อัยการแจงเหตุ ยังไม่ฟ้องยึดทรัพย์เครือข่ายธรรมกาย รอหลักฐานที่อยู่ “ธัมมชโย”





วันที่ 30 ก.ค. นายขจรศักดิ์ พุทธานุภาพ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน กล่าวถึงความคืบหน้าในคดีที่ดีเอสไอจึงส่งคำร้องถึงอัยการสูงสุดขอให้ยื่นฟ้องต่อศาลแพ่ง ให้มีคำสั่งยกเลิกมูลนิธิมหารัตนอุบาสิกาจันทร์ขนนกยูง เครือข่ายพระวัดธรรมกายและให้ทรัพย์สินของมูลนิธิตกเป็นของแผ่นดินว่า ในวันพรุ่งนี้ช่วงบ่ายคณะพนักงานสอบสวนของดีเอสไอและอัยการสำนักงานการสอบสวนจะมีการประชุมหารือกันในเรื่องนี้

จากที่ได้รับแจ้งจากอัยการจังหวัดธัญบุรีที่มีความเห็นตอบกลับในเรื่องการฟ้องแพ่งว่าในคดีดังกล่าวมีการดำเนินคดีในส่วนของคดีอาญาซึ่งศาลยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด ซึ่งคดีทางแพ่งโดยหลักแล้วจะยึดตามผลของคดีอาญาเป็นหลักทางคณะทำงานก็จะมีการประชุมกันในประเด็นดังกล่าว เราก็ต้องมาประชุมดูว่ามันมีความจำเป็นแค่ไหนที่จะต้องรอผลของอาญา

เพราะในส่วนของคดีอาญาก็ได้ส่งสำนวนไปแล้ว โดยหลังจากการประชุมแล้วเราอาจจะมีข้อมูลเพิ่มที่จะส่งไปยังอัยการจังหวัดธัญบุรีให้เขาได้พิจารณา เรื่องนี้เราต้องประสานงานกันอีกรอบ ในส่วนคดีฟอกเงินที่มีการฟ้องมูลนิธิสำนวนยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของอัยการสำนักงานคดีพิเศษ

ในส่วนคดีฟอกเงินที่แตกออกมาจากคดียักยอกเงินสหกรณ์คลองจั่นมีการแตกคดีออกไปมากถึง 30 กว่าคดีมีที่พิจารณาเสร็จไป 10 กว่าคดียังเหลืออีกหลายคดีแต่ในทุกคดีจะมีพนักงานอัยการจากสำนักงานการสอบสวนไปร่วมกับดีเอสไอ

ตอนนี้คดีก็จะไปอยู่ที่อัยการสำนักงานคดีพิเศษบางคดี ซึ่งก็อาจจะอยู่ระหว่างการสอบเพิ่มเติมตามอำนาจของพนักงานอัยการซึ่งตนก็ทราบว่าทางอัยการสำนักงานคดีพิเศษก็ได้ยื่นฟ้องคดีที่เกี่ยวกับเงินสหกรณ์คลองจั่นไปหลายคดีแล้ว

รอหลักฐานที่อยู่ธัมมชโย

ในส่วนของที่มีพระธัมมชโยก็ยังอยู่ระหว่างการสอบสวนหลายคดี เหตุผลที่คดีในส่วนของพระธัมมชโยยังสอบสวนอยู่เนื่องจากเกี่ยวกับเรื่องการติดขัดขั้นตอน การขอเส้นทางการเงิน ซึ่งเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะเราต้องขอหลักฐานจากหลายฝ่ายเเละในหลายจังหวัด เราก็มีการแบ่งพนักงานสอบสวนออกเป็นหลายชุด เพื่อรับผิดชอบในแต่ละคดี

บางเรื่องก็มีการขอความเป็นธรรมหรือขอแสดงพยานหลักฐานเพิ่มเติมเข้ามากว่าจะสรุปสำนวนได้ก็ต้องใช้ระยะเวลาพอสมควรหรือพอส่งสำนวนไปยังชั้นอัยการก็ยังสามารถขอความเป็นธรรมเข้ามาได้ก็ต้องสอบเพิ่มเติมกันอีกพอดีมันเลยยังไม่ไป พอสอบเพิ่มก็พบข้อมูลคดีก็จะเเตกเพิ่มไปอีก เดิมมีไม่กี่คดีแต่พอไปเจอข้อมูลเพิ่มคดีก็เพิ่มอีก

สำหรับคดีนายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานกรรมการสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น เป็นจำเลยในความผิดฐานยักยอกทรัพย์ สหกรณ์ฯคลองจั่นนั้นตกเป็นผู้ต้องหาหลายสำนวน ส่วนมีกี่คดีนั้นจำได้ไม่หมดต้องถามทางดีเอสไอ มีทั้งคดีที่อัยการฟ้องเป็นจำเลยเเละศาลตัดสินเเล้วก็มี เกือบทุกคดียักยอกเเละฟอกเงินจะมีนายศุภชัยที่ถูกฟ้องเนื่องจากเป็นตัวความผิดมูลฐานเกือบทุกคดี

นายขจรศักดิ์ กล่าวต่อในส่วนของการยึดทรัพย์เราก็มีการดำเนินการไปมากแล้ว ทาง ปปง.ก็ยึดทรัพย์มาได้หลายพันล้าน ตามที่ดีเอสไอได้เคยแถลงไป คดีนี้ความเสียหายมีมูลค่ามหาศาลเป็นหมื่นล้าน บางกรณีเราก็ไม่มีหลักฐานก็ยังยึดไม่ได้ แต่ถ้าเรายื่นฟ้องแล้วศาลตัดสินก็จะสามารถยึดทรัพย์เพิ่มขึ้นได้อีกอย่างคดีมูลนิธิอุบาสิกาฯ

ส่วนเรื่องการตามหาพระธัมมชโยทางดีเอสไอก็ดำเนินการมาโดยตลอดก็มีปัญหาที่ยังไม่ยอมปรากฏตัว บางคนบอกอยู่ในวัดบางคนบอกอยู่ต่างประเทศแต่พอไม่ปรากฏตัวการที่เราจะเข้าไปตรวจค้นที่ใดจะต้องมีหลักฐานพอสมควรในการขอออกหมายค้น พอเราไม่รู้หลักแหล่งที่แน่นอน มันก็ยาก เรื่องการจะค้นวัดคงยังไม่มีเพราะต้องมีหลักฐานให้ชัดเจน

การที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมสั่งการเรื่องนี้ก็เป็นการดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าใครจะเข้ามาเป็นรัฐมนตรีเพียงแต่ไม่ได้ให้ข่าว ทางดีเอสไอต้องรายงานอยู่ตลอด พอดีต้องดำเนินไปตามขั้นตอนของกฎหมายไม่สามารถไปหมกเก็บไว้ได้

ข่าวจาก ข่าวสดออนไลน์

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: