เตรียมสอบ!! ด่วน!! กสถ.เห็นชอบร่างประกาศรับสมัครสอบบรรจุข้าราชการท้องถิ่นแล้ว 68ตำแหน่ง 8,000กว่าอัตรา!!





 

 

ข้อมูลวันที่ 23 พฤศจิกายน 2561 เวลา 07.30 น. – นายปรีชา สุขรอด ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดแพร่ (อบจ.แพร่) ในฐานะกรรมการกลางสอบแข่งขันพนักงานส่วนท้องถิ่น(กสถ.) ได้เปิดเผยผลการประชุม กสถ. และความคืบหน้าในการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุเป็นข้าราชการท้องถิ่น ดังนี้

กสถ.ประชุมครั้งที่ 3/2561 วันที่ 20 พ.ย.2561
-รับทราบ การคัดเลือกมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์เป็นผู้ดำเนินการสอบแข่งขันบุคคลเป็นข้าราชการและพนักงานส่วนท้องถิ่น ประจำปี พ.ศ.2561
-เห็นชอบ การกำหนดตำแหน่ง อัตราว่าง คุณสมบัติผู้มีสิทธิสมัคร และเงินเดือนที่จะได้รับ ที่จะประกาศรับสมัครในแต่ละกลุ่มภาค/เขต ซื่งมี 10 กลุ่มภาค/เขต โดยมีจำนวนตำแหน่งและอัตราว่าง 68 ตำแหน่ง 8,039 อัตรา(ข้อมูล 12 พ.ย.2561) ได้แก่ตำแหน่ง

         * ประเภทวิชาการ 22 ตำแหน่ง 1,189 อัตรา
         * ประเภททั่วไป 23 ตำแหน่ง 5,538 อัตรา
         * ตำแหน่งครูผู้ช่วย 23 สาขาวิชาเอก 1,312 อัตรา

-เห็นชอบ การกำหนดหลักสูตรวิธีการสอบแข่งขัน
-เห็นชอบ ร่างประกาศรับสมัครสอบแข่งขัน 

เตรียมตัวไปสอบกันครับ!!!

จากข้อมูลข้างต้น จะเห็นได้ว่าคณะกรรมการกลางสอบแข่งขันพนักงานส่วนท้องถิ่น (กสถ.) ได้เห็นชอบร่างประกาศรับสมัครสอบแข่งขันแล้ว ส่วนกำหนดการรับสมัครจะเป็นวันใด ต้องรอให้ที่ประชุม ก กลาง ท้องถิ่น พิจารณาให้ความเห็นชอบอีกครั้ง โดย ก กลาง ท้องถิ่น จะประชุมกันในวันที่ 29 พฤศจิกายนนี้ หลังจากเสร็จสิ้นการประชุมแล้ว จะได้รับทราบกำหนดการรับสมัครกันอย่างเป็นทางการ

มท. ปลดล็อคตำแหน่งบริหารของ อปท. มุ่งสร้างความเชื่อมั่นในระบบ ส่งเสริมผู้มีความรู้ และความสามารถอย่างแท้จริง

เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2561 นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น เปิดเผยว่า พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการกลางข้าราชการและพนักงานส่วนท้องถิ่น (ก.กลาง) ได้ลงนามในประกาศมาตรฐานทั่วไปเกี่ยวกับการสอบคัดเลือก การคัดเลือกข้าราชการส่วนท้องถิ่นให้ดำรงตำแหน่งสายงานผู้บริหาร (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2561 เกี่ยวกับการปลดล็อคตำแหน่งบริหาร เพราะจากปัญหาที่เกิดขึ้นในการบริหารงานบุคคลขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ที่ผ่านมา มีการใช้ระบบอุปถัมภ์ หรือการเรียกรับผลประโยชน์ในรูปแบบต่างๆ ในการสอบแข่งขันบุคคลเพื่อบรรจุเป็นข้าราชการส่วนท้องถิ่น หรือการเลื่อนระดับเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้นของข้าราชการส่วนท้องถิ่น โดยเฉพาะตำแหน่งบริหารของ อปท. ซึ่งเป็นตำแหน่งที่มีความสำคัญและจำเป็นอย่างยิ่งในการบริหารงานใน อปท. ทางหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ จึงได้มีคำสั่งที่ 8/2560 เรื่อง การขับเคลื่อนการปฏิรูปการบริหารงานส่วนบุคคลท้องถิ่น เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวไม่ให้เกิดความไม่เป็นธรรม หรือเกิดความเสียหายต่อระบบการบริหารงานบุคคลของ อปท. อย่างร้ายแรง โดยกำหนดให้คณะกรรมการกลางข้าราชการหรือพนักงานส่วนท้องถิ่นตามพระราชบัญญัติระเบียบบริหารงานบุคคลส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2542 เข้ามาทำหน้าที่ในการสอบคัดเลือกและการคัดเลือกข้าราชการส่วนท้องถิ่นให้ดำรงตำแหน่งประเภทอำนวยการท้องถิ่น ประเภทบริหารท้องถิ่นและตำแหน่งสายงานบริหารสถานศึกษา (ซึ่งเดิมเป็นอำนาจของ อปท.) เพื่อให้เป็นไปตามระบบคุณธรรม และเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

นายสุทธิพงษ์กล่าวต่อว่า คณะกรรมการกลางข้าราชการหรือพนักงานส่วนท้องถิ่น ก็ได้ดำเนินการตามคำสั่งของหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ โดยได้มีการประกาศมาตรฐานทั่วไปเกี่ยวกับการสอบคัดเลือก การคัดเลือกข้าราชการส่วนท้องถิ่นให้ดำรงตำแหน่งสายงานผู้บริหาร พ.ศ.2560 เพื่อใช้เป็นหลักเกณฑ์ในการสรรหาข้าราชการส่วนท้องถิ่นเพื่อดำรงตำแหน่งสายงานบริหาร ซึ่งในประกาศดังกล่าวมีการกำหนดเงื่อนไขไว้บางประการ เช่น ให้ อปท. ที่มีตำแหน่งบริหารว่างในทุกกรณีจะต้องดำเนินการสรรหาผู้มาดำรงตำแหน่งบริหารที่ว่างให้แล้วเสร็จใน 150 วัน หากยังสรรหาไม่ได้สามารถขอขยายระยะเวลาการสรรหาได้อีก 60 วัน รวมระยะเวลาที่ อปท. สรรหาได้เอง 210 วัน , อปท. ที่สรรหาผู้มาดำรงตำแหน่งไม่ได้ภายใน 150 วันหรือ 210 วันดังกล่าว จะต้องรายงาน ก.จังหวัด เพื่อรายงานให้ ก.กลาง ดำเนินการสรรหาให้ และข้าราชการส่วนท้องถิ่นผู้ผ่านการสรรหาโดย ก.กลาง จะได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งสูงขึ้นจะต้องเป็นผู้ผ่านการอบรมในหลักสูตรที่ ก.กลาง กำหนดเท่านั้น

และจากเงื่อนไขดังกล่าว เมื่อมีการสรรหาโดย ก.กลาง ในครั้งที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการสรรหาครั้งแรกตามหลักเกณฑ์ใหม่ ที่กำหนดให้มีการสรรหาโดยการสอบข้อเขียนเป็นครั้งแรกใน 10 กว่าปีที่ผ่านมา ปรากฏว่ามีข้าราชการส่วนท้องถิ่นในบางตำแหน่งไม่มีผู้ผ่านการสรรหา ส่วนตำแหน่งที่มีผู้ผ่านการสรรหาที่มีการขึ้นบัญชีไว้มีกำหนด 1 ปี ก็จะประสบปัญหาเกี่ยวกับการแต่งตั้ง เนื่องจาก อปท. มีตำแหน่งบริหารว่าง แต่ไม่ขอใช้บัญชีผู้ผ่านการสรรหา แต่ใช้วิธีการสรรหาเองใน 150 วัน หรือ 210 วัน ทำให้บัญชีผู้ผ่านการสรรหาไม่ได้ถูกใช้ในการแต่งตั้งจนบัญชีหมดอายุ (1 ปี) ประกอบกับตำแหน่งที่ไม่มีผู้ผ่านการสรรหา อปท. ไม่สามารถที่จะสรรหาเองได้ (ตำแหน่งถูกล็อค) จะต้องรอ ก.กลางสรรหาในครั้งต่อไป ทำให้ อปท. ไม่มีผู้ปฏิบัติงานในตำแหน่งบริหารดังกล่าว และผู้ที่ผ่านการสรรหาบางส่วนยังไม่ผ่านการอบรม จึงไม่สามารถแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งที่ผ่านการสรรหาได้ ทำให้ผู้ผ่านการสรรหาบางคนที่อายุใกล้จะ 60 ปี (เกษียณอายุราชการ) ไม่มีโอกาสได้รับการแต่งตั้งในตำแหน่งที่ผ่านการสรรหา

จากปัญหาดังกล่าวทาง ก.กลาง จึงแก้ไขเงื่อนไขในประกาศมาตรฐานทั่วไปเกี่ยวกับการสอบคัดเลือก การคัดเลือกข้าราชการส่วนท้องถิ่นให้ดำรงตำแหน่งสายงานผู้บริหาร พ.ศ.2560 และจัดทำเป็นประกาศมาตรฐานทั่วไปเกี่ยวกับการสอบคัดเลือก การคัดเลือกข้าราชการส่วนท้องถิ่นให้ดำรงตำแหน่งสายงานผู้บริหาร (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2561 เพื่อให้การสรรหาในครั้งที่ผ่านมาและในครั้งต่อไป มีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุดกับ อปท. และผู้ผ่านการสรรหา ดังนี้

1. กรณีตำแหน่งบริหารของ อปท.ที่ว่าง (ใหม่) ให้ อปท. ดำเนินการสรรหาเอง (โดยการรับโอน คัดเลือกเพื่อรับโอน) และเสนอชื่อผู้ที่จะได้รับการแต่งตั้งให้ ก.จังหวัดภายใน 60 วัน หากครบระยะเวลาดังกล่าวแล้วยังไม่สามารถเสนอชื่อได้ให้รายงาน ก.จังหวัด เพื่อรายงานให้ ก.กลาง สรรหาให้

2.กรณีตำแหน่งบริหาร อปท.ที่ว่าง (เดิม) และรายงานให้ ก.กลาง สรรหาแล้ว แต่ปรากฎว่าไม่มีผู้ผ่านการสรรหาหรือบัญชีผู้ผ่านการสรรหาหมดบัญชีแล้ว ยังมีตำแหน่งว่างที่ไม่มีผู้ไปแต่งตั้ง (ตำแหน่งถูกล็อค) ก.กลาง อาจพิจารณากำหนดช่วงเวลาให้ อปท. ที่มีตำแหน่งว่าง (ถูกล็อค) รับโอนข้าราชการส่วนท้องถิ่นในประเภท ระดับ ตำแหน่งเดียวกัน และ อปท.ประเภทเดียวกันมาแต่งตั้งในตำแหน่งที่ว่างดังกล่าวได้ (ปลดล็อค) โดยหลังจากประกาศฉบับนี้มีผลบังคับแล้ว ก็จะมีการเสนอช่วงเวลาปลดล็อคให้ ก.กลางพิจารณา

3. ผู้ผ่านการสรรหาที่ยังไม่ผ่านการอบรมในหลักสูตรที่ ก.กลาง กำหนด ให้สามารถแต่งตั้งได้ก่อนแล้วจึงเข้าอบรมในโอกาสแรก สำหรับเงื่อนไขในเรื่องนี้ให้นำไปใช้กับผู้ที่ผ่านการสรรหาในครั้งที่ผ่านมา (ซึ่งยังไม่ผ่านการอบรม) ด้วย

ข้อดีของการแก้ไขเงื่อนไขดังกล่าวก็คือ จะทำให้ผู้ผ่านการสรรหา ซึ่งเป็นผู้ที่มีความรู้ ความสามารถ ได้รับการแต่งตั้งในตำแหน่งที่ผ่านการสรรหา อันจะเกิดประโยชน์แก่ อปท. และประชาชาชน ทั้งยังสร้างความเชื่อมั่นในระบบการสรรหาผู้มาดำรงตำแหน่งบริหารของ อปท. ที่เป็นไปอย่างมีมาตรฐานบนพื้นฐานของระบบคุณธรรม ส่งเสริมผู้มีความรู้ ความสามารถอย่างแท้จริง นายสุทธิพงษ์กล่าว

ขอบคุณข้อมูลจาก : thailocalmeethttp://www.thailocalmeet.com/index.php/topic,66767.0.html?fbclid=IwAR2mji9JBqeis9GDEURgcCxlgHX6Hcl4PyedFgxgL1ld5R4sdbByJuhWXOw

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: