ลูกชายของฉันอายุเพียง 3 ขวบ ชอบรับประทานปลามาก แต่มีอยู่ครั้งหนึ่งหลังจากทานปลาได้ไม่นาน จู่ๆก็เอาแต่ร้องไห้และอาเจียน และแน่นอนว่าเกิดจากที่ก้างปลาติดคอ ฉันเลยให้ลูกชายทานผักเข้าไปเยอะๆ ลูกชายร้องไห้ไปทานไป ฉันกำลังจะป้อนคำที่ 2 หลังจากเดินกลับมาจากห้องน้ำ ก็โชคดีที่เจอคุณหมอ คุณหมอบอกว่าถ้าลูกชายของฉันก้างปลาติดคอ อย่าพยายามให้ทานอะไรลงไปทั้งสิ้น เพราะอาหารที่ทานตามลงไป อาจจะยิ่งทำให้เกิดแผลจนเลือดออกภายในก็ได้
คุณหมอแนะนำว่าทางที่ดีควรจะพาไปโรงพยาบาล ฉันจึงไม่รอช้ารีบพาลูกไปทันที เมื่อถึงโรงพยาบาล คุณหมอก็ตรวจ และพบว่าก้างปลาที่ติดอยู่เป็นลักษณะรูปตัว S ติดอยู่กลางลำคอ ! และลึกเข้าไปถึงเยื่อหุ้มหลอดอาหาร ทำให้ตอนนี้เกิดอาการอักเสบ ! ตอนที่คุณหมอพยายามช่วยเอาก้างปลาออกมาได้ ทำให้ทุกคนโล่งใจสุดๆ!
ถ้าลูกมีก้างปลาติดคอ ผู้ปกครองควรทำยังไง?
1）ตรวจดูว่าก้างปลาที่ติดคออยู่ส่วนไหน โดยให้เด็กอ้าปากกว้าง และให้ผู้ปกครองใช้ไฟฉายส่องเข้าไปตรวจเช็คว่าก้างปลาอยู่ส่วนไหน ถ้าสามารถมองเห็นก้างปลา ก็ให้เด็กอ้าปากค้างไว้ และให้หาตะเกียบหรือคีม หยิบออกมา แต่ถ้าในกรณีที่มองไม่เห็นก้างปลา ให้ผู้ปกครองรีบนำบุตรส่งโรงพยาบาล และให้คุณหมอเป็นคนจัดการจะเป็นการดีที่สุด
2）ถ้ากรณีที่ก้างปลาเล็ก ถ้ากรณีที่ก้างปลาเล็ก ผู้ปกครองก็สามารถใช้นิ้วสะอาดๆหรือตะเกียบกดที่โคนลิ้นด้านใน ให้เด็กอาเจียนออกมาเอง หรือเรียกว่าการล้วงคอ ดีที่สุดคือเด็กสามารถอาเจียนออกมาให้หมดได้ในคราวเดียว เพราะก้างปลาเล็กจะติดออกมาพร้อมกับอาเจียน
3）ถ้ากรณีที่ก้างปลามีขนาดใหญ่ ถ้ากรณีที่ไม่แน่ใจว่าก้างปลามีขนาดเล็กหรือใหญ่หรือมั่นใจว่ามีขนาดใหญ่แล้วละก็ ผู้ปกครองไม่ควรให้เด็กทานอะไรตามลงไปเด็ดขาด และห้ามให้เด็กพยายามอาเจียนออกมา สิ่งที่ควรทำคือรีบนำเด็กไปโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด ควรให้คุณหมอเป็นคนจัดการให้ ถ้าผู้ปกครองให้เด็กพยายามกลืนอาหารลงไปหรืออาเจียนออกมาเอง อาจจะยิ่งทำให้เด็กเจ็บมากขึ้นหรือเป็นแผลภายในหลอดอาหารก็ได้
ข้อมูลจาก SIAMDRAMA
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ