เตรียมรับมือ! ลพบุรี-สระบุรี-อยุธยา…เตือน 3 จังหวัดท้ายเขื่อนป่าสักฯ เฝ้าระวังน้ำอย่างใกล้ชิด





นายทองเปลว กองจันทร์ รองอธิบดีกรมชลประทาน ได้ออกมาเปิดเผยถึง “สถานการณ์น้ำในเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จ.ลพบุรี” ว่า

“เนื่องจากบริเวณเหนือเขื่อนป่าสักฯ ยังคงมีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนอยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างมาก เฉพาะในช่วงวันที่ 27 ก.ย.-4 ต.ค.59 มีปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนรวมแล้วประมาณ 386 ล้าน ลบ.ม.”

 

และเมื่อวันที่ 6 ต.ค. 59 พบว่า มีปริมาณน้ำในเขื่อนทั้งหมด 867 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 90 ของความจุอ่าง ในปริมาณนี้ทำให้สามารถรองรับปริมาณน้ำได้อีกเพียง 93 ล้าน ลบ.ม.เท่านั้น หากไม่มีการปรับเพิ่มการระบายน้ำให้สมดุลกับปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อน คาดว่าจะมีปริมาณน้ำเต็มเขื่อน ในวันที่ 11 ต.ค.นี้ นอกจากนี้ ยังมีปริมาณฝนตกที่ จ.เพชรบูรณ์ ที่ไหลลงมาสมทบในแม่น้ำป่าสักด้วย

 

1566-1

 

นอกจากนี้ กรมอุตุนิยมวิทยา ยังคาดการณ์ว่า

ในช่วงวันที่ 5-11 ต.ค. ร่องมรสุมจะเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้มีฝนตกเพิ่มขึ้น ซึ่งจะทำให้มีปริมาณน้ำไหลลงอ่างเพิ่มมากขึ้น

 

ดังนั้น เพื่อให้การบริหารจัดการน้ำมีประสิทธิภาพสูงสุด กรมชลประทานจึงต้องปรับการระบายน้ำจากเขื่อนป่าสักฯ ตั้งแต่วันที่ 6 ต.ค. จากอัตราวันละ 40-50 ล้าน ลบ.ม.เป็นอัตราวันละ 50-60 ล้าน ลบ.ม. ลงคลองชัยนาท-ป่าสัก ซึ่งจะควบคุมปริมาณน้ำที่เขื่อนพระรามหก เพื่อให้มีพื้นที่ว่างที่จะสามารถรองรับปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนได้อีก

 

[ads]

 

ทั้งนี้ กรมชลประทานได้ทำหนังสือแจ้งไปยัง จ.ลพบุรี จ.สระบุรี จ.พระนครศรีอยุธยา และกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เพื่อประกาศแจ้งเตือนและประชาสัมพันธ์ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง บริษัท ห้างร้าน ที่ประกอบกิจการในแม่น้ำป่าสัก ให้เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด

 

 

ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก topicza.com

 

[ads=center]

 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: