เช็คด่วนเลย! ใครมี “เหนียงใต้คาง” ไม่ได้แค่แปลว่าอ้วน แต่แสดงสัญญาณอันตรายที่ต้องรีบรักษาก่อนหายใจไม่ออก !





คนอ้วนมักมี “คางสองชั้น” เป็นสัญลักษณ์ เพื่อบ่งบอกความอุดมสมบูรณ์ของร่างกาย  ซึ่งคางสองชั้นนั่นไม่ได้มีความหมายในเชิงน้ำหนักหรือการกินมากเกินไปเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังแปลว่าคุณกำลังมีสัญญาณบางอย่างของร่างกายที่ผิดปกติ โดยเฉพาะเรื่องของระบบหายใจด้วย จะเป็นอะไรบ้างนั้น ตามมาดูเลย

 

1481.1

 

"เหนียง" หรือ “คางสองชั้น” เกิดได้จากหลากหลายสาเหตุทั้งจาก การสะสมของไขมันหรือการหย่อนยานของกล้ามเนื้อลิ้นป็นต้น แต่ทั้งนี้ คนส่วนใหญ่มักจะกังวลถึงแค่เรื่อง “ความสวยงาม” เท่านั้น แต่ลืมไปว่าความเป็นจริงแล้ว "คาง2ชั้น" ยังมีสิ่งอื่นที่เป็นสัญญาณแสดงภาวะผิดปกติของร่างกายอีกด้วย ดังต่อไปนี้

 

1) รูปแบบที่เกิดจากตัวกล้ามเนื้อลิ้นหย่อน

รูปแบบนี้จะก่อให้เกิดผลเสียเมื่อเวลานอนหลับลึก เนื่องจากกล้ามเนื้อลิ้นที่หย่อนลงมามากจะไปปิดทางเดินหายใจ และทำให้เกิด 'ภาวะหยุดหายใจชั่วขณะเวลานอนหลับ'  ซึ่งเป็นสาเหตุของอาการอ่อนล้า, อ่อนเพลีย, ความดันโลหิตสูง รวมถึงโรคหัวใจได้

 

1481.3

 

วิธีตรวจสอบง่ายๆ

1. มองหน้าตรงแล้วใช้ปลายไม้บรรทัดจรดไปที่ลูกกระเดือกแล้วทาบมาที่คอ

2. ดูว่ามีช่องว่างพอให้นิ้วชี้เราผ่านได้หรือไม่  

3. ถ้านิ้วชี้ผ่านไม่ได้ ก็แสดงว่า มีความเสี่ยงต่อภาวะที่ว่านี้

 

 

[ads]

 

2) รูปแบบที่เกิดจากกระดูกอ่อนใต้กล้ามเนื้อลิ้น (Hyoid Bone) อยู่ต่ำลงมาจากตำแหน่งปกติ

สาเหตุเกิดจากกล้ามเนื้อที่ยึดกระดูกนี้หย่อนยานและทำงานได้ไม่เต็มที่ ทั้งนี้ กล้ามเนื้อมัดนี้มีหน้าที่สำคัญช่วยการเปิดปิดของแผ่นปิดกล่องเสียง ป้องกันไม่ให้อาหารลงไปหลอดลม แล้วหล่นเข้าปอดเวลากลืน

ดังนั้น การที่กล้ามเนื้อมัดนี้หย่อนยาน ก็ทำให้แผ่นปิดกล่องเสียงเปิดและปิดได้ไม่ดี และทำให้มีโอกาสสำลักอาหารเข้าปอดได้ง่าย จนสุดท้ายก็จะส่งผลทำให้เกิด ‘โรคปอดอักเสบติดเชื้อ’ ได้นั่นเอง

 

 

1481.2

 

วิธีตรวจสอบง่ายๆ

วิธีที่ 1

1. ใช้นิ้วทาบบริเวณลูกกระเดือกแล้วกลืน

2. ดูว่าลูกกระเดือกสามารถเคลื่อนขึ้นลงผ่านนิ้วเราได้ปกติหรือไม่

 

วิธีที่ 2

1. สังเกตระยะเวลาการกลืน โดยให้ดูว่าเราสามารถทำได้ปกติหรือไม่ ภายใน 30 วินาทีเราสามารถกลืนได้กี่ครั้ง โดยถ้ากลืนได้ต่ำกว่า 2 ครั้งถือว่าผิดปกติ

 

 

การตรวจเช็ค "คาง 2 ชั้น" ด้วยวิธีข้างต้น เพื่อเป็นการตรวจด้วยวิธีเบื้องต้นก่อนไปหาหมอ ถ้าเกิดรู้สึกว่าสงสัยว่าตัวเองผิดปกติจริง  ให้แนะนำว่าควรรีบไปปรึกษาแพทย์เฉพาะทางเกี่ยวกับโรคหู คอ จมูก ดูนะคะ เพราะหากมีความผิดพลาดประการใด ก็จะได้แก้ไขได้ทันเวลา และจะได้ไม่บานปลายเป็นเรื่องใหญ่…จนแก้ไขไม่ทัน

 

 

ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก https://www.facebook.com

 

[ads=center]

 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: