จ.เชียงใหม่เตรียมเปิดอำเภอใหม่ “อำเภอแม่ตื่น” หลังมีมติส่วนราชการผ่านฉลุย





27 ก.พ.60 ณ ห้องประชุมเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ศูนย์ราชการจังหวัดเชียงใหม่ นายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผวจ.เชียงใหม่ พล.ต.เกษมสุข ตาคำ ผบ.มทบ.33 ค่ายกาวิละ นายกฤษณ์ ธนาวนิช รอง ผวจ.เชียงใหม่ ร่วมเป็นประธานการประชุม หัวหน้าส่วนราชการประจำจังหวัดเชียงใหม่ ครั้งที่ 2/2560 ประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2560 โดยมีวาระสำคัญคือ วาระเพื่อพิจารณา ซึ่งน่าจะเป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่การประชุมหัวหน้าส่วนราชการจังหวัดเชียงใหม่มีวาระเพื่อพิจาณาถูกบรรจุเป็นวาระการประชุม โดยเป็นการขอความเห็นชอบจากที่ประชุมหัวหน้าส่วนราชการจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อขอจัดตั้งอำเภอแม่ตื่นเป็นกรณีพิเศษ ซึ่งเสนอที่ประชุมโดย นายมนัส ขันใส ปลัดจังหวัดเชียงใหม่

นายมนัส ขันใส ปลัดจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า อำเภออมก๋อย องค์การบริหารส่วนตำบลม่อนจอง องค์การบริหารส่วนตำบลแม่ตื่นและราษฎร ได้ร้องขอจัดตั้งอำเภอแม่ตื่นเป็นกรณีพิเศษ เพื่อเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องจากพระองค์ได้ทรงเสด็จพระราชดำเนินไปเยี่ยมราษฎร และทรงปฏิบัติพระราช-กรณียกิจอื่น ๆ นานัปการ สร้างความปลื้มปิติยินดีให้แก่พสกนิกรในพื้นที่เป็นอย่างยิ่ง และอีกประการหนึ่งตำบลแม่ตื่น และตำบลม่อนจองตั้งอยู่ห่างไกลจากที่ว่าการอำเภออมก๋อย ระยะทางประมาณ 76 กิโลเมตร และเส้นทางคมนาคมเป็นไปด้วยความยากลำบาก ราษฎรได้รับความเดือดร้อนในการติดต่อขอรับบริการจากหน่วยงานภาครัฐ ทำให้ขาดโอกาสในการพัฒนาในทุกๆ ด้านกรมการปกครองให้จังหวัดเชียงใหม่ดำเนินการตามหลักเกณฑ์และขั้นตอนที่กำหนดเพิ่มเติมประกอบด้วย ประการแรก ขอความเห็นชอบจากที่ประชุมสภาองค์การบริหารส่วนตำบลของอำเภอที่ขอจัดตั้งใหม่ และอำเภอเดิมให้ครบถ้วน ประการที่ 2 ขอความเห็นชอบจากที่ประชุมสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด และที่ประชุมหัวหน้าส่วนราชการประจำจังหวัดตามลำดับ พร้อมจัดส่งสำเนารายงานการประชุมที่กรมการปกครองทราบ

ที่ผ่านมาทั้งสภาองค์การบริหารส่วนตำบลของอำเภออมก๋อย และสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ได้พิจารณาและมีมติให้ความเห็นชอบการขอจัดตั้งอำเภอแม่ตื่นเป็นกรณีพิเศษเรียบร้อยแล้ว ในการนี้เพื่อให้การขอจัดตั้งอำเภอแม่ตื่นเป็นกรณีพิเศษในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เป็นไปตามหลักเกณฑ์และขั้นตอนที่กำหนดจึงขอให้ที่ประชุมร่วมกันพิจารณาการขอจัดตั้งอำเภอแม่ตื่นเป็นกรณีพิเศษในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ทั้งนี้ที่ประชุมหัวหน้าส่วนราชการจังหวัดเชียงใหม่มีมติเห็นชอบโดยเสียงเป็นเอกฉันท์ให้จังหวัดเชียงใหม่จัดตั้งอำเภอแม่ตื่นเป็นกรณีพิเศษเพื่อดำเนินการขั้นตอนและระเบียบการจัดตั้งต่อไป

สรุปสภาพปัจจุบันปัญหาเพื่อขอจัดตั้งอำเภอ…(แม่ตื่น) เป็นกรณีพิเศษ โดยแยกจากอำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ ตำบลแม่ตื่น และตำบลม่อนจองตั้งอยู่ทางทิศใต้ของจังหวัดเชียงใหม่ห่างจากที่ว่าการการอำเภออมก๋อย 76 ก.ม. และห่างจากจังหวัดเชียงใหม่ 290 ก.ม. มีพื้นที่รวมกันทั้ง 2 ตำบล โดยประมาณ 483,763.29 ไร่ หรือ 773.6 ตารางกิโลเมตร มีประชากรทั้งสิ้น 15,859 คน จำนวน 5,481 ครัวเรือน จำนวน 25 หมู่บ้าน แยกเป็นหย่อมบ้าน 64 หย่อมบ้าน

สำหรับวัตถุประสงค์ที่ขอจัดตั้งอำเภอ…(แม่ตื่น) เป็นกรณีพิเศษ ประการแรก เพื่อเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ ในโอกาสมหามงคล ทรงเจริญพระชนพรรษา 84 พรรษา เนื่องจากสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จพระราชดำเนินมาทรงงานในพื้นที่ตำบลแม่ตื่นและตำบลม่อนจองตั้งแต่ พ.ศ.2534-2548 ซึ่งพระองค์ได้พระราชทานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริหลายโครงการ เช่น โครงการอนุรักษ์สภาพป่าไม้ในพื้นที่อำเภออมก๋อย โครงการแก้ไขปัญหาความยากจนของราษฎรบ้านซิแบร หมู่ที่ 7 ตำบลแม่ตื่น โครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่ บ้านห้วยไม้หก หมู่ที่ 6 ตำบลม่อนจอง ตลอดจนโครงการให้ความช่วยเหลือราษฎรด้านต่างๆ เพื่อให้ราษฎรได้สำนึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่านสืบไป

ประการที่ 2 เพื่อเทิดพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 60 พรรษา ในการรักษาผืนป่าอันอุดมสมบูรณ์และรักษาทรัพยากรทางธรรมชาติ ทั้งสัตว์ป่าสงวนที่หาดูได้ยากและใกล้สูญพันธุ์เพื่อให้คนอยู่กับป่าได้ และเนื่องจากในปัจจุบันนี้ยังพบว่ามีแนวโน้มในการบุกรุกทำลายทรัพยากรธรรมชาติจึงจำเป็นที่จะต้องมีหน่วยงานคอยดูแลแหล่งทรัพยากรธรรมชาติเหล่านี้อย่างใกล้ชิดเพื่อไม่ให้ถูกบุกรุกทำลายต่อไป

ประการที่ 3 เพื่อแก้ไขปัญหาคุณภาพชีวิตของประชาชนในท้องที่ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีทั้งด้านการศึกษา การสาธารณสุข ความเป็นอยู่ของราษฎร เพื่อให้ราษฎรได้อยู่ดีกินดี ตามพระประสงค์ของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถและสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ได้พระราชทานโครงการแก้ไขปัญหาความยากจนของราษฎร

ประการที่ 4 เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานให้ทัดเทียมกับท้องถิ่นอื่น ทั้งด้านการคมนาคม การติดต่อสื่อสารระบบไฟฟ้าและประปา ซึ่งเป็นปัจจัยหลักในการดำรงชีวิตในยุคปัจจุบัน และเป็นพื้นฐานหลักในการพัฒนาเศรษฐกิจของท้องถิ่น

ประการที่ 5 เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจของท้องถิ่น โดยราษฎรจะได้มีอาชีพที่มั่นคงและเป็นหลักแหล่ง ทั้งด้านอาชีพการเกษตร การปศุสัตว์ จะทำให้เกิดอาชีพใหม่แก่ราษฎร เช่น อาชีพบริการต่างๆ ซึ่งจะเป็นพื้นฐานของเศรษฐกิจระดับชาติตามลำดับต่อไป

ประการที่ 6 เพื่อแก้ไขปัญหาความมั่นคงภายใน เช่น ปัญหาการลักลอบปลูกฝิ่น ปัญหาการใช้พื้นที่เป็นเส้นทางลักลอบขนแรงงานต่างด้าวที่ผิดกฎหมายเข้าสู่ในเมืองใหญ่ ปัญหายาเสพติดซึ่งปัจจุบันพบว่ามีการระบาดของยาเสพติดไปยังเยาวชนอย่างรวดเร็ว และปัญหาอาชญากรรมอื่นๆ

ประการที่ 7 เพื่อให้มีหน่วยงานราชการระดับอำเภอเป็นศูนย์กลางการปกครองตั้งอยู่ในท้องที่ เพื่อแก้ไขปัญหาด้านบริการประชาชนที่เกิดจากความห่างไกลตัวอำเภอ ปัญหาความเหลื่อมล้ำของสังคมเป็นการลดเวลาและภาระค่าใช้จ่ายของประชาชนในการติดต่อขอรับบริการจากภาครัฐ ประการที่ 8 มีหน่วยงานราชการหลักคือที่ว่าการอำเภออยู่ในพื้นที่ย่อมรู้ปัญหาและแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็วและตรงประเด็น เป็นที่พึ่งของประชาชน และเป็นที่ปรึกษาในการแก้ปัญหาในยามเกิดภัยพิบัติต่างๆ ได้รวดเร็วขึ้น

สำหรับสถานที่ก่อสร้างที่ว่าการอำเภอ…(แม่ตื่น) เป็นกรณีพิเศษ โดยพื้นที่ขอจัดตั้งอำเภอแม่ตื่น ได้มีการจัดเตรียมความพร้อมด้านสถานที่ที่จะใช้ในการก่อสร้างอาคาร ที่ว่าการอำเภอแม่ตื่น หอประชุม บ้านพักข้าราชการ และหน่วยงานต่างๆของราชการ ซึ่งมีสถานที่รองรับไว้เรียบร้อยแล้ว อยู่นอกเขตป่าสงวนแห่งชาติ มีการจัดแบ่งเขตแดนอย่างชัดเจน ที่ดินมีเนื้อที่ทั้งสิ้น 170 ไร่ 1 งาน 88 ตารางวา ตั้งอยู่ระหว่างหมู่ที่ 1 และหมู่ที่ 7 ตำบลม่อนจอง ห่างจากเขตชุมชน หมู่ที่ 2 ตำบลแม่ตื่น ประมาณ 200 เมตร เป็นพื้นที่จุดกึ่งกลางระหว่างตำบลแม่ตื่นและตำบลม่อนจอง เป็นที่ราบสูงสามารถมองเห็นทัศนียภาพทั้งสองฟากฝั่งได้อย่างชัดเจน น้ำท่วมไม่ถึง แสดงถึงความพร้อมของพื้นที่ที่สามารถดำเนินการก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างต่างๆ ของรัฐได้ โดยไม่ต้องทำการจัดหาด้วยการจัดซื้อหรือบุกรุก ขณะนี้ได้ดำเนินการออกสำรวจพื้นที่และได้กันพื้นที่ออกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนที่ 1 ให้ดำเนินการขอถอนสภาพที่ดินในส่วนที่จะนำมาเป็นที่สำหรับก่อสร้างศูนย์ราชการที่ว่าการอำเภอ และส่วนที่ 2 ให้คงสภาพเป็นที่หลวงเพื่อให้พลเมืองใช้ร่วมกันเหมือนเดิม จะได้ไม่มีผลกระทบกับราษฎรบ้านโห้งกู่ขาว หมู่ที่1 ตำบลม่อนจอง ที่อพยพหนีน้ำท่วมมาขออาศัยซึ่งมี 12 ครัวเรือน

ข่าวจาก : เชียงใหม่นิวส์

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: