คนไทยเสียชีวิตเพราะ “โรคหัวใจและคอเลสเตอรอลสูง” มากที่สุด และนี่คือเหตุผลสำคัญที่ทำให้ต้องมีการพัฒนาวิธีการปลูกถ่ายหัวใจทั้งดวงขึ้นมาใหม่ เพราะใช้เป็นอะไหล่สำรองในกรณีที่เกิดความผิดปกติกับอวัยวะส่วนนี้ ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่นำพาไปสู่โรคร้ายอีกหลายรูปแบบนั่นเอง
การบริจาคอวัยวะมีข้อจำกัดหลายอย่างและต้องอาศัยโชคชะตา และเวลาที่เหมาะสม แต่สำหรับการปลูกถ่ายหัวใจนี้ สามารถเข้ามาช่วยลดปัญหาที่เคยมีมาลงได้ แทนที่จะต้องเสียเวลารอเป็นเดือนๆ เรากลับใช้เซลล์ของคนไข้เพาะอวัยวะให้กับพวกเขาเพียงเวลาไม่กี่สัปดาห์
[ads]
ซึ่งในขณะนี้ การเพาะเลี้ยงหัวใจอยู่ในขั้นตอนของการศึกษาที่บอกได้เลยว่า ตอนนี้มีโอกาสเข้าใกล้ความเป็นจริงมากๆ เพราะวงการแพทย์กำลังศึกษาเรื่องนี้กันอย่างจริงจัง!!!
หนึ่งในสัญญาณที่บอกว่าการแพทย์ด้านนี้กำลังเข้าใกล้ความเป็นจริง ก็คือ งานวิจัยที่ตีพิมพ์ลงในวารสารวิทยาศาสตร์ Circulation Outreach ของทาง Harvard Medical School แห่งสหรัฐอเมริกา ซึ่งเล่าถึงการเพาะเลี้ยงหัวใจดวงใหม่ที่มาจากเซลล์ของเราล้วนๆ และถือเป็นการมอบความหวังให้คนทั่วโลกเลยทีเดียว
ทีนี้มาลองดูกันคร่าวๆดีกว่าว่ากว่าจะ เพาะเลี้ยงและปลูกถ่ายหัวใจ ได้ จะต้องมีขั้นตอนอะไรบ้าง
เริ่มที่การเพาะเลี้ยงหัวใจ
การเพาะเลี้ยงหัวใจยังต้องการหัวใจของผู้บริจาคอวัยวะเหมือนเดิม แต่ต้องนำไปผ่านกระบวนการการล้างแบบพิเศษเสียก่อน เพื่อให้เซลล์และ DNA ทั้งหมดที่มีในหัวใจที่ได้รับบริจาคมานั้นจางหายไปหมด เพื่อป้องกันการต่อต้านหัวใจดวงใหม่ในผู้ที่รับการผ่าตัด และเหลือเพียงโครงสร้างทางโปรตีนรูปหัวใจแบบเปล่าๆ ก่อนจะนำเซลล์ของผู้ป่วยไปเพาะเลี้ยงในนั้น เก็บไว้ในตู้เพาะเลี้ยงประมาณ 2 สัปดาห์ และได้รับการกระตุ้นด้วยกระแสไฟฟ้าอยู่ตลอดเวลา เพื่อให้อวัยวะสามารถทำงานได้ด้วยตัวเอง
การเพาะเลี้ยงอวัยวะ ไม่ได้เฉพาะเจาะจงในส่วนของ ‘หัวใจ’ เท่านั้น แต่ยังมีแนวโน้มที่จะทำได้กับ ไต หลอดลม และกล้ามเนื้อของตับ ซึ่งการทดลองนี้นับเป็นครั้งแรกที่ทำกับหัวใจของมนุษย์แบบเต็มๆ ทั้งดวง!!
การผ่าตัดเปลี่ยนถ่ายหัวใจ
งานวิจัยนี้นำหัวใจทั้งหมด 73 ดวงมาทดลองเพาะเลี้ยงจนโตขึ้นมา และมีจำนวน Stem Cells ราวๆ 500 ล้านเซลล์ แต่การที่จะนำไปใช้จริงๆ ในมนุษย์ จะต้องมีจำนวนเซลล์ถึง 10,000 ล้านเซลล์ ซึ่ง ณ ขณะนี้ข้อกำหนดของทางรัฐบาลสหรัฐฯ ยังจำกัดจำนวนของสเต็มเซลล์ไว้ ทำให้การสกัดสเต็มเซลล์จากเซลล์ยังไม่ค่อยมีประสิทธิภาพอย่างที่ตั้งเป้าหมายไว้
อย่างไรก็ตาม อีกไม่กี่ปีข้างหน้า เรายังมีสิทธิที่จะได้เห็นเทคนิคนี้ถูกนำไปใช้งานกันจริงๆ ในวงการแพทย์ ซึ่งจะเป็นการปฎิวัติวงการครั้งยิ่งใหญ่ และสามารถช่วยชีวิตคนทั่วโลกได้เป็นหมื่นๆ แสนๆคนเลยทีเดียว
หากงานวิจัยนี้สำเร็จลงเมื่อไหร่ มนุษย์คงมีอายุที่ยืนยาวมากขึ้นกว่าเดิมแน่ๆ และคงแพร่ขยายไปยังการปลูกถ่ายอวัยวะอื่นๆ ที่จะช่วยให้สามารถเปลี่ยนอวัยวะสำรองได้อย่างง่ายดาย และช่วยลดปัญหาการค้าอวัยวะเถื่อนให้หมดลงไปได้
เมื่อมีสุขภาพกายที่ยืนยาวแล้ว ก็น่าจะช่วยให้มนุษย์สามารถสร้างสรรค์สิ่งดีๆหรือสร้างความสุขได้เพิ่มมากขึ้น จริงมั๊ยละค่ะ?
ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก catdumb.com
[ads=center]
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ