หน้าฝนต้องรู้! เทคนิคตากผ้าท้าฝน…ผ้าแห้งไว ไม่เหม็นอับ ไม่มีแดดก็แห้งง่าย





เข้าหน้าฝนไปแล้ว ฝนฟ้าอากาศก็ตกแบบที่เราควบคุมไม่ได้เลย เพราะมันเป็นเรื่องของธรรมชาติ แต่เสื้อผ้าที่เราใส่ทุกวันก็จำเป็นต้องซัก  ถึงเราจะห้ามฝนตกไม่ได้ แต่ถึงอย่างไรเราก็ยังจำเป็นต้องซักผ้าและตากผ้าเกือบจะทุกวันอยู่ดี

และถ้าวันไหนโชคร้าย ต้องตากผ้าในวันที่ฝนตก ถุณก็จำเป็นต้องพบเจอกับปัญหาผ้ามีกลิ่นอับ เนื่องจากตากผ้าไม่แห้ง แล้วจะต้องตากผ้าอย่างไรให้แห้งง่ายแม้ในวันที่มีฝน วันนี้เรามีเคล็ดลับที่จะช่วยเปลี่ยนผ้าเหม็นอับให้กลายเป็นผ้าแห้งที่หอมสดชื่นมาฝากกัน

จะต้องทำอย่างไรบ้างนั้น ตามมาดูกันเลย…

 

เทคนิคตากผ้าให้แห้งเร็วมีเคล็ดลับดังต่อไปนี้

 

1. เมื่อต้องซักผ้าหนาๆ ในวันที่ฝนตกหนัก

หลายคนคงปวดใจเมื่อต้องตากผ้าหนาๆในวันที่ฝนตก ไม่ว่าจะเป็นกางเกงยีนส์ หรือผ้าเช็ดตัวผืนหน้า ล้วนยากต่อการตากให้แห้งเร็วทั้งนั้น

คำแนะนำ เมื่อซักผ้าเสร็จแล้วให้ใช้เครื่องปั่นแห้งหรือบิดน้ำออกให้มากที่สุด จากนั้นนำไปแช่ตู้เย็น 7-8 ชั่วโมง แล้วจึงเอาออกมาตากที่ระเบียง จะช่วยให้ผ้าแห้งเร็วขึ้น และไม่มีกลิ่นเหม็นอับด้วย

 

2. ผ้าหรือเสื้อผ้าชิ้นเล็กๆ

คำแนะนำ แม้ว่าฝนจะตกหนักแค่ไหน แต่ถ้าเป็นเสื้อผ้าชิ้นเล็กๆ คุณสามารถเอาผ้าเหล่านี้ไปตากในบ้าน โดยวางไว้บนคอมพิวเตอร์หรือโทรทัศน์ที่กำลังใช้งานอยู่ได้เลย เพราะความร้อนของเครื่องใช้ไฟฟ้าเหล่านี้จะทำให้ผ้าแห้งเร็วขึ้นได้

 

3. ผ้าแห้งไวแซงทางโค้งด้วยเทคนิคผ้าขนหนูแห้ง

ช่วงหน้าฝนแบบนี้ ผ้าที่เพิ่งซักเสร็จอาจจะแห้งยากสักหน่อย  แต่ถ้าจำเป็นต้องใช้เสื้อผ้าตัวนั้นอย่างเร่งด่วน ให้ทำแบบนี้ค่ะ

คำแนะนำ ลองหย่อนผ้าขนหนูผืนที่แห้งสนิทลงไปพร้อมกับเสื้อผ้าที่คุณต้องการให้แห้งไวทันใจในเครื่องปั่น และปั่นไปพร้อมๆกับผ้าผืนอื่น ๆ ประมาณ 15 นาที ผ้าขนหนูจะช่วยซึมซับน้ำส่วนเกินออกจากผ้า และยิ่งทำให้ผ้าแห้งเร็วทันใจมากขึ้น

 

4. เลือกน้ำยาซักผ้าที่ดี

เลือกใช้น้ำยาซักผ้าแทนผงซักฟอกจะดีกว่า เนื่องจากผงซักฟอกอาจมีสารตกค้างซุกซ่อนอยู่ในเนื้อผ้าและเป็นสาเหตุก่อให้เกิดเชื้อราหรือกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ได้

คำแนะนำ ปัจจุบันมีผงซักฟอกหรือน้ำยาซักผ้าที่ออกแบบมาเพื่อระงับกลิ่น เช่น เปาซิลเวอร์นาโน แอทแทคเน็กซ์ เป็นต้น ก็ลองเลือกใช้ตามความชอบเลยนะคะ

 

 

นอกจากนี้ ยังมีเคล็ดลับอื่นๆที่ช่วยให้ผ้าแห้งเร็วขึ้นอีกมากมาย เช่น

1. เลือกซักผ้าตอนเช้า เพราะแสงแดดและลมอุ่น ๆ จะทำให้ผ้าแห้งเร็ว และช่วยกำจัดเชื้อแบคทีเรียได้ด้วย

2. เว้นระยะห่าง การตากผ้าโดยเว้นระยะห่างแต่ละตัวให้พอดี จะช่วยให้มีลมผ่าน ลมจะได้ผ่านเข้าอย่างง่ายดาย และแห้งง่ายกว่าเดิม

3. ใช้ไม้แขวนเสื้อดีกว่าพาดราว การตากผ้ากับไม้แขวนเสื้อช่วยให้ผ้าแห้งเร็วขึ้นมากกว่าการตากเสื้อผ้าแบบพาดราว

4. ทำความสะอาดเครื่องปั่นผ้าอย่างสม่ำเสมอ ป้องกันไม่ให้มีเศษผ้าและสิ่งสกปรกเข้าไปอุดตันอยู่ในช่องระบายน้ำ  จึงควรทำความสะอาดเครื่องปั่นผ้าทุก ๆ 6 เดือน

5. อย่าใส่ผ้าลงในเครื่องปั่นมากเกินไป เพราะนอกจากผ้าจะไม่แห้งแล้ว อาจทำให้ผ้าแต่ละชิ้นอัดแน่นพันกันจนเสียหายด้วย  

6. ตากผ้าหลังจากซักเสร็จทันที การแช่ผ้าที่ซักเสร็จเอาไว้ในถังซักผ้า จะทำให้ผ้าเหม็นอับมาก

7. ไม่ควรหมักผ้ากองโตไว้นาน คราบสกปรกจะฝังลึกและสลายออกไปได้ยากเมื่อเก็บไว้นาน

 

 

แล้วถ้าผ้าที่ซักมีกลิ่นอับไปแล้วจะต้องทำไง เรามีวิธีแก้ไขหากผ้ามีกลิ่นอับมาฝากค่ะ

1. กรณีเหม็นอับน้อยๆ

ให้เอาเสื้อผ้าไปแขวนไว้ในที่ที่มีไอน้ำในกรณีที่เสื้อผ้ามีกลิ่นอับเล็กน้อย เช่น ห้องน้ำที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จใหม่ๆ เพราะว่าไอน้ำช่วยกำจัดกลิ่นเหม็นอับของเสื้อผ้าลงได้บ้าง

2. กรณีเหม็นอับมากๆ

หากเสื้อผ้าเหม็นอับมากจนต้องซักใหม่ ให้เอาน้ำส้มสายชู 2 ช้อนโต๊ะผสมกับนมครึ่งขวด แล้วเอาเสื้อผ้าที่มีกลิ่นเหม็นแช่ลงไปประมาณ 10 นาที หลังจากนั้นก็เอาออกมาซักตามปกติ จะช่วยกำจัดกลิ่นนั้นให้หายไปได้

 

จะเห็นได้ว่าปัญหาผ้าไม่แห้งหรือผ้ามีกลิ่นอับเหม็นสามารถเกิดขึ้นได้หากเราหลงลืมการซักที่ถูกวิธี

หากใครกำลังพบเจอก็ลองนำเอาวิธีดี ๆ แบบนี้ไปใช้กันดู เพราะมันจะช่วยให้ผ้าแห้งได้เร็วขึ้นอย่างแน่นอน และจะได้ทันใช้งาน แถมยังไม่มีเรื่องกลิ่นเหม็นอับมาให้กวนใจ ปลอดภัยจากเชื้อรา

 

 

ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก kapook.com

 

 

 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: