อย่าละเลย!! สัญญาณเตือนและวิธีรับมือกับอาการปวดหัว 6 ชนิด ที่แตกต่างกันออกไป
อาการปวดหัวเป็นกันได้ในทุกเพศทุกวัย ระดับความปวดสามารถมีได้ทั้งระดับน้อยถึงระดับมาก แต่คุณรู้หรือไม่อาการเหล่านั้นไม่ใช่อาการเดียวกันเสมอไป อาการปวดหัวสามารถปรากฏได้หลากหลายรูปแบบ ดังนั้นวันนี้เราจึงมานำเสนอวิธีรับมือกับอาการปวดหัว 6 ชนิด ที่แตกต่างกันออกไป มีดังนี้
1. ปวดหัวคลัสเตอร์
• สามารถเป็นได้ทั้งสองเพศ แม้มันจะไม่เกิดขึ้นบ่อย แต่การเกิดแต่ละครั้งจะรุนแรงมาก
• สาเหตุของอาการปวดหัวนี้ยังไม่เป็นที่แน่ชัด แต่มักจะเกี่ยวเนื่องกับเส้นประสาทหรือสมองที่มีความผิดปกติ
•ซึ่งมีความแตกต่างจากอาการปวดหัวไมเกรนหรือความตึงเครียด
•อาการปวดหัวลักษณะนี้มักจะเกิดขึ้นต่อเนื่องในบางช่วงเวลา
• ลักษณะอาการ คุณอาจจะรู้สึกหมดแรงหรือเจ็บปวดขั้นรุนแรง อาการปวดมักจะเกิดขึ้นตรงด้านข้างศีรษะหรือบริเวณรอบๆดวงตา
2. ปวดหัวบริเวณต้นคอ
•อาการปวดชนิดนี้ปกติแล้วจะเกิดขึ้นตรงต้นคอหรือส่วนท้ายทอยต่อจากศีรษะ
•จากนั้นอาการปวดจะย้ายไปที่หน้าผากและส่งผลกระทบต่อหูและบริเวณรอบดวงตา
• ลักษณะอาการปวดนี้ เป็นแบบถาวรและมีความรุนแรงแตกต่างกัน เราเรียกมันได้อีกอย่างว่าโรคปวดคอรวมกับปวดศีรษะ
•ลักษณะอาการมักจะผสมกันระหว่างความตึงเครียดและอาการปวดหัวไมเกรน
•สาเหตุของอาการปวดนี้มาจากปัญหาเกี่ยวกับกระดูกสันหลังส่วนคอ ซึ่งเส้นประสาทสันหลังเส้นที่สามที่ออกมาจากไขสันหลังเกิดความเสียหายหรือเกิดการระคายเคือง
•อาการปวดหัวในลักษณะนี้ผู้หญิงมีแนวโน้มที่จะปวดหัวแบบนี้มากกว่าผู้ชาย ผู้ป่วยประมาณ 15-20% บ่นเป็นเสียงเดียวกันว่าการปวดหัวด้านข้างเกี่ยวข้องกับโรคปวดคอรวมกับปวดหัว
[ads]
3. ปวดหัวไมเกรน
• ไมเกรนเป็นที่รู้จักกันดีว่าคืออาการปวดหัว และจะเริ่มต้นด้วยอาการปวดเหมือนโดนเจาะศีรษะในตอนเช้า
•ซึ่งจะยกระดับความรุนแรงขึ้นตามการออกกำลังกายหรือการเคลื่อนไหวส่วนต่างๆของร่างกาย
• ลักษณะอาการจะประกอบไปด้วย: ไวต่อแสง กลิ่น หรือเสียง คลื่นไส้ อาเจียน เห็นเหมือนมีจุดลอยอยู่ข้างหน้า เป็นต้น
• การเกิดไมเกรนเป็นผลมาจากหลายปัจจัย แต่ปัจจัยที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งคือความเครียด ไมเกรนมักจะส่งผลต่อบุคคลที่มีอารมณ์ขุ่นมัวหรืออ่อนแอ
•บ่อยครั้งที่อาการปวดหัวชนิดนี้จะเกิดขึ้นระหว่างรอบประจำเดือน
• ปัจจัยอื่นที่อาจก่อให้เกิดอาการนี้ได้คือ นิสัยการกินที่ผิดปกติ สูบบุหรี่และนอนไม่หลับ
4. ปวดหัวไซนัส
•เกิดขึ้นในบริเวณรูจมูกและทวีความรุนแรงขึ้นระหว่างดวงตา การขยับ โยกศีรษะหรือนอนลง ทำให้ความเจ็บปวดเพิ่มมากขึ้น
• ในกรณีที่คุณมีอาการปวดหัวประเภทนี้ แต่ไม่มีน้ำมูกไหล นั่นหมายความว่าคุณแค่ต้องจัดการกับอาการปวดหัวทั่วไปไม่เกี่ยวข้องกับไซนัส
• การปวดไมเกรนและไซนัสมักจะเกิดขึ้นพร้อมกัน และพวกมันสามารถเกิดขึ้นในเวลาเดียวกันได้อีกด้วย
• ไมเกรนแตกต่างจากไซนัสตรงที่ ไมเกรนเกิดจากปัญหาด้านการมองเห็น ซึ่งจุดนี้จะทำให้คุณเห็นความแตกต่างระหว่างพวกมันได้
5. ปวดหัว TMJ
• ผู้คนประมาณ 75 ล้านต่างได้รับผลกระทบจากอาการปวดหัวประเภทนี้ เพราะมันเป็นอาการเรื้อรัง บางครั้งอาการปวดไม่ได้เกิดบางเวลาเท่านั้น แต่เป็นตลอดเวลา
• ลักษณะอาการโดยทั่วไปคือ: ฟันบิ่นหรือฟันหัก การอุดฟันและการเปลี่ยนตำแหน่งหรือรูปร่างของรอยยิ้ม
•อาการเหล่านี้เกิดขึ้นเพราะกล้ามเนื้อหดตัวและก่อให้เกิดความตึงเครียด
• การแก้ปัญหานี้ จะทำให้ร่างกายส่งเลือดจำนวนมากไปยังพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ
• แต่มันจะทำให้ความดันโลหิตเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นสาเหตุให้เกิดความตึงตรงขากรรไกร คอและไหล่
• อาการที่สำคัญอย่างอื่นคือการนอนกัดฟัน
6. ปวดหัวรุนแรง
• เป็นอาการปวดหัวที่พบบ่อยที่สุด และทุกคนต่างเคยมีประสบการณ์กันทั้งนั้น โดยทั่วไปแล้ว มันจะกินเวลานานหลายชั่วโมงและส่งผลต่ออุณหภูมิในร่างกาย หน้าผาก แก้ม และคอ
• ลักษณะอาการ: จะรู้สึกว่าศีรษะปวด เหมือนถูกบีบ และมีความดันอยู่ในหัวซึ่งเกินจะทนไหว
• อาการปวดนี้อยู่ในระดับปานกลาง แต่เนื่องจากปัจจัยบางอย่าง อาจทำให้กลายมาเป็นอาการปวดขั้นรุนแรงได้
• อาการนี้มักจะเกิดขึ้นในตอนเช้าหรือตอนเย็น การกินยาหรือใช้วิธีรักษาทางธรรมชาติคือคำแนะนำในการรับมือกับอาการนี้
หลังจากที่ได้อ่านกันแล้ว ใครที่มีอาการปวดหัวบ่อยๆ ก็ลองเช็คอาการของตนเองว่าปวดหัวแบบไหน มีลักษณะอาการอย่างไร เพื่อที่จะได้หาทางรักษาอาการได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด
______________________________________
เรียบเรียงและจัดทำหาข้อมูลโดย ThaiJobsGov.com
[ads=center]
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ