เตรียมลุ้น ลด “เคอร์ฟิว” เป็น “เที่ยงคืน-ตีสี่”





มีความเป็นไปได้ในการที่จะลดเวลา “เคอร์ฟิว” หรือ ประกาศห้ามออกจากเคหะสถาน จากที่บังคับใช้ในปุจจุบันคือ เวลา 23.00 – 04.00 น. เป็น 00.00-04.00 น. (เที่ยงคืนถึงตีสี่) หลังจากที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 วันที่ 22 พ.ค. มีมติให้ขยายเวลาประกาศใช้พระราชการกำหนดการบริหารราชการแผ่นดิน หรือ พรก.ฉุกเฉิน ออกไปเป็นรอบที่3 ระหว่างวันที่ 1 มิ.ย. ถึง 30 มิ.ย. 63

22 พ.ค.63 นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุม ศบค.ถึงข้อเสนอในการ ลดเวลาเคอร์ฟิว ว่า ในที่ประชุมศบค.วันนี้ ยังไม่ได้มีการเสนอเรื่องการลดเวลาเคอร์ฟิว แต่สมช.จะต้องพิจารณา ไทม์ไลน์การผ่อนปรนระยะที่สาม ซึ่งพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มอบให้เลขาสมช.  ในฐานะประธานกลั่นกรองไปพิจารณา โดยบอกว่าให้พิจารณาเรื่องท่องเที่ยวชุมชนให้ด้วย ซึ่งนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ก็สนับสนุนเพราะเรื่องเศรษฐกิจจะได้ฟื้นฟู อยากผ่อนปรนในประเทศให้ได้มากขึ้น 

“และตั้งตุ๊กตาให้เป็นโจทย์ไปพิจารณา เรื่องลดเวลาเคอร์ฟิวลง อาจเป็นเที่ยงคืนถึงตีสี่(00.00-04.00น.) เพราะเห็นว่าประชาชนให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีและทางการแพทย์ก็มีความคืบหน้า”

นายอิทธิพล กล่าวอีกว่า นายกฯยังบอกเลยว่าเรื่องความมั่นคงนั้นไม่ใช่เรื่องความมั่นคงตำรวจทหารเพียงอย่างเดียวแต่เป็นเรื่องความมั่นคงทางสาธารณสุขจึงอยากให้ประชาชนเข้าใจเรื่องสถานการณ์ด้านความมั่นคงว่าปัจจุบันนี้ด้านสาธารณสุขต้องควบคู่กันไป กลับเรื่องทหารตำรวจ ประเด็นการผ่อนปรนระยะที่สาม ให้พิจารณาเรื่อง เดินทางข้ามจังหวัด การเข้าพักโรงแรม เปิดห้องพัก  เพื่อให้เศรษฐกิจไหลได้ จึงมอบให้เลขาสมช.ไปลงรายละเอียด

รมว.วัฒนธรรม ย้ำด้วยว่า ที่ประชุมศบค.เห็นชอบตามที่ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เสนอต่ออายุพรก.ฉุกเฉินไปอีก 1 เดือน ซึ่งจะต้องเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในวันอังคาร 26 พค.นี้  ส่วนการผ่อนคลายล็อกดาวน์ หรือผ่อนปรนมาตรการระยะที่สามนั้น เลขาฯสมช. จัดประชุมในสัปดาห์หน้าประมาณวันที่ 27-28 พค. และในที่ประชุมนายกรัฐมนตรีแสดงความเป็นห่วงเรื่องการเปิดเทอม โดยรมว.ศึกษาธิการได้รายงานในที่ประชุมว่าจะมีโรงเรียนลักษณะโรงเรียนประจำ และโรงเรียนนานาชาติ เช่นโรงเรียนจุฬาภรณ์ราชวิทยาลัย ที่จะทดลองเปิดเรียนก่อนในวันที่1 มิถุนายนนี้ ส่วนวันเปิดเทอมอย่างเป็นทางการที่กระทรวงศึกษาธิการขอไว้ก็คือ 1 กรกฎาคม ซึ่งนายกฯมีความเป็นห่วงภาพรวมเรื่องการดูแลเรื่องเว้นระยะห่างของเด็ก และสัดส่วนครูต่อนักเรียนเดิม 20:1 ก็จะปรับให้เหลือ 7:1

ข่าวจาก ฐานเศรษฐกิจ

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: