ปลูกง่าย ขายคล่อง…ปลูก “ผักบุ้งจีน” หน้าฝน  ผักกรอบอร่อย  ไม่ต้องรดน้ำ โตไว ขายได้กำไรเห็นๆ





หลายคนคิดว่า ในช่วงหน้าฝนอย่างนี้ น้ำมีมากมาย ไม่ต้องเสียเวลารดน้ำผัก จะปลูกอะไรก็ได้กิน ได้ขายทั้งนั้น ถ้าคุณคิดแบบนั้นคุณกำลังคิดผิด เพราะพืชแต่ละชนิดชอบน้ำไม่เหมือนกัน ซึ่งพืชบางชนิด เมื่อได้รับน้ำมากเกินไปรากจะจมน้ำ และเน่าเสีย จนไม่สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ ดังนั้น เราจึงจำเป็นที่จะต้องเลือกปลูกผักให้เหมาะสมกับฤดูกาล และหน้าฝนแบบนี้มาปลูกผักต่อไปนี้กันเถอะค่ะ

 

ผักชนิดไหนควรปลูกในฤดูฝน

การปลูกผักในช่วงต้นฤดูฝน (ระหว่างเดือนพฤษภาคม-กรกฎาคม) ควรเลือกปลูกผักคะน้า กุยช่าย บวบเหลี่ยม กวางตุ้งไต้หวัน ข้าวโพดหวาน และ หอมแดง

การปลูกผักช่วงปลายฤดูฝน หรือช่วงที่มีฝนตกมาก (ระหว่างเดือนสิงหาคม-ตุลาคม) ควรปลูกผักจำพวกผักชีลาว ผักโขม กุยช่าย ผักกาดขาว กวางตุ้ง คะน้า หอมแบ่ง มันแกว มันเทศ มะเขือเปราะ มะเขือยาว ผักกาดหอม ผักบุ้งจีน พริกชี้ฟ้าและพริกขี้หนู

ส่วนถ้าใครอยากปลูกผักที่สามารถปลูกได้ตลอดทั้งปี สามารถปลูกผักเหล่านี้ได้ ได้แก่ ผักกาดเขียวกวางตุ้ง ผักกาดหอม ตั้งโอ๋ ผักบุ้งจีน แตงโม ผักชี หอมแบ่ง ถั่วฝักยาว มะระ บวบ ฟัก

 

1212.2

 

จากข้อมูลข้างต้นวันนี้เราจึงอยากจะขอแนะนำการปลูก “ผักบุ้งจีน” กัน เนื่องจากเป็นผักที่ปลูกได้ทุกฤดู แต่สำหรับฤดูฝนจะปลูกง่ายและโตไวมากๆหากมีระบบการจะชัดการที่ดี แถมยังไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องโรคแมลงด้วย และที่สำคัญยังสามารถสร้างรายได้ให้กับคุณได้ไม่น้อยเลยด้วยหากใครคิดจะทำเป็นอาชีพ

 

การปลูกผักบุ้งจีน

1. การปลูกผักชนิดนี้เริ่มจากการรดน้ำแปลงปลูกให้ชุ่ม หว่านเมล็ดผักบุ้งจีนให้กระจายทั่วแปลง (โดยปกติจะหว่านตอนเย็น) แล้วคลุมแปลงด้วยฟางข้าวบางๆ รดน้ำ

2. ตอนที่หว่านเมล็ดใหม่ๆ อาจจะขึงตาข่ายพรางแสงบังเม็ดฝนเอาไว้บ้าง ซึ่งใช้เวลาไม่เกิน 1 สัปดาห์ เมื่อผักโตพอสมควรแล้วก็ไม่จำเป็นต้องใช้อีกต่อไป

3. ผักบุ้งจีนเป็นพืชที่ชอบดินที่ชุ่มชื้น ยิ่งปลูกในฤดูฝนผักยิ่งโตไว แต่ต้องระวังไม่ให้น้ำขังและขาดน้ำ เพราะจะทำให้ผักบุ้งจีนชะงักการเจริญเติบโต ต้นแข็งกระด้าง เหนียว ไม่น่ารับประทาน

4. ใส่ปุ๋ยสูตร 46-0-0 อัตรา 50 กก/ไร่ แบ่งใส่ 2 ครั้งหลังจากหว่านเมล็ด 7 วัน และ 15 วัน

5. เก็บเกี่ยวผลผลิตได้หลังจากหว่านเมล็ดไปแล้วประมาณ 20-25 วัน โดยให้ถอนต้นผักบุ้งออกทั้งต้นและราก หลังจากนั้นล้างรากให้สะอาด เก็บใบและแขนงที่โคนต้นออกด้วย

           

1212.1

 

สำหรับรายได้ที่จะได้แบบเป็นกอบเป็นกำ เราจะขอยกตัวอย่างการปลูกโดยใช้พื้นที่ 50 ตารางวา ซึ่งใช้เมล็ดพันธุ์ประมาณ 4 – 5 กิโลกรัม เมื่อนำมาคำนวณแล้วจะผลิตต้นผักบุ้งได้ถึง 5,220 กิโลกรัม หากขายราคากิโลกรัมละ 10-15 บาท จะขายได้เป็นเงินประมาณ 52,000 -78,000 บาท (ยังไม่หักต้นทุน)...ถือว่าลืมตาอ้าปากได้เลยละ

 

[ads]

 

เทคนิคสำคัญสำหรับการปลูกผักหน้าฝน

โดยปกติแล้ว ผักและพืชหลายชนิดที่เป็นประเภทล้มลุกจะมีระบบรากรากที่ไม่ลึกมาก  การปลูกผักลงดินอาจทำลายหน้าดินไปบางส่วนในกรณีที่ฝนตกหนักหรือดินมีการขุดและพรวนดินใหม่ๆ จึงต้องมีการคลุมด้วยวัสดุปลูกอย่างอื่นด้วย เช่น แกลบ ฟางข้าว เพื่อรักษาหน้าดินเอาไว้

กรณีที่ดินอุ้มน้ำมาก รากผักอาจจมน้ำขาดอากาศหายใจ ดังนั้น จึงอาจต้องยกร่องปลูกให้สูงกว่าเดิมเล็กน้อย และทำระบบระบายน้ำให้ดี เพื่อป้องกันน้ำขังจากฝนที่อาจตกลงมาทุกวัน จนทำให้ผักเสียหาย หรืออาจจะใช้วิธีการทำหลังคามุงหรือตาข่ายกางสำหรับกันแดดและฝนบางๆ ก็สามารถช่วยได้ในระดับหนึ่ง

 

การปลูกผักสวนครัว ช่วยให้ประหยัดค่าใช้จ่ายในมื้ออาหารแต่ละมื้อไปได้ หรือถ้าใครจะปลูกขายเป็นอาชีพก็ไม่ว่ากัน ที่สำคัญคือปลอดสารพิษ  ปลอดสารเคมี และยาฆ่าแมลงต่างๆ ทำให้รู้สึกมั่นใจขึ้นทุกครั้งที่รับประทานอาหารที่ปลูกเอง

 

 

ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก kasetorganic.com

 

[ads=center]

 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: