ต้องอ่าน ! หากอยากเป็น อ.มหาวิทยาลัย ข้อคิดเรื่องทุกข์ของ อ.มหาวิทยาลัยไทย





ต้องอ่าน ! หากอยากเป็น อ.มหาวิทยาลัย ข้อคิดเรื่องทุกข์ของ อ.มหาวิทยาลัยไทย

teacher 13

เริ่มจากเกิดวิกฤตเศรษฐกิจในปี พ.ศ. 2540 รัฐบาลมีนโยบายลดรายจ่าย จึงมีนโยบายให้ทุกมหาวิทยาลัยบรรจุตำแหน่งอาจารย์ในตำแหน่งพนักงานมหาวิทยาลัย โดยในปี พ.ศ. 2542 คณะรัฐมนตรีได้มีมติให้จัดจ้างพนักงาน ทดแทนอัตราข้าราชการพลเรือนในมหาวิทยาลัย เพื่อรองรับการออกนอกระบบ โดยมีข้อตกลงว่า ให้อาจารย์มหาวิทยาลัยได้รับเงินเดือนในอัตราที่มากกว่าฐานเงินเดือนของข้าราชการในปัจจุบัน คือ เพิ่มขึ้น 1.7 เท่า โดยตัดสิทธิที่ข้าราชการแต่เดิมได้รับทั้งหมดออก เป็นแรงจูงใจเรื่องเงินเดือน ให้ใด้คนเก่งๆเข้ามาทำอาชีพนี้มากขึ้น

ปัญหาคือ 15 ปีผ่านมาแล้ว มีบางมหาวิทยาลัยเท่านั้นที่ยอมออกนอกระบบเป็นพนักงานฯกัน 100% ที่เหลือเกินครึ่งยังเป็นมหาวิทยาลัยของรัฐ มีข้าราชการผสมกับพนักงานมหาวิทยาลัยที่บรรจุเพิ่มขึ้นเรื่อยๆตลอดระยะเวลา 15 ปี ข้อตกลงในปี 2542 ก็ไม่ได้ปฏิบัติตาม ดังนั้น อาจารย์มหาวิทยาลัยยุคใหม่เก่งอย่างเดียวไม่พอ ผู้เขียนมีทัศนะอีกมุมนำเสนอว่า ท่านที่อยากมาเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยต้องรับให้ได้ในสิ่งดังต่อไปนี้

ต้องรับให้ได้กับการถูกหักเงินเดือนหน้าตาเฉย แม้มติ ครม. ปี 2542 ระบุว่าท่านต้องได้รับเงินเดือน 1.7 เท่าของฐานเงินเดือนข้าราชการปัจจุบัน แต่ในความเป็นจริงกลับไม่ใช่แบบนั้น   เพราะนอกจากท่านจะรับเงินเดือนในฐานเก่าแล้ว มหาวิทยาลัยบางแห่งยังจะหักเงินเดือนของท่าน ตั้งแต่ 0.2 – 0.7 (ส่วนใหญ่ได้รับจริง 1.0 – 1.5 เท่า) โดยมีข้ออ้างต่างๆนานาว่า เงินที่หักไปจะนำไปจัดสวัสดิการ หรือพัฒนาระบบพนักงานมหาวิทยาลัยในองค์กร โดยไร้การตรวจสอบชี้แจงที่ชัดเจน

ต้องรับให้ได้กับการถูกดูหมิ่นศักดิ์ศรี แม้ท่านจบปริญญาเอก หรือ จบปริญญาโทมา 2 – 3 ใบ แต่หากเป็นนักเรียนทุน ก็ไม่สามารถหนีไปทำงานเอกชนได้ เพราะติดสัญญาชดใช้ทุน ต้องมาบรรจุเป็นพนักงานมหาวิทยาลัย การยื่นกู้เพื่อเข้าหาแหล่งเงินในการสร้างบ้าน หรือลงทุน ธนาคารจะไม่ค่อยอนุมัติ เพราะสถานภาพไม่มั่นคง มีสัญญาจ้างที่สั้น 1-3 ปี หรือ 1-5 ปี ส่วนใหญ่ไม่มีระยะยาวถึงอายุ 60 ปี

ต้องรับให้ได้ว่า ท่านจะขาดเสรีภาพในการวิพากษ์วิจารณ์ ด้วยตำแหน่งของท่านมีสัญญาจ้าง มีกำหนดระยะเวลา หากพูดหรือวิจารณ์ไม่เข้าหูผู้มีอำนาจ ไปโวยวายมากก็อาจไม่ได้รับการต่อสัญญาจ้าง มีกรณีศึกษาเรื่องนี้เยอะมาก และพนักงานมหาวิทยาลัยไม่ได้อยู่ภายใต้การคุ้มครองของกฎหมายแรงงาน

ต้องรับให้ได้ว่า หากท่านถูกปลดออกจากงาน ท่านจะอุทธรณ์ไปที่คณะกรรมการข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา (ก.พ.อ.) ของกระทรวงศึกษาธิการไม่ได้ เพราะท่านไม่ใช่ข้าราชการ มีหนทางเดียวคือฟ้องศาลขอความเป็นธรรม ซึ่งปัจจุบันใช้เวลานานมากกว่า 3 – 5 ปี ซึ่งท่านจะว่างงานตลอดระยะเวลารอคำตัดสิน และสถิติข้อมูลส่วนใหญ่จากศูนย์ประสานงานฯ พนักงานมหาวิทยาลัยส่วนมากแพ้คดี เพราะเป็นการจ้างตามสัญญาจ้าง

ต้องรับให้ได้ว่า บางมหาวิทยาลัยให้เงินประจำตำแหน่งทางวิชาการ ระดับผู้ช่วยศาสตราจารย์ รองศาสตราจารย์ และศาสตราจารย์ เพียงครึ่งเดียวของตำแหน่งข้าราชการ ทำให้ในมหาวิทยาลัยของรัฐ มีอาจารย์ที่เป็นข้าราชการได้เงินประจำตำแหน่ง ผศ. รศ. และ ศ. 2 เท่าตามนโยบายรัฐ แต่พนักงานมหาวิทยาลัยรับไปเท่าเดียว เพราะไม่ใช่ข้าราชการ

ต้องรับให้ได้กับคำพูดดูถูกจากเพื่อนร่วมงานบางคน และจากผู้บริหารบางคนที่ขาดความเข้าใจในระบบพนักงานมหาวิทยาลัย ที่จะมีคำสบประมาทและดูถูกเพื่อนร่วมอาชีพที่ออกมาเรียกร้องความเป็นธรรม เช่น “รู้ว่าเป็นอย่างนี้แล้ว มาเป็นพนักงานมหาวิทยาลัยทำมั้ย” “ที่อื่นดีกว่าก็เชิญลาออกไปอยู่ได้เลย” “คุณอย่าลืมว่าคุณคือพนักงานมหาวิทยาลัย” “พวกคุณมันเงินเดือนเยอะแล้ว จะเอาอะไรอีก” “พวกคุณ ได้คืบ จะเอาศอก” เป็นต้น

ต้องรับให้ได้ว่า ท่านจะไม่ได้โบนัสเหมือนข้าราชการ แม้ในมหาวิทยาลัยของรัฐจำนวนมากมีสัดส่วนพนักงานมหาวิทยาลัยมากกว่า 80% แต่ผู้บริหารส่วนมากก็ยังเป็นข้าราชการ และเมื่อสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) เสนอ ครม. ให้โบนัสบุคลากรในสถาบันอุดมศึกษา เป็นเงินรางวัลให้กับบุคลากรที่สร้างสรรค์ผลงานให้แก่สถาบันตนเอง โดยให้เป็นเงินพิเศษที่เรียกว่าโบนัส และกลุ่มผู้สร้างผลงานให้กับหน่วยงาน ก็คือ พนักงานมหาวิทยาลัยกว่า 80% ในสถาบันนั้นๆ แต่โบนัสเหล่านี้มหาวิทยาลัยบางแห่ง ห้ามแจกจ่ายให้กับพนักงานมหาวิทยาลัย….

ต้องรับให้ได้ว่า ท่านจะโอนย้ายไม่ได้ เพราะระบบพนักงานมหาวิทยาลัยคล้ายเอกชน ต้องลาออกเพื่อไปสมัครที่ใหม่เท่านั้น

ต้องรับให้ได้ว่า ท่านต้องใช้ระบบประกันสังคมของกระทรวงแรงงาน เข้าสถานรักษาพยาบาลในท้องถิ่นได้ 2 แห่ง ยืนต่อแถวกับแรงงานพม่า รับยาราคาถูก และต้องอดทนกับคำถามของพยาบาลว่า เป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยทำมั้ยไม่ใช้การเบิกตรงจากกรมบัญชีกลาง

ทั้งหมดนี้เป็นอีกมุมที่ขอนำเสนอและเป็นข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นมาแล้วยินดีต้อนรับสู่อาชีพพนักงานมหาวิทยาลัย

[ads=center]

ที่มา: http://campus.sanook.com/1373141/อยากเป็น-อ.มหาวิทยาลัย-ต้องอ่าน-ข้อคิดเรื่องทุกข์ของ-อ.มหาวิทยาล/
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: