TOEIC…….อีกแล้วววววว…..หรอเนี่ย
Question : ทำไมต้องสอบ TOEIC อะไรเนี่ยด้วยอ่ะ ไม่เห็นจะเกี่ยวกับงานที่เราจะสมัครเลยอ่ะ ?
Answer : TOEIC หรือ Test Of English in Communication เป็นการสอบวัดความรู้ทางภาษาอังกฤษ โดยเน้นไปที่การสื่อสาร การพูด การฟัง อะไรแบบนี้ค่ะ ซึ่งเป็นที่นิยมอย่างมากท่ามกลางบรรดาผู้สมัครงาน ผู้เริ่มต้นเข้าสู่วัยทำงานทั้งหลาย เพราะว่าองค์กร บริษัทต่างๆ จะกำหนดคะแนน TOEIC เป็นเกณฑ์ในการพิจารณาผู้สมัครเกณฑ์หนึ่ง และก็มักจะเป็นปัญหาหลักของใครหลายๆ คน ที่เกณฑ์อื่นๆ ผ่านหมด แต่เกือบมาตกม้าตายตรงที่เจ้าคะแนน TOEIC นี่แหละค่ะ
ถามว่าถ้างานที่เราจะสมัคร อาจจะไม่ได้เกี่ยวข้องโดยตรงกับการใช้ภาษาอังกฤษ แล้วทำไมยังต้องใช้ผลคะแนน TOEIC อีกล่ะ ก็ตอบได้ว่า เพราะว่าองค์กรหรือบริษัท ใช้คะแนน TOEIC เป็นเกณฑ์ในการวัด เพื่อให้เกิดการแข่งขัน อาจกำหนดคะแนนขั้นต่ำที่ไม่สูงมาก สำหรับตำแหน่งงานที่ไม่ต้องใช้ภาษาอังกฤษมากนัก และกำหนดคะแนน TOEIC ไว้สูงๆ สำหรับตำแหน่งงานที่จำเป็นต้องใช้ภาษาอังกฤษในการติดต่อสื่อสาร เพราะอย่าลืมนะคะว่า ประเทศไทยเราเป็นประเทศกำลังพัฒนา และกำลังเปิดรับเทคโนโลยี ที่ล้วนแล้วแต่มีที่มาจากต่างประเทศทั้งนั้น แล้วสิ่งที่ต้องใช้ในการถ่ายทอดและสื่อสารข้อมูลต่างๆ ก็แน่นอนค่ะ ต้องมีภาษากลาง นั่นก็คือภาษาอังกฤษ และในปัจจุบันและอนาคตที่ประเทศเราก้าวสู่ AEC (ASEAN ECONOMIC COMMUNITY) แล้วเนี่ย ภาษาอังกฤษในการทำงานยิ่งทวีความสำคัญมากขึ้นค่ะ การรู้ภาษาอังกฤษและมีคะแนน TOEIC การันตี จะเป็นตัวช่วยสร้างคุณค่าให้กับเรา เพิ่มโอกาสทำให้เรามีช่องทางในการสมัครงานหรือทำงานที่มากขึ้น และนั่น ก็หมายถึงความก้าวหน้าในอาชีพของเราในอนาคตต่อไปด้วยค่ะ TOEIC ก็เลยเป็นสิ่งจำเป็นด้วยประการฉะนี้ค่ะ
Question : คะแนนของ TOEIC ประกอบไปด้วยอะไรบ้าง
Answer : คะแนนเต็มของ TOEIC = 990 คะแนน แบ่งเป็นพาร์ทการฟัง 100 ข้อ 495 คะแนน และพาร์ทการอ่าน 100 ข้อ 495 คะแนน และเกณฑ์ขั้นต่ำที่แต่ละบริษัทกำหนดเพื่อใช้ในการพิจารณาคัดเลือกพนักงานนั้น โดยปกติแล้วจะอยู่ที่ 450 > ขึ้นไปค่ะ ก็ประมาณเกือบครึ่งหนึ่งของคะแนนเต็ม ดูเหมือนจะไม่ยากใช่มั้ยคะ แต่ก็มีหลายคนที่ยังต้องต่อสู้ฟันฝ่า ไขว่คว้าหาคะแนน TOEIC มาเติมเต็มให้การสมัครงานของตนเองสมบูรณ์อยู่
Question : มีตัวอย่างบริษัท หรือองค์กรต่างๆ ที่กำหนดคะแนน TOEIC ให้เป็นคุณสมบัติหนึ่งของผู้สมัครงานบ้างไหมครับ
Answer : บริษัทหรือองค์กรชั้นนำต่างๆ ของประเทศเราล้วนแล้วแต่กำหนดว่า ผู้สมัครจะต้องมีคะแนน TOEIC ขั้นต่ำที่ XXX คะแนน ทั้งนั้นค่ะ ตัวอย่างนะคะ เริ่มที่ภาครัฐวิสาหกิจกันก่อนเลยค่ะ หลายๆ คนมองหาความมั่นคงก็อยากจะเป็นส่วนหนึ่งขององค์กรรัฐวิสาหกิจแห่งประเทศ เริ่มที่ฝั่งขายน้ำมันอย่าง ปตท. กำหนดว่า ผู้สมัครต้องมีคะแนน TOEIC ขั้นต่ำ 550 + คะแนน ในสายวิศวกรรม แต่ถ้าหากเป็นสายอื่นที่ต้องติดต่อกับต่างประเทศนั้น พิจารณาขั้นต่ำที่ 650 + คะแนน และถ้าจบปริญญาโทแล้ว จะพิจารณาคะแนน TOEIC สูงขึ้นไปอีก ตามตำแหน่งงาน มาดูฝั่งขายไฟกันบ้าง อย่าง กฟผ. (การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย) รับพิจารณาผู้สมัครที่มีคะแนน TOEIC ขั้นต่ำ 550+ กฟภ. (การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค) พิจารณาขั้นต่ำที่ 550+ คะแนน กฟน. (การไฟฟ้านครหลวง) พิจารณาขั้นต่ำที่ 550+ คะแนน ฝั่งสายการบินอย่างเจ้าป้า กบท. (การบินไทย) สายการบินแห่งชาติ ถ้าเราอยากจะเป็นสจ๊วตรูปหล่อ แอร์โฮสเตสสุดเก๋ ก็ต้องพกคะแนน TOEIC ขั้นต่ำที่ 600 + ขึ้นไป ถึงจะมีสิทธิสมัคร ฝั่งเอกชนที่มีชื่อเสียงอย่าง SCG (เครือปูนซีเมนต์ไทย) หากเป็นตำแหน่งทั่วไปจะพิจารณาคะแนน TOEIC ที่ 550 + แต่ถ้าเป็นตำแหน่งที่ต้องใช้ภาษาอังกฤษด้วย จะพิจารณาคะแนน TOEIC ที่ 700 + กันเลยทีเดียว ทั้งหมดนี่คือน้ำจิ้มตัวอย่างขององค์กรชั้นนำที่ใครหลายคนอยากร่วมงานด้วยนะคะ และพึงตระหนักไว้ก่อนเลยนะคะว่า แม้ว่าแต่ละองค์กรจะกำหนดขั้นต่ำไว้ตามที่บอก แต่เวลาพิจารณาจริงๆ ยิ่งคะแนนเยอะ ยิ่งมีสิทธิ์มากค่ะ เพราะฉะนั้น ทำคะแนนให้ได้เยอะไว้ก่อน จะอุ่นใจกว่าค่ะ และเพิ่มทางเลือกในการสมัครงานให้เรามากขึ้นด้วยค่ะ
Question : ทิ้งภาษาอังกฤษมานาน เริ่มต้นทบทวนยังไงดีล่ะ ?
Answer : หากไม่ได้แตะภาษาอังกฤษมานาน แน่นอนว่าต้องเริ่มทบทวนตั้งแต่ Basic Grammar เลยค่ะ เพราะว่าข้อสอบ TOEIC นั้น จะเป็นไวยากรณ์พื้นฐาน ที่เราจำเป็นต้องใช้ในการสื่อสาร เช่น Tenses, Part of Speech, Infinitive เป็นต้น โดยหากมีเวลาและต้องการให้เห็นผลอันรวดเร็วก็แนะนำให้ไปลงเรียนคอร์สเตรียมสอบ TOEIC ตามสถาบันกวดวิชาค่ะ มีเยอะแยะมากมายให้เลือกสรร เช่น https://www.chulatutor.com/toeic/ หรือถ้าไม่ค่อยมีเวลา เพราะต้องเรียนไปด้วย ทำงานไปด้วย ก็สามารถซื้อหนังสือมาทบทวนด้วยตัวเอง หรือแม้กระทั่งเรียน TOEIC Online ของสถาบันต่างๆ ก็ได้ค่ะ เช่น https://www.chulatutor.com/online/toeic-online ข้อดีของการเรียนออนไลน์คือ สามารถดูซ้ำๆ ได้อย่างไม่จำกัด และจัดสรรเวลาเองได้ด้วยค่ะพอทบทวนจนมั่นใจไม่ว่าจะช่องทางไหน ก็ไปสอบกันเลยค่ะ
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ