ผมรักศักดิ์ศรียิ่งกว่าชีวิต! พ่อเอ๋ลั่น ถ้าผิดรุกป่าจริง ขอฆ่าตัวตาย ไม่หนีคดีเหมือน’ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์’





เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2562 ที่รัฐสภา นายทวี ไกรคุปต์ บิดาของ ส.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ จ.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ชี้แจงเพื่อขอความเป็นธรรมกับสื่อมวลชนประจำรัฐสภา  หลังจากที่สื่อมวลชนหลายสำนักพิมพ์ พาดหัวข่าวที่สร้างความเสียหาย อรรถพล เจริญวงษา อธิบดีกรมป่าไม้ เมื่อวานนี้ (2 ธันวาคม) ว่า จริงๆ ตนไม่ได้จะไปกรมป่าไม้และจะรอฟังข่าวก่อน แต่นักข่าวก็โทรมาตลอด ก็เลยไปกรมป่าไม้ ตนไม่ได้แย่งไมค์ แต่มีการพูดถึงเรื่องที่ป่าที่มีปัญหา จังหวะนั้นตนได้ถามอธิบดีว่าพื้นที่เขตป่าสงวนในกฎกระทรวงระบุไว้อย่างไรบ้างและพื้นที่ของตน 600 ไร่ ที่เกิดปัญหาอยู่ตรงส่วนไหนบ้าง ระหว่างพูดได้ไม่นานก็มีคนยื่นไมค์มาให้ตน ตนไม่ได้มีเจตนาจะแย่งไมค์ แต่อธิบดีพูดเสร็จก็ส่งไมค์ให้ตน จึงอยากขอความเป็นธรรมกับสังคม

“ดังนั้นพฤติกรรมที่สื่อมวลชนเขียนถึงนั้น ผมยืนยันด้วยความเป็นอดีต ส.ส.​และอดีตรัฐมนตรีว่า ตนไม่ใช่กุ๊ย และไม่มีเจตนา ส่วนกรณีที่มีการแจ้งความเอาผิดตนและน.ส.ปารีณา กับ กองบังคับการป้องกันปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) นั้น ตนจะเดินทางไปยัง บก.ปทส.​เพื่อรายงานตัว และพร้อมจะตอบในทุกคำถาม  ซึ่งหากในคดีนี้หากตรวจสอบว่าผมผิด และต้องติดคุก ผมพร้อมจะฆ่าตัวตาย เพราะผมรักศักดิ์ศรีของผม และเรื่องนี้ผมพร้อมต่อสู้คดีจะไม่หนีคดีเหมือนอย่างนายทักษิณ และน.ส.ยิ่งลักษณ์ อดีตนายกฯ 2 คนก่อนหน้านั้น ทั้งนี้การกล่าวหาว่าผมบุกรุกที่ดินถือว่าเป็นสิ่งที่สร้างความเสียหายที่สุดในชีวิตของผม” นายทวี กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่ากรณีที่ระบุว่าจะฆ่าตัวตายหากคพิพากษาให้ผิดถือว่ากดดันการทำงานของเจ้าหน้าที่หรือไม่ นายทวี กล่าวขึ้นว่า “งั้น ผมขอยกเลิกที่พูดไปว่าจะฆ่าตัวตาย แต่ผมยืนยันว่ารักศักดิ์ศรีของผม”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าระหว่างที่นายทวี แถลงต่อประเด็นแย่งไมโครโฟนของอธิบดีกรมป่าไม้ ผู้สื่อข่าวได้พยายามสอบถามข้อเท็จจริงต่อการถือครองที่ดิน การได้มาของที่ดินว่าได้มาโดยชอบหรือไม่ และผู้ครอบครองล่าสุด แต่นายทวี ปฏิเสธการตอบคำถามเหล่านั้น ระบุว่า “เรื่องที่อยู่ระหว่างตรวจสอบผมจะไม่ขอให้รายละเอียด”จากนั้นขอให้สื่อมวลชนรอฟังการแถลงเนื้อหาที่ตั้งใจให้แล้วเสร็จ โดยใช้เวลานานเกือบ 30 นาที

ต่อจากนั้นสื่อมวลชน ได้ย้ำถามในประเด็นที่เกี่ยวข้องต่อการได้มาและการถือครองที่ดิน โดยนายทวี กล่าวว่า ตนซื้อมาจากนายทหารคนหนึ่ง แต่นายทหารคนนั้นจะได้มาอย่างไรผมไม่ทราบ ซึ่งเขาเล่าว่าที่ดินที่ขายนั้นเป็นมรดกตกทอดมาจากบิดา ซึ่งปู่ให้มา และใช้เป็นที่ทำการเกษตร​

เมื่อถามย้ำว่า ในเอกสารที่จะต่อสู้คดีมีชื่อระบุชัดเจนหรือไม่ว่าใครถือครองที่ดิน นายทวี กล่าวว่า “แน่นอน ซึ่งเรื่องนี้ปารีณาไม่รู้ ผมเป็นคนถือครองอยู่”

เมื่อถามย้ำว่า ทำไมน.ส.ปารีณาถึงนำที่ดินในพื้นที่ไปแจ้งเป็นทรัพย์สินที่รายงานต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายทวี ปฏิเสธที่จะตอบคำถาม ระบุว่า “เอาหละ เดี๋ยวความจริงจะปรากฎ”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนการแถลงรายละเอียดนั้น นายทวี มีสีหน้าที่เศร้าสร้อย และเหมือนมีน้ำตาคลอเบ้า แต่พอถูกสื่อมวลชนรุมซักถามในประเด็นข้อเท็จจริงต่อการถือครองที่ดิน กลับมีสีหน้าที่เคร่งเครียดตลอดเวลา

ข่าวจาก : แนวหน้า, The Reporters

 

 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: