ไฟไหม้รถ…อันตรายที่หลายคนมองข้าม

ไฟไหม้รถ…อันตรายที่หลายคนมองข้าม

ไฟไหม้รถ เป็นอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง ส่วนใหญ่รถที่มักเกิดไฟไหม้ ได้แก่ รถที่ติดตั้งระบบก๊าซ LPG  หรือ NGV ที่ไม่ได้มาตรฐานและขาดการบำรุงรักษาอย่างถูกวิธี รถเก่าที่มีอายุการใช้งานนานรถที่ผ่านการปรับแต่งสภาพและใช้อะไหล่ที่ไม่มีคุณภาพหรือต่ำกว่ามาตรฐาน  ขณะที่รถใหม่ก็มีความเสี่ยงต่อการเกิดไฟไหม้ได้ หากไม่ดูแลรักษาสภาพเครื่องยนต์อย่างสม่ำเสมอ วันนี้ พี่ชะเอม มีวิธีการป้องกัน และการปฏิบัติตนกรณีเกิดไฟไหม้รถ ดังนี้

วิธีปฏิบัติเพื่อป้องกันไฟไหม้รถ
ก่อนขับขี่
ควรตรวจสอบสภาพรถให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน เติมน้ำหม้อน้ำในระดับที่กำหนด ท่อน้ำมันเชื้อเพลิงไม่มีรอยรั่ว ไม่มีเศษวัสดุติดในหม้อน้ำและท่อยาง สายพานมีความตึงในค่าที่กำหนด โดยเฉพาะกระโปรงหน้ารถ หากมีเขม่าดำเกาะ  แสดงว่าเครื่องยนต์ทำงานไม่สมบูรณ์  รวมถึงตรวจสอบใต้ท้องรถ หากมีรอยหรือคราบน้ำมันหยด ให้รีบแก้ไขโดยด่วน ที่สำคัญ ควรจัดเตรียมขวดน้ำเปล่าและถังดับเพลิงเคมีไว้ด้านข้างคนขับหรือในตำแหน่งที่หยิบใช้งานสะดวก  จะได้นำมาใช้งานได้ทันทีเมื่อเกิดไฟไหม้รถ

[ads=center]

ขณะขับขี่
ไฟไหม้รถมักเกิดในขณะที่รถกำลังวิ่ง ดังนั้น ผู้ขับขี่ควรหมั่นสังเกตบริเวณที่เป็นสัญญาณเตือนและมักเกิดไฟไหม้รถ ดังนี้
1.มาตรวัดระดับความร้อนของเครื่องยนต์  ซึ่งอยู่บริเวณหน้าปัดรถ หากหม้อน้ำแห้ง  พัดลมระบายความร้อนขัดข้อง จะทำให้เครื่องยนต์ร้อนจัดจนเป็นสาเหตุให้เกิดไฟไหม้รถได้
2.บริเวณกระโปรงหน้ารถ เพราะเป็นที่ตั้งของเครื่องยนต์และสายไฟที่อาจทำให้เกิดประกายไฟ
3.บริเวณกระโปรงหลังรถ โดยเฉพาะรถที่ติดตั้งระบบก๊าซ หากรถกระตุกเมื่อสตาร์ทหรือในขณะขับขี่ ควรนำรถไปตรวจสอบสภาพทันที  เพราะแสดงว่าเครื่องยนต์ทำงานขัดข้องหรือถังน้ำมันรั่ว ทำให้มีอากาศเข้าไปในตัวถังจนเกิดการเผาไหม้ไม่สมบูรณ์ ก่อให้เกิดไฟไหม้รถได้

วิธีปฏิบัติเมื่อรถประสบเหตุฉุกเฉิน
กรณีประสบอุบัติเหตุ  หากเป็นรถระบบก๊าซ ควรดับเครื่องยนต์ทันที และรีบออกจากรถ หากได้กลิ่นก๊าซรั่วไหล ให้รีบออกห่างจากรถ เพราะอาจเกิดการระบิดหรือเพลิงไหม้ พร้อมแจ้งช่างผู้ชำนาญการมาตรวจสอบ อย่างไรก็ตาม แม้รถที่ประสบอุบัติเหตุจะสามารถใช้งานได้ตามปกติ ผู้ขับขี่ก็ควรเปลี่ยนไปใช้ระบบน้ำมัน และนำรถไปตรวจสอบระบบก๊าซ เนื่องจากถังก๊าซและวาล์วข้อต่อต่างๆ อาจได้รับการกระทบกระเทือน ทำให้ก๊าซรั่วไหล จนเป็นสาเหตุให้เกิดไฟไหม้รถได้
กรณีเครื่องยนต์ร้อนจัด อาจเป็นสาเหตุให้เกิดไฟไหม้รถได้  หากสังเกตพบมาตรวัดระดับความร้อนของเครื่องยนต์อยู่ใกล้ตัว H แสดงว่าเครื่องยนต์ร้อนจัด ให้นำรถเข้าจอดบริเวณข้างทาง ดับเครื่องยนต์ เปิดฝากระโปรงหน้ารถ เพื่อระบายความร้อน รอจนเครื่องยนต์เริ่มเย็นลง จึงเติมน้ำเปล่าและปิดฝาหม้อน้ำให้สนิท หากเกิดจากหม้อน้ำรั่ว  ให้นำรถไปซ่อมแซม

ข้อควรปฏิบัติเมื่อเกิดไฟไหม้รถ

กรณีไฟไหม้เล็กน้อย  หากเป็นรถที่ติดตั้งระบบก๊าซ ให้รีบปิดสวิตช์ตัดการทำงานของระบบก๊าซ และดับเครื่องยนต์ พร้อมนำถังดับเพลิงเคมีฉีดพ่นบริเวณต้นเพลิง หากมีเปลวไฟออกมาจากฝากระโปรงรถ ให้ปลดสลักฝากระโปรง และฉีดพ่นผ่านทางช่องฝากระโปรงที่แง้มไว้ ห้ามเปิดฝากระโปรงทันที เพราะจะทำให้ไฟลุกลามมากขึ้น เมื่อไฟเริ่มสงบ ค่อยเปิดฝากระโปรงขึ้น โดยใช้ผ้ารองหรือสวมถุงมือ เนื่องจากฝากระโปรงมีความร้อนสูง หากเปิดได้แล้วควรฉีดพ่นให้ทั่วห้องเครื่อง จนมั่นใจว่าเพลิงดับสนิท  จากนั้นให้รีบถอดขั้วแบตเตอรี่ออก เพื่อป้องกันมิให้เปลวไฟปะทุขึ้นอีก กรณีไม่มีถังดับเพลิง ให้ใช้ผ้าแห้ง  ผ้าเปียกน้ำ หรือทรายมาโปะบริเวณที่เกิดไฟไหม้ หรือใช้ขวดน้ำเจาะปากขวดเป็นรูเล็กๆ ฉีดบริเวณที่เกิดไฟไหม้

กรณีไฟไหม้ลุกลามอย่างรวดเร็ว ตั้งสติ ดับเครื่องยนต์แล้วรีบลงจากรถ โดยออกห่างจากรถให้มากและเร็วที่สุด เพื่อป้องกันรถระเบิด จากนั้นให้โทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ดับเพลิงมาควบคุมเพลิง