“พระชาตรี” โพสต์หลังกระแสเดือด พี่หลวงต้องขอโทษ “น้องแพรรี่” จงอโหสิกรรม

Advertisement 23 ก.ย.2565 จากกรณี “พระชาตรี เหมพันธุ์” เจ้าอาวาสวัดพุทธวิหาร วัดไทยในนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ประเทศรัสเซีย ไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊กพาดพิง “แพรรี่” ไพรวัลย์ วรรณบุตร อดีตพระนักเทศน์ชื่อดังอย่างเผ็ดร้อน Advertisement ทำนองเนรคุณพระพุทธศาสนา จิกเรียกว่าอี ขณะที่“แพรรี่” ฟาดกลับเดือดต่อมา “ทนายธรรมราช” โพสต์ภาพขึ้นโรงพักเมืองฉะเชิงเทรา แจ้งความเอาผิด“แพรรี่”ข้อหาดูหมิ่นพระชาตรีให้ได้รับความเสียหาย ก่อนปะทะคารมกันในรายการดังช่อง 3 โหนกระแส Advertisement ล่าสุด พระชาตรี ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก Chatree Hemapandha ข้อความว่า “คนเราเมื่อผิดต้องกล้ารับผิด พี่หลวงต้องขอโทษน้องแพรรี่ ที่ก้าวล่วง เห็นด้วยกับความเห็นและทัศนคติของน้องทุกประการ จงอโหสิกรรม”   ข่าวจาก : ข่าวสด

คนขับรถเมล์ เปิดปมต่อยไม่ยั้งหนุ่ม จยย. เตือนคู่กรณีแล้วอย่าขี่รถเล่นมือถือแต่ไม่ฟัง

23 ก.ย.2565 ที่กรมขนส่งทางบก นายอภิสิทธิ์ (ขอสงวนนามสกุล) คนขับรถเมล์ เดินทางเข้ารายงานตัว ภายหลังจากมีคลิปพนักงานขับรถโดยสาร ขสมก. สาย 3 (กำแพงเพชร-คลองสาน) ทำร้ายร่างกายชายขับรถจักรยานยนต์ ถนนกำแพงเพชร 2 บริเวณจุดกลับรถหน้าสวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ จนทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ขึ้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า วันเกิดเหตุตนขับรถออกจากอู่กำแพงเพชร 2 ในช่วงเวลา 17.20 น. และในช่วงเลี้ยวซ้ายเข้าถนนกำแพงเพชร ปรากฏว่าเจอคู่กรณีกำลังขับรถจักรยานยนต์เล่นโทรศัพท์และแทรกซ้ายเข้ามาขณะรถเมล์กำลังเลี้ยวซ้าย ตนจึงบีบแตรเตือนไป 1 ครั้ง แต่เขาก็ยังไม่หยุดเล่น จึงบีบแตรเตือนไปอีก 1 ครั้ง ทำให้คู่กรณีไม่พอใจและตะโกนด่าตามมา แต่ตนไม่ได้ยิน นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า จากนั้น เขาก็ยังขับรถตามมา ตนจึงเปิดกระจกและตะโกนไปว่า “คุณไม่เห็นเหรอว่าผมเลี้ยวซ้ายอยู่ มันอันตรายนะ” เขาก็ตอบกลับว่า “แล้วไง ถ้ามีปัญหาก็ลงต่อยกัน” ตอนนั้นยอมรับว่า ตนเริ่มมีอารมณ์ขึ้นแล้ว แต่พนักงานเก็บเงินห้ามเอาไว้ ซึ่งหลังจากนั้น ตนก็ขับรถตามเส้นทาง แต่คู่กรณียังพยายามตีขวามาตลอดทาง พร้อมกับให้ของลับและด่าถึงบุพการี ก่อนจะขับนำหน้าไปจนถึงแยก อตก. ที่จะเลี้ยวซ้ายไปหมอชิต […]

รพ.ยางตลาด ขอรับผิดชอบ ปมรถพยาบาลฝ่าไฟแดง พุ่งชนชายวัย60เสียชีวิต

23 กันยายน ที่วัดโพธิ์ศรีสว่าง บ้านหนองศิริราษฎร์ ต.เชียงยืน อ.เชียงยืน จ.มหาสารคาม สถานที่จัดงานสวดพระอภิธรรม นายบุญยงค์ กายขุนทด อายุ 60 ปี ที่ถูกรถพยาบาลของ โรงพยาบาลยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ พุ่งชนกลางสี่แยก ก่อนเกิดไฟลุกไหม้คลอกร่าง ก่อนจะเสียชีวิตที่โรงพยายาลเชียงยืน บรรยากาศงานศพเป็นไปอย่างโศกเศร้า มีญาติพี่น้องและเพื่อนบ้านมาช่วยกันเตรียมงาน บางส่วนช่วยกันนำเหรียญมาห่อใส่กระดาษแก้วเพื่อทำเป็นทานโปรยในวันฌาปนกิจ ส่วนเพื่อนบ้านที่ทราบข่าวก็เดินทางมาที่วัด นำข้าวสารเหนียว ผ้า ดอกไม้ และเงินทำบุญมาช่วยงาน เพื่อเป็นการส่งดวงวิญญาณผู้วายชนม์ นายลำดวน กายขุนทด พี่ชายผู้เสียชีวิต อายุ 68 ปี กล่าวว่า ทราบข่าวตอนช่วงประมาณ 9 โมง รพ.ให้ญาติไปดู พอเข้าไปดูในห้องฉุกเฉิน หมอให้ยืนยันว่าใช่บุญยงค์จริงหรือไม่ เท่าที่ดูสภาพภายนอกจำไม่ได้เลย แต่มาเห็นแผลเป็นที่ชายโครงด้านขวาก็จำได้เพราะเคยไปผ่าฝีมา เท่าที่หมอเล่าให้ฟังคือไฟลวกทั้งตัวเกินกว่า 50% ซี่โครงขวาหักทั้งแถบ สมองได้รับการกระทบเทือน หมอปั๊มหัวใจจนมีสัญญาณชีพ พอจะส่งตัวต่อที่ไปยัง รพ.ในขอนแก่น ขึ้นรถได้ไม่ถึงนาทีหัวใจก็หยุดเต้นอีก ได้ปั๊มหัวใจอีก 3-4 รอบ จนรอบสุดท้าย […]

เพื่อนสั่งเสีย งานศพขอสนุกๆ ยอมกลั้นน้ำตา เต้นหน้าโลงศพตามคำขอ

โลกออนไลน์กำลังแห่แชร์คลิปวิดีโอของผู้ใช้ติ๊กต็อก khxunn หลังทำตามคำสั่งเสียของเพื่อน ที่ไม่อยากให้การเสียชีวิตของตนเองเต็มไปด้วยความเศร้าจึงขอให้เพื่อน ๆ เปิดเพลงที่ชอบสร้างความสนุกให้ในงานศพ เจ้าของคลิประบุว่า “สนุกพอมั้ยคะ ไปแบบไม่ต้องห่วงอะไรนะมึง” โดยก่อนเสียชีวิตเพื่อนเคยบอกไว้ว่า “ถ้ากูตาย กูขอสนุก ๆ” โดยขณะที่เคลื่อนศพจากบ้านไปยังวัดก็มีการเปิดเพลง เช่น เพลง Kill This Love ของ BLACKPINK เพลง Run Devil Run ของ Girls’ Generation และเพลงอื่น ๆ พร้อมกับเต้นไปด้วย เจ้าของคลิปก็ยืนยัน ย้ำอีกว่าเพื่อนคนนี้ตายจริง ๆ พร้อมทั้งระบุข้อความกันดราม่าว่า “ทุกอย่างที่ทำผ่านการได้รับอนุญาตจากทางพ่อแม่ ญาติผู้ใหญ่ โดยทางแม่เป็นคนขอให้ทุกคนสนุกตามคำขอสุดท้ายและแม่เป็นคนบอกให้หาเพลงที่เพื่อนชอบ มาเปิดตอนส่งศพและไม่ใช่ไม่ร้องไห้ค่ะ ร้องมาก่อนหลายวันละค่ะ ตอนเผาก็นั้นละค่ะ แค่ไม่ได้หยิบมาถ่าย” นับตั้งแต่เรื่องราวดังกล่าวถูกแชร์ก็มีชาวติ๊กต็อกเข้ามารับชมถึง 2.8 ล้านวิว พร้อมแห่ให้กำลังใจครอบครัว เจ้าของคลิป และเพื่อน ๆ คนอื่นที่ช่วยทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับเพื่อน “หลังกล้องคือน้ำตาแตก ทุกคนเข้มแข็งกันมาก” “คุณเป็นเพื่อนที่ดีมากเลยค่ะ แบบนี้กลับบ้านไปร้องไห้โฮทุกราย” “ถ้าเพื่อนรับรู้ได้ […]

กยศ. เปิดรายชื่อ 25 สถานศึกษา ชำระหนี้ดีที่สุดของประเทศ

(23 ก.ย.65) นายชัยณรงค์ กัจฉปานันท์ ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ได้เปิดเผยว่า “กองทุนได้จัดอันดับข้อมูลการชำระหนี้ของสถานศึกษาระดับอุดมศึกษาของรัฐและเอกชน จำนวน 313 แห่ง พบว่ามีอัตราเงินต้นค้างชำระเฉลี่ย 61% และเมื่อพิจารณาจากสถานศึกษาระดับอุดมศึกษาที่มีจำนวนผู้กู้ยืมที่ครบกำหนดชำระหนี้มากกว่า 2,000 ราย พบว่าสถานศึกษาที่มีอัตราการชำระหนี้ดีที่สุด 25 อันดับแรกส่วนใหญ่เป็นมหาวิทยาลัยของรัฐ โดยมหาวิทยาลัยที่มีอัตราการชำระหนี้ดีที่สุดเป็นอันดับแรก ได้แก่ “มหาวิทยาลัยพะเยา” และมีมหาวิทยาลัยเอกชนเพียงแห่งเดียวที่ติดอันดับ คือ “สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์” โดยเรียงตามลำดับมหาวิทยาลัยที่มีอัตราการชำระหนี้ดีที่สุด ดังนี้ 1. มหาวิทยาลัยพะเยา 2. มหาวิทยาลัยศิลปากร 3. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา 4 มหาวิทยาลัยนเรศวร 5. มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ 6. มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง 7. มหาวิทยาลัยมหิดล 8. มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ 9. มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ 10. มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ 11. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี 12. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ 13. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี 14. สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง […]

“ประวิตร” เผยใช้กฎหมายปกติ รับมือโควิด แทน “พ.ร.ก.ฉุกเฉิน”

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ครั้งที่ 12/2565 ถึงมติยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ว่า โฆษก ศบค. จะเป็นผู้ชี้แจง ตนไม่ได้เป็นโฆษก ขอให้รอฟังจากโฆษก เมื่อถามว่า การดูแลสถานการณ์การระบาดโควิด-19 หลังจากนี้ จะใช้กลไกอะไร พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า มันมีกฎหมายอยู่แล้ว ว่ากันตามกฎหมายปกติ เมื่อถามว่า เมื่อยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แล้ว ในวันที่ 30 ก.ย.นี้ ที่ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยกรณีการดำรงตำแหน่ง 8 ปี นายกรัฐมนตรี ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะมีการชุมนุมจะดูแลอย่างไร พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า “ปัดโธ่ ไม่มีอะไรหรอก” พร้อมกับยืนยันว่า การข่าวไม่มีการแจ้งความเคลื่อนไหวที่ผิดปกติ พิสูจน์อักษร….สุรีย์ ศิลาวงษ์   ข่าวจาก : bangkokbiznews

รัฐบาลประกาศยุบ ศบค. ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มีผล 1 ตุลาคมนี้

23 กันยายน ที่ทำเนียบรัฐบาล ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 (ศบค.) ที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี มีมติเห็นชอบยกเลิกประกาศการบังคับใช้พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2565 เป็นต้นไป ส่งผลให้ ศบค.มีอันต้องยุบเลิกไปด้วย ทั้งนี้ นพ.อุดม คชินทร ที่ปรึกษาคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 (ศบค.) ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าร่วมประชุม ศบค.ว่า สำหรับแผนเปลี่ยนผ่าน หลังวันที่ 1 ตุลาคม 2565 เป็นต้นไป ไม่ต้องตรวจ ATK ไม่ดูผลการฉีดวัคซีน แต่ประชาชนต้องดูแลตัวเอง คาดว่า เราจะต้องอยู่กับโควิด-19 ราว 1 ปี จึงจะกลายเป็นโรคประจำถิ่น ในระดับเดียวกันกับโรคไข้หวัด โดยปัจจุบันการฉีดวัคซีนอยู่ในระดับ 3 ไม่เจ็บป่วยรุนแรง ไม่เสียชีวิต การฉีดวัคซีนจึงยังเป็นประโยชน์ อย่างไรก็ดี ยังมีผู้ได้รับวัคซีนเข็มที่ 3 เพียง 30-40% […]

ญี่ปุ่นประกาศฟรีวีซ่านักท่องเที่ยว ไม่ต้องผ่านทัวร์ เริ่ม 11 ต.ค.

23 ก.ย.65 เว็บไซต์นิกเกอิเอเชีย ของญี่ปุ่น รายงานว่า เมื่อวันที่ 22 ก.ย. นายฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ประกาศขณะปฏิบัติภารกิจที่นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกาว่า ญี่ปุ่นเตรียมกลับมาเปิดให้นักท่องเที่ยวกลุ่มฟรีวีซ่า สามารถเดินทางเข้าประเทศได้ โดยไม่ต้องผ่านบริษัททัวร์แล้ว ตั้งแต่วันที่ 11 ต.ค.เป็นต้นไป ทำให้มาตรการผ่านเข้าประเทศญี่ปุ่นใกล้จะกลับมาเหมือนเดิม ก่อนหน้าที่จะมีการระบาดของโควิด-19 จนทำให้ต้องเข้มงวดการเดินทางเข้าประเทศมากขึ้นมานานถึง 2 ปีครึ่ง มาตรการนี้ที่ออกมาของญี่ปุ่น เพื่อเตรียมกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวเดินทางมากันมากขึ้น หลังจากค่าเงินเยนอ่อนลงหนัก จนธนาคารกลางญี่ปุ่นต้องเข้าไปแทรกแซง เมื่อวันที่ 22 ก.ย.ที่ผ่านมา ส่วนรายละเอียดของมาตรการผ่อนปรนเข้าประเทศแบบไม่มีฟรีวีซ่าและไม่จำกัดนักท่องเที่ยวเข้าญี่ปุ่น รวมถึงประเทศที่จะฟรีวีซ่าเข้าประเทศญี่ปุ่นได้ ต้องรอรัฐบาลญี่ปุ่นแถลงมาตรการออกมาอีกครั้ง โดยก่อนหน้ามีสถานการณ์โควิดแพร่ระบาด ประเทศไทยเป็นอีกหนึ่งประเทศที่ได้รับฟรีวีซ่า โดยในช่วงที่นักท่องเที่ยวจะเข้าประเทศญี่ปุ่นและต้องขอวีซ่าท่องเที่ยว พร้อมเดินทางผ่านบริษัททัวร์ ประเทศไทยถือเป็นอันดับ 2 รองจากประเทศเกาหลีใต้ ที่มีนักท่องเที่ยวขอวีซ่าเข้าไปเที่ยวญี่ปุ่นมากที่สุด   ข่าวจาก : ข่าวสด

กรมควบคุมโรคแจง ผ่อนคลายติดโควิด ไม่ต้องแยกกักตัว ไปทำงานได้

22 ก.ย. 65 นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ เห็นชอบมาตรการโควิด 19 รองรับเป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง โดยผู้ป่วยไม่มีอาการหรืออาการน้อย ไม่ต้องแยกกักแต่ให้เข้ม DMHT 5 วันแทน ว่า กรณี “กักตัว” ใช้กับผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ส่วน “แยกกัก” คือ ผู้ป่วยหรือติดเชื้อแล้วหรือการ Isolation แต่ขณะนี้เราต้องการให้ใกล้เคียงกับปกติ เนื่องจากสถานการณ์โควิดอาการไม่ได้รุนแรง คล้ายโรคหวัด โรคอื่นๆ ซึ่งหากเรารู้ตัวว่าป่วย แต่ไม่ยอมป้องกันตนเอง ก็จะทำให้ผู้อื่นเสี่ยงไปด้วย จึงแนะนำให้มีการปฏิบัติตาม DMHT สำคัญที่สุด คือ สวมใส่หน้ากากอนามัย เมื่อถามถึงกรณีป่วยโควิดอาการไม่มากหรือไม่มีอาการให้ปฏิบัติตาม DMHT แต่การไปทำงาน ต้องขึ้นกับนโยบายบริษัทหรือผู้ประกอบการ หรือความเสี่ยงแพร่เชื้อด้วยหรือไม่ นพ.โสภณ กล่าวว่า ใช่ หากเราทำงานใน รพ. และต้องอยู่ใกล้หรือดูแลผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ซึ่งตามคำแนะนำคือ ต้อง DMHT จะมี Distancing เว้นระยะห่าง การดูแลอาจต้องอยู่คนละห้องเลย […]

แอดมินเพจ กทม. ปรับลุคฝีปากแซ่บกับลูกเพจ สื่อสารตรงใจหรือเกรี้ยวกราด?

23 กันยายน 2565 กำลังมีดราม่าย่อม ๆ ในเฟซบุ๊ก กรุงเทพมหานคร เมื่อทางเพจโพสต์สถานการณ์สถิติฝนในช่วงเดือนกันยายนว่า เขตไหนมีฝนตกมากสุด พร้อมแซวว่า นี่น้องฝนขยันทำยอดหรือเปล่า ตกเก่ง ตกอลังการมาก ซึ่งรายชื่อเขตที่ฝนตกหนักมากสุด 5 เขต ได้แก่ 1. เขตพญาไท 603.5 มม. 2. เขตราชเทวี 569 มม. 3. เขตปทุมวัน 553 มม. 4. เขตวัฒนา 547.5 มม. 5. เขตบางเขน 542.5 มม. เสียงแตกสองฝั่ง สื่อสารดีตรงใจ กับบุคลิกแรง ๆ ฟาดปากลูกเพจ สอบมาทำงานค่ะ ไม่ได้จับสลาก งานนี้เสียงแตกยับกับการออกมาประชาสัมพันธ์ของแอดมินเพจ กทม. ที่บางส่วนออกมาชื่นชม มองว่าเป็นเรื่องน่ายินดีที่ตั้งแต่นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เข้ามาบริหาร ทางเพจก็มีความตื่นตัวและพยายามสื่อสารกับลูกเพจด้วยภาษาที่เข้าใจง่าย ไม่เป็นทางการเกินไป ปลดล็อกความคิดสร้างสรรค์ให้ได้โลดแล่นอีกครั้ง และเป็นเครื่องหมายว่า พนักงานข้าราชการที่รักในการทำงาน […]

1 393 394 395 3,810
error: