แม่เด็กแว้นที่ถูก อส.ชกในห้องICU ร้องทนายดัง ลูกอาเจียนเป็นเลือด-บาดแผลไม่ดีขึ้น





กรณีมีคลิปวงจรปิดเจ้าหน้าที่อส.ชลบุรี รูดม่านปิดเตียงแล้วทุบตีชายวัยรุ่น อายุ 21 ปี ซึ่งนอนบาดเจ็บอยู่บนเตียงผู้ป่วยห้องฉุกเฉิน รพ.มหาวิทยาลัยบูรพา อ.เมือง จ.ชลบุรี หลังขี่รถจักรยานยนต์แหกด่านตรวจแล้วเสียหลักพุ่งชน นายขวัญชัย ช่างเหล็ก หนึ่งในเจ้าหน้าที่ อส.ที่ปฏิบัติหน้าที่ร่วมกับตำรวจอยู่บริเวณที่ตั้งด่าน จนหัวฟาดพื้นหมดสติ ขาหัก 2 ข้างบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 17 สิงหาคมที่ผ่านมา

ความคืบหน้าเวลา 15.00 น. วันที่ 1 กันยายน ที่สำนักงานทนายคลายทุกข์ นางปภาภรณ์ สุโรรัมย์ แม่ของวัยรุ่น และนายณรงค์ศักดิ์ ยืนยง พ่อของเพื่อนวัยรุ่นที่อยู่ด้วยกันในคืนเกิดเหตุ เข้าร้องทุกข์กับนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความ หลังแม่ได้เข้าเยี่ยมลูกชายที่เรือนจำกลางชลบุรีแล้วทราบว่า เจ้าตัวมีอาการอาเจียนเป็นเลือดและแผลที่ถูกทุบตีไม่ดีขึ้น

นางปภาภรณ์ กล่าวว่า ขณะนี้ลูกชายตนถูกคุมขังอยู่ที่แดน 9 ซึ่งภายหลังได้เข้าเยี่ยมแล้วทราบว่าเจ้าตัว มีอาการอาเจียนเป็นเลือด และยังเจ็บหน้าอก กลางคืนนอนไม่หลับและเป็นไข้หนาวสั่น จากเหตุการณ์ที่ถูกทำร้ายในโรงพยาบาล จนมีแผลคิ้วแตกเย็บต้อง 3 เข็ม และตาบวมแดง ซึ่งทางเรือนจำก็นำตัวไปหาแพทย์ที่แดน 2 และจ่ายยาลดปวดลดอักเสบให้ แต่เจ้าตัวอยากขอออกมารักษาข้างนอก ซึ่งหลังมีข่าวแล้วตนเห็นภาพวงจรปิดที่ลูกชายถูกทำร้ายไม่ได้เลย ต้องไม่มองแล้วเดินหนี แต่ยอมรับว่าลูกตนก็มีส่วนผิดเพราะขับจักรยานยนต์ชนเอง แต่เขาไม่ได้ตั้งใจเพราะอาสาฯ กระโดดออกมา ขวางจึงเป็นเหตุสุดวิสัย ตนในฐานะแม่ก็ต้องการเรียกร้องขอความเป็นธรรม เพราะอยากให้ลูกพ้นโทษจากเรือนจำและกลับมาทำงานได้ปกติ

ด้านนายณรงค์ศักดิ์ กล่าวว่า ตามจริงตนมองว่า เจ้าหน้าที่ไม่จำเป็นต้องกระโดดขวางรถ เพราะสามารถไปติดตามจับกุมด้วยวิธีอื่นที่ปลอดภัยกว่านี้ได้ และจะไม่เกิดเหตุแบบนี้ตามขึ้นมา ส่วนสาเหตุที่น้องต้องฝ่าด่านตรวจนั้น เขาบอกว่าตัวเองกลัวตำรวจจึงไม่กล้าเบรก แต่ยืนยันว่าไม่ได้มีสิ่งผิดกฎหมาย แต่ไม่มีใบขับขี่ ไม่สวมหมวกนิรภัย และรถจักรยานยนต์ก็ไม่มี พ.ร.บ. รวมถึงแต่งรถซิ่ง ทั้งนี้ตนก็ได้ลงไปถ่ายภาพจุดตั้งด่านของตำรวจและอาสาฯ ดังกล่าวมาประกอบการร้องทุกข์ด้วย

ด้านทนายเดชา กล่าวว่า ต่อจากนี้จะประสานไปยังกระทรวงยุติธรรมเพื่อขอกองทุนยุติธรรมมาประกันตัววัยรุ่นออกมารักษาตัว เนื่องจากทางครอบครัวผู้เสียหายมีฐานะยากจน พร้อมให้แพทย์ตรวจสอบอาการว่าบาดเจ็บสาหัสหรือไม่ จากนั้นจะขอให้ตำรวจดำเนินคดีกับ อาสาฯ ในข้อหาที่มีโทษหนักขึ้น รวมถึงจะร้องเรียนไปยังกระทรวงมหาดไทยเนื่องจากในระหว่างเกิดเหตุมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่รัฐและฝ่ายปกครองอยู่ด้วย แต่กลับไม่ห้ามปรามหรือจับกุม และจะร้องเรียนกระทรวงสาธารณสุข เนื่องจากโรงพยาบาล เป็นสถานที่ราชการ แต่กลับออกมาขอโทษแล้วก็จบเท่านั้น ทั้งที่การกระทำของเจ้าหน้าที่อาจเข้าข่ายความผิดฐานบุกรุกสถานที่ราชการ โดยส่วนนี้ก็จะตรวจสอบว่าจะเข้าข่ายความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 หรือไม่ ซึ่งคดีนี้มีหลักฐานเป็นคลิปวิดีโอเห็นชัดเจนไม่น่ามีความยากลำบาก แต่ตนเป็นห่วงว่าเจ้าหน้าที่รัฐจะช่วยเหลือกันเองหรือไม่

ข่าวจาก มติชนออนไลน์

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: