คนมีรถต้องอ่าน! !รู้เท่าทันประกัน เมื่อรถเกิดอุบัติเหตุ
สำหรับคนมีรถ หลายๆ คนไม่เคยทราบมาก่อนว่าประกันที่ต้องเสียไปทุกเดือนๆ สามารถคุ้มครองในเรื่องใดได้บ้าง วันนี้เรามีคำตอบให้ได้หายสงสัยกัน และมันเป็นเรื่องที่สำคัญมากๆ
1ไม่มีใบขับขี่จะทำอย่างไรดี เมื่อต้องเรียกประกัน ให้รู้เอาไว้ว่าใบขับขี่นั้นจำเป็นต้องใช้ในกรณีเดียวคือ เมื่อเจ้าของประกันภัยต้องการซ่อมรถตัวเอง นอกนั้นไม่ต้องใช้ อธิบายเพิ่มเติมคือ
– เมื่อรถของท่านมีประกันชั้น 1 ไปเกิดอุบัติเหตุชนกับคนอื่น ไม่ว่าอะไรก็ตาม ประกันต้องเป็นผู้รับผิดชอบแทนเราทุกกรณี โดยสิ่งที่แตกต่างระหว่างมีใบขับขี่หรือไม่มี คือ ถ้าไม่มีใบขับขี่ประกันจะไม่ซ่อมรถให้เรา จะซ่อมให้แค่คู่กรณี แต่หากมีใบขับขี่ประกันจะต้องซ่อมให้ทั้ง 2 ฝ่าย ในกรณีที่ต้องการเปิดเคลมแห้ง เช่น รถมีรอยขีดข่วน อยากได้สีใหม่ เพียงแค่ใช้คนที่มีใบขับขี่โทรแจ้งก็เคลมได้
– รถที่มีประกันชั้น 2-3 ธรรมดา ไม่มีใบขับขี่ ประกันก็ต้องรับผิดชอบให้หมด แต่หากประกันชั้น 2 รถหายหรือไฟไหม้นั้น จำเป็นต้องมีใบขับขี่
– รถที่มีประกัน 2-3 พลัส มีลักษณะเดียวกันกับประกันชั้น 1 ต่างตรงที่ต้องเป็นรถชนรถ ที่มีป้ายทะเบียนเท่านั้น ไม่เกี่ยวกับทรัพย์สิน
2. เมาแล้วขับ ประกันจะไม่รับผิดชอบในกรณีระดับแอลกอฮอล์เกิน 150 หากไม่เมาเกินลิมิตที่ตั้งไว้ ประกันจ่ายให้ แต่ระวังข้อหาเมาแล้วขับ หากรุนแรงจนต้องเข้าโรงพยาบาลถ้าไม่มีหลักฐานการเจาะเลือด ประกันก็ต้องจ่าย
3.เลขทะเบียน เลขเครื่อง สีรถ ภาษีขาด ไม่ว่าอะไรประกันจะยึดตัวเลขถังรถเป็นหลัก หากเลขตัวถังตัวกันประกันต้องจ่าย ดังนั้นไม่ต้องกังวลเรื่อง สีไม่ตรง ป้ายไม่ตรง ภาษีขาด
[ads]
4.โดนชนแล้วหนี หากท่านมีประกันชั้น 1 หรือ 2-3 พลัส ต้องจำทะเบียนรถให้ได้ ให้เตรียมใบขับขี่ หรือหากไม่มี ให้นำคนที่มีใบขับขี่ไปแจ้งความที่ สน. แถวนั้น แล้วนำใบแจ้งความไปแจ้งประกัน แต่หากประกันชั้น 1 จำเลขทะเบียนไม่ได้ ให้แจ้งว่าชนอย่างอื่นไปก็ได้
5. หากเกิดเหตุบนถนนให้หาฝ่ายผิด หากตกลงกันได้ให้รีบนำรถออกไป หากตกลงไม่ได้ให้เรียกตำรวจมาตัดสินไม่ต้องรอประกัน หรือหากพกสเปร์ก็นำมาพ้นตำแหน่งที่ล้อทั้ง 2 คัน หากตกลงกันได้ไม่ต้องไปโรงพัก แต่หากชนมากกว่า 2 คันต้องไป
6. ใบขับขี่โดนยึด ให้แสดงใบสั่งแทน หากหมดอายุก็สามารถแสดงได้ เพราะประกันจะยึดว่าไม่คุ้มครองผู้ที่ไม่เคยได้รับใบอนุญาต หากหายให้ไปเอาตัวที่เป็นสำเนามาแสดง
7. ประกันชั้น 1 เคลมสีรถแล้วจะเปลี่ยนสี สามารถทำได้ โดยแจ้งประกันว่าเปลี่ยนสี ประกันยึดหลัก เกิดเหตุจริง ซ่อมจริง
8. เคลมอะไหล่แล้วอยากเปลี่ยนเป็นอะไหล่แต่งก็ทำได้ นำรถไปที่บริษัทเพื่อตกลงราคา แล้วก็เปลี่ยนได้ แล้วประกันจะโอนค่าซ่อมคืนตามมาให้
9. ช่วงล่างกระแทกพัง ยางระเบิด แมกซ์ดุ้ง อุปกรณ์ตกแต่ง ประกันชั้น 1 ต้องจ่ายให้ แต่ต้องมีใบขับขี่ หากอุปกรณ์ตกแต่งราคาแพง ต้องการคุ้มครองกรณีเสียหาย ให้เตรียมใบเสร็จ แล้วโทรหาประกันให้เพิ่มสลักหลังคุ้มครอง ประกันจะคิดเบี้ยเพิ่ม แต่ไม่มาก
10. ทุกครั้งที่เซ็นเอกสารใดๆ ต้องตรวจสอบความเสียหาย ให้ถูกต้องก่อนเซ็นทุกครั้ง เพื่อความถูกต้องสมบูรณ์
10 ข้อที่กล่าวมาถือว่าเป็นประโยชน์ต่อผู้มีรถเป็นอย่างมาก หากใครที่มีรถยนต์ก็ควรอ่านแล้วนำไปปรับใช้เพื่อสิทธิประโยชน์ของท่านเอง จะได้ไม่ต้องจ่ายค่าไปกันไปแล้วไม่รู้ว่าตัวเองมีสิทธิ์อะไรบ้าง
ที่มา :: Jirarat Nuanmai
————————————————–
เรียบเรียงและจัดทำโดย ThaiJobsGov.com
[ads=center]
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ