เยียวยาร้านอาหาร ด่วน! สมาคมภัตตาคารไทย ทำหนังสือจี้นายกฯ ชี้วิกฤติแล้ว





สมาคมภัตตาคารไทย จี้นายกฯ เยียวยาร้านอาหาร หลังเจอวิกฤติจากมาตรการห้ามนั่งทานในร้าน พร้อมระบุ 2 ข้อเสนอ

เมื่อวันที่ 8 พ.ค.64 เฟซบุ๊ก สมาคมภัตตาคารไทย – Thai Restaurant Association ได้มีการเผยแพร่หนังสือ ซึ่งระบุว่า จดหมายจากนายกสมาคมภัตตาคารไทยถึงนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะผู้อำนวยการ ศบค. พร้อมเสนอมาตรการเร่งด่วนเพื่อพิจารณาช่วยเหลือผู้ประกอบการร้านอาหารให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน หลังได้รับผลกระทบจากมาตรการห้ามนั่งกินในร้าน

โดยมีใจความว่า ภาคธุรกิจร้านอาหารได้ปฏิบัติตามคำสั่ง ศบค.เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2564 เพื่อมีส่วนร่วมช่วยหยุดยั้งการแพร่ระบาดอีกครั้ง ตามคำสั่งที่ห้ามนั่งรับประทานในร้านเป็นเวลา 14 วัน ทั้งนี้ ร้านอาหารไม่สามารถที่จะมีสายป่านยาวเกินกว่านี้ได้อีกแล้วจึงขอความชัดเจนว่า จะสามารถเปิดให้นั่งรับประทานอาหารที่ร้านได้อย่างแน่นอน หากสถานการณ์ยังรุนแรงต่อไป ท่านนายกรัฐมนตรีจะมีความชัดเจนในการเยียวยาพวกเราหรือไม่

เนื่องจากมาตรการที่ออกมาเยียวยาประขาชนทั้งประเทศตามมติ ครม.เมื่อวันพุธที่ 5 พ.ค.ที่ผ่านมา นั้น มิได้ตรงกับสิ่งที่ร้องขอไป ทั้งที่ร้านอาหารมีผลต่อภาพรวมต่อเศรษฐกิจมหภาค และมีผลต่อธุรกิจที่เกี่ยวข้องไม่ต่ำกว่า 10 ล้านคน ด้วยเหตุที่รายได้หลักสำคัญของกิจการร้านอาหารคือรายได้จากการนั่งรับประทานในร้าน รายได้จากการขายเดลิเวอรี่ยังไม่สามารถทดแทนรายได้หลักได้ในเวลานี้ ดังนั้นเมื่อรายได้หายไปจึงเกิดผลกระทบหนักต่อผู้ประกอบการร้านอาหารตามมา ทำให้ผู้ประกอบการส่วนใหญ่อยู่ในสภาวะเสี่ยงต่อการปิดกิจการ ซึ่งหากไม่รีบช่วยเหลือก็จะส่งผลกระทบต่อภาคเศรษฐกิจของประเทศโดยรวมตามมา

ดังนั้น สมาคมภัตตาคารไทยในฐานะผู้แทนผู้ประกอบการภัตตาคาร ร้านอาหาร จึงขอนำเสนอมาตรการความช่วยเหลือมายังท่านนายกรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน โดยแบ่งการช่วยเหลืออกเป็น 2 ส่วนหลัก ดังนี้

ส่วนที่ 1 ความช่วยเหลือด้านต้นทุน ค่าใช้จ่าย โดยออกคำสั่งหรือข้อกำหนดให้ชัดเจนเพื่อให้ผู้ประกอบการใช้ในการขอลดค่าเช่ากับผู้ให้เช่ามีมาตรการโครงการช่วยเหลือค่าเช่าคนละครึ่ง นอกจากนั้นประสานห้างสรรพสินค้าลดค่าเช่าอย่างน้อย 50 เปอร์เซ็นต์ และให้เจ้าของอาคารผู้เช่าสามารถนำส่วนลดไปขอลดหย่อนภาษีได้ เพื่อเป็นการมาตรการช่วยเหลือด้านภาษี เงินทุน ให้งดการจัดเก็บภาษีรอบระยะเวลาบัญชี 1 ปีที่ผ่านมา ทั้งภาษีเงินได้นิติบุคคลและบุคคลธรรมดา สำหรับธุรกิจร้านอาหาร และยืดระยะเวลาในการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มออกไป 6 เดือน และลดค่าน้ำ ค่าไฟ 30 เปอร์เซ็นต์ให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจร้านอาหาร ตั้งแต่รอบบิลเดือนเม.ย.เป็นเวลา 6 เดือน พร้อมจัดแหล่งเงินกู้ และให้เจ้าของธุรกิจร้านอาหารเข้าถึงแหล่งเงินกู้ เพิ่มสภาพคล่องเพื่อประคับประคองธุรกิจ ฯ

ส่วนที่ 2 ความช่วยเหลือด้านการขาย รายได้ ออกมาตรการจูงใจการใช้จ่ายภาคประชาชน เช่น โครงการคนละครึ่ง ฯ ม.33เรารักกัน และอนุญาตให้ภัตตาคาร ร้านอาหาร ที่เป็นนิติบุคคล สามารถเข้าร่วมโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจทุกโครงการของรัฐบาลได้ เช่น โครงการคนละครึ่ง, ไทยชนะ, ม.33 มีมาตรการควบคุมค่าส่วนแบ่งการขาย หรือ GP จากแพลทฟอร์มเดลิเวอรี่ที่ปัจจุบันที่อัตราสูง จนเกิดภาระไม่คุ้มทุนของฝั่งร้านอาหาร ให้อยู่ในอัตราเหมาะสมอย่างน้อยในช่วงเวลานี้ และหรือมีมาตรการช่วยแบ่งเบาค่า GP ดังกล่าว ขอให้ใช้งบประมาณภาครัฐ หน่วยงานปกครองท้องถิ่น และรัฐวิสาหกิจ ในการจัดหาอาหาร เครื่องดื่ม ให้กับหน่วยงาน -เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ เช่น โรงพยาบาลสนาม สั่งอาหารเพื่อสนับสนุนบุคลากรทางการแพทย์ อาหารกล่องแจกแก่ประชาชนผู้ประสบภาวะวิกฤตโควิด ตกงาน ขาดรายได้ หรือให้ความร่วมมือหยุดอยู่บ้าน และให้กกร. ที่มีสมาคมธนาคารไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ลงขันจ้างร้านอาหารในท้องถิ่นทำอาหารกล่อง เพื่อให้มีเม็ดเงินหมุนในระบบ รักษาสภาพการจ้างงานพนักงานในร้านอาหาร

อีกทั้งยังมีความสามารถมาอุดหนุนซัพพลายเออร์และช่วยพ่อค้า แม่ค้าในตลาดสด มีผลถึงเกษตรกร ในการสั่งซื้อวัตถุดิบมาประกอบปรุง ก่อให้เกิดกระแสเงินสดหมุนเวียนให้กับร้านอาหารเป็นการเฉพาะหน้าได้ โดยให้หน่วยงานด้านสาธารณสุขคอยควบคุมกระบวนการผลิตอาหารตามมาตรการป้องกัน

 

ข่าวจาก : amarintv

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: