ไฟเขียวแล้ว! ปลดล็อก “ไม้หวงห้าม” บนที่ ส.ป.ก. ตัดได้ ไม่ผิด
'กก.นโยบายป่าไม้' ไฟเขียวกฎหมายคุ้มครอง “ไม้กฤษณา-ไม้เทียนทะเล” สั่ง ทส.เร่งกฎหมาย ชง ครม.ปมถือครองที่ดินทำกิน - ปลดล็อกไม้หวงห้าม ชวนปลูกไม้มีค่า
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 29 ม.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานประชุมคณะกรรมการนโยบายป่าไม้แห่งชาติ ครั้งที่ 1/2564 โดยมีนายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เข้าร่วม
พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ให้กระทรวงทรัพยากรฯมีมาตรการดูแลรักษาป่าไม้ ให้เป็นไปตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด และเร่งรัดจัดส่งร่างพระราชกฤษฎีกา ที่ผ่านความเห็นชอบแล้ว นำเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบโดยเร็ว เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติให้ประชาชนได้รับประโยชน์อย่างรวดเร็วทั่วถึงและเป็นธรรม สร้างความมั่นใจให้กับชาวบ้านในท้องถิ่น เกิดแรงจูงใจในการปลูกไม้มีค่าและพืชเศรษฐกิจ สร้างรายได้ให้ครัวเรือน และส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจของท้องถิ่น และร่วมกันอนุรักษ์ต้นไม้ที่ใกล้จะสูญพันธุ์
ทั้งนี้ ที่ประชุมเห็นชอบ ร่างแผนแม่บทพัฒนาการป่าไม้แห่งชาติ และร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดไม้หวงห้าม เพื่อคุ้มครองและปกปักรักษา ไม้กฤษณา และไม้เทียนทะเล ที่ปัจจุบันเหลืออยู่ในป่าตามธรรมชาติจำนวนน้อยมาก โดยกำหนดให้ไม้กฤษณา เป็นไม้หวงห้าม ประเภท ก. (ไม้หวงห้ามธรรมดา) และกำหนดให้ ไม้เทียนทะเล เป็นไม้หวงห้ามประเภท ข. (ไม้หวงห้ามพิเศษ)
และรับทราบประกาศกระทรวงทรัพยากรฯ เรื่อง กำหนดที่ดินที่ได้รับอนุญาตให้ทำประโยชน์ ตามประเภทหนังสือแสดงสิทธิ์ เพื่อให้ไม้ที่ปลูกขึ้นในที่ดินดังกล่าว ไม่เป็นไม้หวงห้าม ทำให้ไม้ที่ปลูกขึ้นบนที่ดิน ส.ป.ก. ให้ถือว่าไม่เป็นไม้หวงห้าม มีผลบังคับใช้แล้ว ตั้งแต่ 17 ธ.ค.63 เป็นต้นไป
ส่งผลให้ราษฎรที่ครอบครองที่ดิน ส.ป.ก. ประมาณ 35 ล้านไร่ จำนวน 2 ล้านคน สามารถตัดหรือแปรรูปไม้ เพื่อสร้างรายได้ในครัวเรือนและท้องถิ่น โดยไม่ต้องขออนุญาตจากเจ้าหน้าที่รัฐ นอกจากนั้นคณะกรรมการฯ รับทราบผลการศึกษาจากคณะอนุกรรมการฯเกี่ยวกับผลกระทบ การส่งออกไม้สักสวนป่า และไม้พะยูง
