น้องเบส เด็กชายวัย 10 ขวบ พ่อตาย แม่ติดคุก ครูวอนสังคมช่วยเหลือ





ชีวิตจริงยิ่งกว่าละคร น้องเบส เด็กชายวัย 10 ขวบ พ่อตาย แม่ติดคุก ต้องอาศัยอยู่กับเพื่อนบ้าน ครูวอนสังคมช่วยเหลือ ชี้เก่งด้านภาษาอังกฤษ เป็นเด็กดี เป็นที่รักของเพื่อนและคุณครู

ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่ามีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์ข้อความว่า “จากวันนี้ไปไม่มีพ่ออีกแล้วพ่อที่เคยไปส่งโรงเรียน พ่อที่เคยเป็นเพื่อนเล่น นายมานพ แซ่บุ้น อายุ 51 ปี เสียชีวิตด้วยโรคติดเชื้อในกระแสเลือด ซึ่งนายมานพเป็นพ่อของ น้องชัยวุฒิ ทิอ่อน อายุ 10 ขวบ น้องได้ศึกษาอยู่ที่โรงเรียนวัดประชุมคงคาราม ต.วัดป่า อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์

ดังในคลิปแรกที่เพื่อนๆ พี่ๆ ได้เห็นคือ น้องพึ่งได้ทราบว่าพ่อของน้องเสียแล้ว โดยน้องไม่ได้ร้องไห้แต่อย่างใด แต่ที่ทราบข้อมูลมา น้องมีแม่และพี่สาวอยู่ต่างจังหวัด แม่แยกทางกับพ่อตั้งแต่ตอนยังเล็ก แม่ของน้องก็เอาพี่สาวของน้องไปด้วยแยกไปมีครอบครัวใหม่ ทราบข่าวมาว่าแม่ของน้องได้ถูกต้องโทษขังอยู่ในเรือนจำ “ไม่ทราบคดี” ซึ่งก่อนพ่อน้องจะเสียชีวิต น้องก็ได้อาศัยอยู่กับพ่อที่บ้านเช่าหลังโรงเรียนหยกฟ้า ต.หล่มสัก อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์

ต่อจากนี้น้องก็เหมือนตัวคนเดียว แต่ที่ยังมีหวังมีกำลังใจเพราะเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้ๆ กันเค้าดูแลอยู่เหมือนลูกหลาน เพราะน้องเป็นคนนิสัยดีมาก กินง่ายอยู่ง่าย พูดเพราะ ทางทีมงานกู้ภัยกกไทรได้รับร่างไร้วิญญาณของพ่อน้องจากโรงพยาบาลเพชรบูรณ์เพื่อที่จะนำมาฝังไว้ที่สุสานสมาคมกกไทร ต.บุ่งน้ำเต้า อ.หล่มสัก เพราะน้องไม่มีญาติอยู่ใกล้ๆ เลย ปู่ย่าตายายได้ข้อมูลมาว่าก็เสียกันไปหมดแล้ว

ส่วนเรื่องทำการแจ้งตายให้กับพ่อของน้อง ผอ.กองสวัสดิการของเทศบาลเมืองหล่มสัก เป็นผู้มาดำเนินการร่วมถึงพิธีการฝังร่างพ่อของน้อง โดยพี่อ้อยสัปเหร่อแต่งหน้าศพ คณะครูโรงเรียนวัดประชุมคงคารามร่วมพิธี จากสายตาที่เด็กน้อยไร้เดียงสา ทำให้หลายคนถึงกับต้องจุกและพูดไม่ออก บางคนน้ำตาคลอ บางคนก็ทำใจไม่ได้ที่ได้รับรู้เรื่องราว”

ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปตรวจสอบที่โรงเรียนวัดประชุมคงคา พบ ด.ช.ชัยวุฒิ ทิอ่อน หรือ น้องเบส อายุ 10 ขวบ โดยได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า แม่กับพ่อแยกทางกันตั้งแต่ตนยังเด็กจึงอยู่กับพ่อที่มีอาชีพรับจ้างทั่วไป โดยอาศัยอยู่ในห้องเช่าแห่งหนึ่งห่างจากโรงเรียนประมาณ 1 กิโลเมตร ต่อมาเมื่อไม่นานมานี้พ่อได้ป่วยและเข้าทำการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลเพชรบูรณ์และได้เสียชีวิตเมื่อวันที่ 16 มี.ค.2ที่ผ่านมา โดยระหว่างที่พ่อป่วยนั้นตนเองก็ไปอาศัยอยู่กับคนข้างบ้าน ที่เลี้ยงและดูแลเหมือนกับเป็นลูกคนหนึ่ง เมื่อพ่อเสียชีวิตแล้วตนก็ไม่รู้จะทำอย่างไรต่อไป สำหรับความใฝ่ฝันเมื่อโตขึ้นอยากจะเป็นนักบินอวกาศ

ด้านนางสาวิตรี บุญเกิดกูล อายุ 40 ปี เพื่อนบ้านที่ให้การดูแลน้องเบสเปิดเผยว่า ตนเพิ่งย้ายมาอยู่ห้องเช่านี้ประมาณ 3 ปีแล้วและได้เห็นน้องเบสวิ่งเล่นอยู่แถวนี้จึงรู้สึกเอ็นดูเพราะน้องเบสเป็นเด็กที่กิริยามารยาทดีมาก ว่านอนสอนง่าย อีกทั้งอายุรุ่นราวคราวเดียวกับลูกชายของตนเองซึ่งอายุ 11 ขวบ กำลังเรียนอยู่ชั้น ป.5 โรงเรียนเดียวกัน

เมื่อพ่อน้องเบสป่วยเข้าโรงพยาบาลจึงให้น้องเบสมานอนกับลูกชายตนเองที่บ้าน กระทั่งพ่อน้องเบสเสียชีวิตตนก็ยังให้น้องเบสมาอยู่ที่บ้านหลังนี้ โดยตนและครอบครัวต่างก็รักน้องเบสทุกคน ที่ผ่านมาตนดูแลทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าอาหารและเงินใช้จ่าย โดยให้ไปโรงเรียนวันละ 20 บาท น้องเบสจะใช้จ่ายอย่างประหยัดมาก โดยจะเอาไปออมกับคุณครู 10 บาท ซื้อขนมกิน 5 บาท เหลือ 5 บาท ก็นำมาหยอดกระปุกออมสินที่บ้าน หลังจากนี้หากน้องเบสไม่มีญาติหรือใครดูแลตนกับครอบครัวจะขอดูแลจนกว่าน้องจะจบชั้น ป.6 หรือจนกว่าน้องเบสจะมีผู้อุปการะเพราะตอนนี้ตนรักเหมือนลูกคนหนึ่งเช่นกัน

ด้านนางจุมรี เฮ้าปาน ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดประชุมคงคาเปิดเผยว่า น้องเบส เป็นเด็กดีเป็นที่รักของเพื่อนๆ ผลการเรียนปานกลางแต่ด้านภาษาอังกฤษทักษะค่อนข้างดี ตนและคุณครูได้ไปเยี่ยมบ้านมาหลายครั้งทราบว่าพ่อกับแม่ได้แยกทางกันตั้งแต่น้องเบสอายุประมาณ 3 ขวบ โดยแม่ได้นำพี่สาวไปอยู่ด้วยส่วนพ่อได้นำน้องเบสมาเลี้ยงดูและทราบข่าวมาว่า แม่ของน้องถูกดำเนินคดีเกี่ยวกับยาเสพติดและอยู่ในเรือนจำที่ต่างจังหวัด ส่วนพี่สาวน้องเบสได้มีผู้ใจบุญนำไปอุปการะเลี้ยงดูแล้ว ตนและคุณครูที่โรงเรียนเห็นถึงความเดือดร้อนของน้องจึงได้หาทางช่วยเหลือมาโดยตลอด และเมื่อพ่อของน้องเบสเสียชีวิตจึงตระหนักเรื่องความเป็นอยู่แต่ก็เบาใจที่มีเพื่อนบ้านอาสาเป็นผู้ดูแล

ทั้งนี้ในอนาคตน้องเบสจะต้องเรียนหนังสือที่สูงขึ้นจึงจำเป็นต้องมีค่าใช้จ่ายในอนาคต จึงได้ทำการเปิดบัญชีเพื่อขอรับบริจาคจากผู้ใจบุญในการช่วยเหลือโดยได้เปิดบัญชีชื่อบัญชี “ทุนการศึกษาเพื่อเด็กชายชัยวุฒิทิอ่อน” โดยมีคณะกรรมการร่วมเปิดบัญชี 2 คนและน้องเบส 1 คน โดยมีเงื่อนไขการเบิกจ่ายคือ 2 ใน 3 และจะต้องมีน้องเบสเป็นผู้เบิกร่วมด้วยทุกครั้งจนกว่าน้องจะอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์จึงจะสามารถเบิกจ่ายได้เอง

ดังนั้นผู้ใจบุญท่านใดต้องการที่จะช่วยเหลือน้องเบสสามารถติดต่อได้ที่โรงเรียนโดยตรงได้ที่ 086-6805875, 081-9811687 หรือ โอนเข้าบัญชีธนาคารออมสินเลขบัญชี 020360295750 ชื่อบัญชี “ทุนการศึกษาเพื่อเด็กชายชัยวุฒิทิอ่อน”

ข่าวจาก : amarintv

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: