งไม่ได้ออกกำลังกายในเวลาว่าง นักวิจัยพบผู้ป่วยมะเร็งรายใหม่ 2,356 ราย (1,084 รายเป็นมะเร็งที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมทางกาย) […]

สธ. ชี้แจง รพ.โคกเจริญ เหลือหมอคนเดียว เพราะลาออกไป 2 คน มั่นใจไม่กระทบการบริการ

29 ก.ค. 2566 – นพ.สุรโชค ต่างวิวัฒน์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 4 ให้สัมภาษณ์ถึงข่าว โรงพยาบาลโคกเจริญ จ.ลพบุรี หลังออกประกาศผ่านเฟซบุ๊กว่า ตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. เป็นต้นไป โรงพยาบาลจะเหลือแพทย์เพียง 1 ท่าน ในการดูแลผู้ป่วย กรณีอุบัติเหตุฉุกเฉิน สามารถติดต่อที่ รพ. ใกล้เคียงได้ทุกแห่ง นพ.สุรโชค กล่าวว่า รพ.โคกเจริญ ตั้งอยู่ในอำเภอโคกเจริญ ซึ่งครอบคลุมการดูแลประชากร 24,000 คน โดยสัดส่วนของแพทย์ออกตรวจและอยู่เวรควรมีอย่างน้อย 3 คน ซึ่ง รพ.โคกเจริญ มีแพทย์ประจำอยู่ 3 คน และมีผู้อำนวยการโรงพยาบาล แต่ช่วงที่ผ่านมามีแพทย์ 2 คน ได้ทำเรื่องลาออกจากราชการ มีผลในเดือน ส.ค. 2566 จึงทำให้มีแพทย์ประจำเหลือ 1 คน แต่ตามนโยบายของกระทรวงสาธารณสุข ยืนยันว่าจะไม่ปล่อยให้เกิดเหตุการณ์เหลือแพทย์เพียง 1 คนใน […]

สรรพากรเอาจริง! เตรียมล้างบาง “ใบกำกับภาษีปลอม” เริ่มนำร่องธุรกิจค้าเศษเหล็ก

นายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพากรกล่าวว่า กรมสรรพากรอยู่ระหว่างเร่งยกร่างกฎหมายที่จะนำ “ระบบการตรวจสอบภาษีมูลค่าเพิ่มแบบย้อนหลัง (reverse charge VAT)” มาใช้ให้เร็วที่สุด เพื่อแก้ปัญหา “ใบกำกับภาษีปลอม” โดยจะเริ่มที่ธุรกิจ “กิจการค้าของเก่าและรีไซเคิล” ก่อน เนื่องจากคดีใบกำกับภาษีปลอมที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่กว่า 50% มาจากธุรกิจนี้ โดยกรมตั้งใจว่าจะเริ่มใช้ระบบตรวจสอบย้อนหลังได้ตั้งแต่ต้นปี 2567 ทั้งนี้ ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ถือเป็นภาษีที่สำคัญ จัดเป็นแหล่งรายได้ที่ใหญ่ที่สุดของกรมสรรพากร โดยจัดเก็บได้ปีละกว่า 700,000 ล้านบาท ซึ่งหากแก้ปัญหาใบกำกับภาษีปลอมได้ ก็จะทำให้มีเม็ดเงินภาษีเพิ่มขึ้นอีกมาก “ตอนนี้คุยกับผู้ที่เกี่ยวข้องหมดแล้ว ภาคธุรกิจก็โอเค ซึ่งแนวทางก็คือ เราจะเก็บทอดสุดท้าย โดยให้ธุรกิจ โรงหลอมเหล็ก ที่เป็นทอดสุดท้ายเป็นผู้ออกใบกำกับภาษีซื้อและภาษีขาย พร้อมกับหักภาษีนำส่งให้กรมสรรพากรทั้ง 2 ขา ก็จะได้ภาษีอย่างถูกต้อง ไม่รั่วไหล ช่วยลดปัญหาที่ต้องทุ่มกำลังเจ้าหน้าที่ในการตรวจสอบคดีใบกำกับภาษีปลอมลงได้มาก เพราะปกติคดีนี้เป็นคดีที่สรรพากรไม่ยอมความอยู่แล้ว ต้องดำเนินคดีไปถึงที่สุด” นายลวรณกล่าว โดยที่ผ่านมา การเก็บ VAT แบบปกติ ในกรณีธุรกิจค้าของเก่าและรีไซเคิลนี้ “ค่อนข้างจะมีปัญหา ตรวจสอบยาก” เนื่องจากต้นทางจะเป็นกลุ่มผู้เก็บของเก่าหรือซาเล้ง ทำให้การไปบังคับให้ออกใบกำกับภาษีทำได้ลำบาก แต่ระบบภาษี […]

นาทีระทึก! เที่ยวหน้าฝน ที่พักติดคลอง ตื่นมาเจอน้ำป่าหลาก สีแดงขุ่นน่ากลัว

29 ก.ค.66 สมาชิก TikTok @sarawootlifetime โพสต์คลิปสุดช็อก หลังจากตื่นนอนตอนเช้า พบว่าที่บ้านพักนั้นมีน้ำป่าไหลมาอย่างแรงและสีขุ่นแดงน่ากลัว โดยในคลิปผู้โพสต์ได้ไปเที่ยวพักผ่อนที่ หมู่บ้านสะปัน อ.บ่อเกลือ จ.น่าน และได้เช่าบ้านพักติดคลอง แต่ทว่ามีฝนตกลงมาอย่างหนัก ทำให้เกิดน้ำป่าไหลผ่านบ้านที่พักอยู่ น้ำเป็นสีแดงขุ่นและน่ากลัว หลังโพสต์ดังกล่าวเผยแพร่ไป ก็มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก และหลายๆ คนบอกว่าให้รีบเผ่นออกมาให้ไว้ @sarawootlifetime #29july2023 ♬ เสียงต้นฉบับ – Sarawoot Lifetime   ข้อมูลจาก : ข่าวสด

ศปปส. ยื่นสอบพฤติกรรม พระพยอม ส่ออาบัติสังฆาทิเสส ทำปชช.แตกแยก

29 ก.ค.2566 นายอานนท์ กลิ่นแก้ว ประธานศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) พร้อมตัวแทนประมาณ 10 คน เดินทางมายังวัดบัวขวัญ ต.บางกระสอ อ.เมือง จ.นนทบุรี เพื่อนำหนังสือร้องเรียนถึงประพฤติกรรมในการเทศน์ของ พระพยอม กัลยาโณ ที่ทางกลุ่มมองว่าไม่เหมาะสมเพราะมีการพูดพาดพิงถึงสถาบันพระมหากษัตริย์และการเมืองเข้าเกี่ยวข้อง จึงยื่นหนังสือให้กับ พระเทพวชิรนันทาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดบัวขวัญ ในฐานะเจ้าคณะสงฆ์จังหวัดนนทบุรี ตรวจสอบและลงโทษทางวินัยกับพระพยอมต่อไป นายอานนท์ กล่าวว่า หลังจากก่อนหน้านี้ทางกลุ่มได้เดินทางไปยื่นเรื่องกับสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) มาแล้วอาทิตย์หนึ่งแต่ยังไม่ได้รับคำตอบ วันนี้จึงรวมตัวกันเดินทางนำหนังสือร้องเรียนพฤติกรรมของพระพยอม กัลยาโณ มายื่นให้กับเจ้าคณะสงฆ์จังหวัดนนทบุรี ในฐานะผู้ปกครอง ดำเนินการสอบสวนในเรื่องนี้ต่อไป นายอานนท์ กล่าวต่อว่า แต่ปรากฏว่าเมื่อทางกลุ่มมาถึง ทางเจ้าคณะจังหวัดนนทบุรีกลับไม่ออกมารับหนังสือ เดินหนีหายไปไหนก็ไม่รู้ หรือว่าท่านเห็นว่าเรื่องนี้ไม่มีความสำคัญ ทั้ง ๆ พระพยอมซึ่งเป็นผู้ใต้บังคับบัญชา ไปพูดจาพาดพิงถึงเรื่องสถาบันพระมหากษัตริย์และการเมือง ทำให้สังคมซึ่งเกิดความแตกแยกกันอยู่แล้ว แตกแยกกันหนักยิ่งขึ้นไปอีก นายอานนท์ กล่าวอีกว่า ซึ่งมติมหาเถระสมาคมเมื่อวันที่ 2 ม.ค.2538 มีมติไม่ให้พระสงฆ์ไปยุ่งเกี่ยวกับการเมือง แต่พระพยอมกลับไปพูดถึงนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ในทำนองชื่นชมราวกับคนที่ฝักใฝ่ทางการเมือง ซึ่งเป็นเรื่องที่ผิดและขัดกับคำสั่งของมหาเถระสมาคมเป็นอย่างมาก แต่ทางเจ้าคณะก็ไม่ออกมารับหนังสือจากทางกลุ่ม […]

1 135 136 137 2,881
error: