เทคนิคบริหารเงิน 10,000 บาท ให้อยู่รอดได้ทั้งเดือน!





   ในปัจจุบันเงินรายรับนั้นค่อนข้างจะหายาก แต่ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นทุกวันตลอดทั้งเดือนทำให้เกิดปัญหาติดขัด และรายรับกับรายจ่ายก็ไม่มีทางบรรจบกันได้อย่างลงตัว ทำให้เกิดปัญหาหนี้สินและปัญหาเกี่ยวกับการเงินตามมาอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น หากอยากมีเงินใช้ตลอดทั้งเดือนก็ต้องรู้จักเริ่มวางแผนจัดการเรื่องเงินให้ดี ไม่ว่าจะมีเงินหมื่นหรือเงินพันก็สามารถอยู่ได้อย่างสบายหากรู้จักใช้เงินให้เป็น คนเราทุกคนในสมัยนี้มักจะชอบคิดกันว่าเป็นเพราะค่าครองชีพสูงขึ้น รายจ่ายจึงเพิ่มมากยิ่งขึ้นทำให้เงินไม่เพียงพอใช้จ่าย แต่ในความจริงแล้วหากอยู่อย่างพอเพียงและกินใช้ในสิ่งที่จำเป็น เงินมากหรือเงินน้อยก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการใช้ชีวิตของคนเราเลยรวมถึงค่าครองชีพก็ไม่ใช่ประเด็นสำคัญในการใช้ชีวิตให้อยู่รอดในแต่ละเดือนด้วยเช่นกัน

 

[ads]

 

เทคนิคการ บริหารเงิน 10,000 บาท ให้อยู่รอดทั้งเดือนแม้ว่าค่าครองชีพสูงต้องปฏิบัติ ดังนี้

   อันดับแรกเลยคือต้องเริ่มจดบันทึกรายการรายรับและรายจ่ายเอาไว้ทุกเดือน เพื่อได้รับรู้ว่าค่าใช้จ่ายใดจำเป็นที่ต้องใช้และค่าใช้จ่ายใดไม่จำเป็นต้องใช้ จะได้ตัดออกไปได้ ทำเช่นนี้ทุก ๆ เดือนเพื่อเป็นการเตือนสติและเตือนความจำให้แก่ตนเองว่าสิ่งที่ใช้จ่ายไปนั้นมันมีความจำเป็นมากน้อยแค่ไหนและเงินส่วนใหญ่หายไปกับสิ่งใดกันบ้าง

   เมื่อรู้จักจดบันทึกรายรับรายจ่ายแล้วก็เริ่มต้นแบ่งสรรปันส่วนเงิน เงินส่วนแรกที่แบ่งออกมาก็คือเงินส่วนหนี้สินที่ต้องชำระหากใครที่ไม่มีหนี้ก็ถือว่าโชคดีอย่างมาก ค่าใช้จ่ายก้อนใหญ่ เช่น ค่าเช่าบ้าน ค่าน้ำ ค่าไฟ เป็นต้น บางคนจะหมดเงินกับส่วนค่าใช้จ่ายนี้เป็นจำนวนมากตั้งแต่ 3,000-5,000 บาท แค่รับเงินมาก็หมดไปเกือบครึ่งแล้วแต่อย่าเพิ่งใจหายกันไปเพราะมันคือส่วนจำเป็นที่ต้องจ่ายแต่ในผู้ที่ไม่มีรายจ่ายเหล่านี้เลยในแต่ละเดือนเงินก็จะมีอยู่เต็มจำนวนหรืออาจจะมีการจ่ายเพียงเล็กน้อยเท่านั้นก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี

   ส่วนที่ต้องแบ่งเงินออกมาอีกส่วนก็คือส่วนค่าใช้จ่ายทำให้อยู่รอดทั้งเดือนได้ ในส่วนนี้ตั้งงบประมาณต่อวันให้ลงตัวไปเลย และไม่นำเงินส่วนกินใช้ตลอดทั้งวันใส่รวมกันไว้ในกระเป๋าสตางค์เพราะโอกาสใช้เงินเกินนั้นมีมากพอสมควร ดังนั้น แบ่งเงินเป็นอาทิตย์หรือเป็นวันใส่เอาไว้ในกระเป๋าสตางค์ก็พอและอย่าลืมแบ่งส่วนของเงินเก็บแยกเอาไว้ด้วยไม่ใช่เอาไปเป็นค่าใช้จ่ายทั้งหมดอย่างน้อยต่อเดือนต้องมีเงินเก็บอย่างน้อย 500-1,000 บาท เอาเข้าบัญชีไว้ เดือนไหนที่มีรายได้เพิ่มมากขึ้นก็เพิ่มเงินส่วนเก็บให้มากยิ่งขึ้น เมื่อมีความจำเป็นหรือมีเหตุฉุกเฉินก็ยังมีเงินสำรองเอาไว้ใช้จ่ายได้

   การท่องเที่ยวกลางคืนหรือดื่มเครื่องดื่มมึนเมา รวมทั้งการนั่งรับประทานอาหารตามร้านอาหารนั้นเป็นสิ่งที่ต้องตัดออกไปให้ได้ หากอยากอยู่ได้ด้วยเงินเพียงแค่ 10,000 บาทต่อเดือน หากยังกินเที่ยวและไม่รู้จักใช้เงินต่อให้มีมากกว่าหมื่นก็หมดไม่พอใช้จ่ายอยู่ดี สิ่งที่ไม่จำเป็นเหล่านี้จำเป็นต้องรู้จักเลิกและห้ามตนเองให้ได้ หากไม่อยากลำบากในภายภาคหน้า อาหารการกินก็เช่นกัน คนเราส่วนใหญ่กินเพื่ออยู่ ไม่ได้อยู่เพื่อกินอาหารราคาแพงหรืออาหารราคาถูก ขอแค่สะอาดถูกหลักอนามัยก็สามารถทำให้อิ่มท้องมีแรงทำงานต่อไปได้เหมือนกัน ไม่จำเป็นต้องไปค่านิยมตามใครเพราะว่าบางคนที่ฉากหน้าติดหรูหรือใช้จ่ายอย่างไม่คิดส่วนใหญ่เบื้องหลังนั้นเต็มไปด้วยหนี้สินและความยากลำบากกันทั้งนั้นตัวอย่างมีให้เห็นอยู่มากมายสำหรับมนุษย์เงินเดือนที่เมื่อเงินเดือนออกก็จะใช้เงินอย่างไม่คิดแต่เมื่อพอเข้ากลางเดือนและเกือบปลายเดือนบางคนต้องพึ่งมาม่าเพื่อประทังชีวิตให้อยู่รอดถึงวันเงินออกกันเลยหากไม่อยากลำบากเช่นนั้นเลิกนิสัยใช้เงินไม่คิดกันเลยจะดีกว่า

thai-money

ภาพ:www.workandvolunteer.com

   อย่าสร้างหนี้เพิ่มหากมีหนี้สินที่ยังผ่อนชำระอยู่ เพราะมันจะเป็นการเพิ่มยอดหนี้ให้มากขึ้นจากเคยผ่อนชำระส่วนหนึ่งและเหลือเงินกินใช้ตลอดทั้งเดือน ก็ต้องแบ่งเงินส่วนใช้หนี้เพิ่มมากยิ่งขึ้นทำให้เงินส่วนกินใช้ไม่เพียงพอตลอดทั้งเดือน ดังนั้น หยุดสร้างหนี้และพยายามผ่อนชำระหนี้สินให้หมดอย่างรวดเร็ว สำหรับคนที่ไม่มีหนี้ก็อย่าพยายามสร้างหนี้เพราะเมื่อใดมีหนี้เงินทองก็จะเหลือน้อยลงจากเคยได้กินใช้อย่างเต็มที่และมีเงินเก็บก็ไม่เหลือพอใช้ได้เช่นกัน หนี้สินส่วนใหญ่ที่คนก่อขึ้นมานั้นไม่มีความจำเป็นในชีวิตประจำวันของคนเราเลยหรือในบางคนก็สร้างหนี้แบบไม่คำนึงถึงรายรับของตนเอง บางอย่างก็ต้องใช้เวลากว่าหาได้เพราะว่าหากรายได้ยังไม่ดีพอก็อย่าเพิ่งหวังไปไกลมาก พยายามหาเงินและเก็บเงินสร้างอนาคตที่มั่นคงทั้งเรื่องการเงินและการงานให้ได้ก่อนแล้วจึงค่อยอยากมีสิ่งใหญ่ ๆ อย่างเช่น บ้าน รถยนต์ เป็นต้น

   ในความเป็นจริงแล้วแต่ละเดือนต่อให้มีเงินเท่าไร หากรู้บริหารจัดการให้ดีเงินก็จะสามารถกินใช้อยู่ได้ทั้งเดือน ตัดสิ่งที่ไม่จำเป็นออกไปจากชีวิตประจำวันนั้นไม่ใช่เรื่องยาก แต่สิ่งที่ยากกว่าการตัดค่าใช้จ่ายเหล่านี้คือตัวของเราเองรู้จักการใช้จ่ายของตนเองและควบคุมการใช้จ่ายให้ได้ทุกปัญหาเรื่องการเงินก็ไม่ใช่สิ่งที่ใหญ่มากสำหรับเราอีกต่อไป

 

[ads=center]

 

ขอบคุณเนื้อหาจาก:https://moneyhub.in.th

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: