ผู้สูงอายุเป็นกลุ่มคนที่เราจำเป็นต้องให้ความสำคัญทั้งการให้ความรัก การดูแลเอาใจใส่ และการให้เงินเพื่อประทังชีวิต เพราะเมื่อคนเรามีอายุมากขึ้นแล้ว ก็อาจจะไม่สามารถหาเงินได้มากเท่ากับที่เคยทำได้ตอนหนุ่มสาว ยิ่งถ้าใครขาดวินัยในการออม บั้นปลายชีวิตคงต้องลำบากแน่ๆ
แต่รัฐบาลก็เล็งเห็นถึงความสำคัญเรื่องนี้ และได้เห็นชอบข้อเสนอของกระทรวงการคลัง เพื่อออกมาตรการดูแลสังคมผู้สูงอายุ เพื่อเสนอครม.พิจารณาเร็วๆนี้
ได้แก่
1. การตั้งกองทุนบำเหน็จบำนาญแห่งชาติ (กบช.) เพื่อให้ผู้มีอาชีพอิสระสมัครเป็นสมาชิกสะสมเงินออมระยะยาวในกองทุน กบช. เพื่อรับเงินบำนาญใช้ในยามเกษียณ
2. การจัดทำที่อยู่อาศัยผ่านหลายโครงการ เช่น การเคหะแห่งชาติ (กคช.) นำบ้านออกจำหน่ายหากใครให้พ่อ แม่ ปู่ย่า ตายายอาศัยอยู่ด้วยจะลดราคาให้เป็นพิเศษและถูกเลือกให้เป็นอันดับแรก
3. มาตรการภาษีดึงดูดให้ภาคเอกชนหรือหน่วยงานต่างๆจ้างผู้สูงอายุทำงาน เพื่อเป็นแรงจูงใจให้เอกชนร่วมกันดูแลผู้สูงอายุ
[ads]
ทั้งนี้ ที่ประชุมได้หารือเกี่ยวกับการดูแลผู้สูงอายุพบว่า
“อีก 12 ปีข้างหน้าจะมีผู้สูงอายุเพิ่มเป็น 14.4 ล้านคน จากปัจจุบัน 9.9 ล้านคน และมีสัดส่วน 1 ใน 10 ถูกทอดทิ้งให้อยู่ลำพัง ซึ่งมีประมาณ 8 ล้านคน
ขณะที่ผู้สูงอายุร้อยละ 34.3 มีรายได้ต่ำกว่าเส้นความยากจนหรือ 2,572 บาทต่อคนต่อเดือน”
ดังนั้น ที่ประชุมจึงเสนอสร้าง “เครือข่ายงานผู้สูงอายุระดับตำบล” เพื่อเสนอการส่งเสริมระบบการคลัง เพื่อสังคมในการสร้างความเข้มแข็งกับภาคประชาชน และวิสาหกิจชุมชนผ่านการระดมทุนพันธบัตรเพื่อสังคม โดยมีภาครัฐรับประกันการออกพันธบัตร ภาคเอกชนเป็นผู้ลงทุนการซื้อพันธบัตรรับประกันโดยภาครัฐ และได้รับเงินคืนเมื่อครบสัญญาพร้อมดอกเบี้ย เมื่อนำเงินไปใช้ในกลุ่มเป้าหมายให้เกิดประโยชน์
จะเห็นได้ว่า เพราะผู้สูงอายุไม่ใช่กลุ่มคนที่สังคมจะมองข้ามไปได้ และยังเป็นคนที่ประเทศต้องการมีไว้ ภาครัฐจึงต้องเข้ามาให้ความช่วยเหลือเพื่อให้พวกเขายังสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างมีความสุขต่อไป
ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก topicza.com
[ads=center]
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ