แม่ช้ำใจ ชักมีดจี้คอขอให้ช่วย ร้องขอความเป็นธรรม ลูกถูกไล่ออกเหตุแค่ต่อยกับครู
ทั่วไป, บทความทั่วไป




 

แม่ลูกมีดจ่อคอร่ำไห้ทั้งน้ำตา ขอความเป็นธรรม ผวจ.เพชรบูรณ์ หลังลูกชายเด็กอาชีวะมีเรื่องชกต่อยกับอาจารย์ ถูกไล่ออก วอนขอโอกาสให้เรียนจบ

เมื่อเวลา 19.30 น. วันที่ 13 ก.พ. พ.ต.อ.ศรีทะนนท์ เรือนมูล ผกก.สภ.เมืองเพชรบูรณ์ รับแจ้งมีเหตุชายหญิงใช้อาวุธมีดจี้คอตัวเอง ที่บริเวณริมถนนเพชรเจริญ จุดทาง 4 แยกทางเข้าตลาดสดเทศบาล2 อ.เมืองเพชรบูรณ์ จึงนำกำลังรุดไปตรวจสอบ  ที่เกิดเหตุพบนางตุ๊กตา (ขอสงวนนามสกุล)อายุ 37 ปี จ.เพชรบูรณ์ และนายเสกศักดิ์  อายุ 18 ปี ทั้งสองเป็นแม่ลูกกัน ใช้อาวุธมีดปลายแหลมยาวประมาณ 25-30 ซ.ม. จี้จ่อคอตัวเอง โดยมีบุตรชายอีก 2 คน อายุ 5 ขวบ และ 9 ขวบ ยืนดูอยู่ข้างๆ รถยนต์เก๋ง วอลโว่ สีแดง ทะเบียน กก 6099 กาญจนบุรี โดยตลอดเวลา นางตุ๊กตา และบุตรชายได้ร้องไห้และพร่ำบ่นร้องขอความเป็นธรรม ทางตำรวจพยายามเจรจาเพื่อให้วางอาวุธมีด และไปพูดคุยที่โรงพัก แต่ปรากฏว่านายเสกศักดิ์ ยอมวางอาวุธมีด แต่นางตุ๊กตา ประกาศว่าจะไม่ยอมวางมีดจนกว่า ผวจ.เพชรบูรณ์ จะเดินทางมาพูดคุยและรับข้อร้องเรียน ท่ามกลางความแตกตื่นของชาวบ้านที่มามุงดูกันเป็นจำนวนมาก

โดยนางตุ๊กตา กล่าวทั้งน้ำตาว่า ตนมีอาชีพทำสีปะผุรถยนต์ สาเหตุที่ตนต้องทำเช่นนี้ เพราะนายเสกศักดิ์ บุตรชายคนโตซึ่งเป็นนักศึกษา ระดับ ปวช. แผนกช่างยนต์  ของวิทยาลัยระดับอาชีวะแห่งหนึ่ง  ที่อีกแค่ 2-3 เดือน ก็จะเรียนจบ แต่ต้องถูกให้ออก เนื่องจากมีเรื่องชกต่อยกับอาจารย์คนหนึ่งในวิทยาลัยดังกล่าว และศาลได้ตัดสินเปรียบเทียบปรับทั้งสองฝ่ายคนละ 1 หมื่นบาท ขณะที่อาจารย์คนนั้นก็ยังทำหน้าที่สอนโดยปกติ ตนได้นำเรื่องนี้ไปร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรม อ.บึงสามพัน แต่ไม่มีความคืบหน้าอะไร บุตรชายคนโตซึ่งคาดหวังเป็นเสาหลักของครอบครัวก็มีแนวโน้มหมดอนาคตทางการศึกษา จึงตัดสินใจเช่ารถยนต์เก๋งคันดังกล่าวมาพร้อมบุตรชายอีก 3 คน มาในตัวเมืองและใช้มีดจี้จ่อคอตัวเองเพื่อร้องขอความเป็นธรรมกับทาง ผวจ.เพชรบูรณ์ โดยตรง

ต่อมานายสืบศักดิ์ เอี่ยมวิจารณ์ ผวจ.เพชรบูรณ์ พร้อมด้วยนายกฤษณ์ คงเมือง รอง ผวจ.เพชรบูรณ์ พ.ต.อ.ฐเดช กล่อมเกลี้ยง รอง ผบก.ภ.จว.เพชรบูรณ์ ได้เดินทางมาจุดเกิดเหตุ เมื่อนางตุ๊กตา ทราบว่านายสืบศักดิ์ เดินทางมาถึงก็ยอมวางอาวุธมีด พร้อมกับโผเข้ากราบด้วยความดีใจพร้อมกับกราบเท้า ทั้งนี้ ผวจ.เพชรบูรณ์ ได้เชิญตัวนางตุ๊กตา และบุตรชายไปพูดคุยที่ห้องทำงาน และสั่งการให้ทาง ผอ.วิทยาลัยอาชีวะดังกล่าว เดินทางมาร่วมเจรจาโดยด่วน โดยสิ่งที่นางตุ๊กตา ร้องขอเพียงต้องการให้บุตรชายได้เล่าเรียนเช่นปกติ แต่ไม่ขอเรียนที่วิทยาลัยเดิม เนื่องจากเกรงว่าจะถูกกลั่นแกล้งจากอาจารย์ที่มีเหตุชกต่อยกัน โดยขณะนี้อยู่ในระหว่างการเจรจาของผู้เกี่ยวข้อง.

ข่าวจาก : เดลินิวส์ออนไลน์

Tag ที่เกี่ยวข้อง

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ

เรื่องที่คุณอาจสนใจ

“วันแรงงานแห่งชาติ” 1 พฤษภาคม เปิดที่มาของวันหยุดสำคัญประจำปี

Advertisement ทุกวันที่ 1 พฤษภาคม ของทุกปี เป็น “วันแรงงานแห่งชาติ” หรือที่เรียกว่า “Labour Day” ถือเป็นวันหยุดประจำปีที่มีผลมาจากการเคลื่อนไหวของสหภาพแรงงาน เพื่อเฉลิมฉลองผลงานทางเศรษฐกิจและสังคมของผู้ใช้แรงงาน Advertisement จุดเริ่มต้นของ “วันแรงงานแห่งชาติ” ในสมัยก่อนประเทศแถบยุโรปจะถือเอา “วันเมย์เดย์” (May Day) เป็นวันเริ่มต้นฤดูใหม่ทางเกษตรกรรม จึงมีพิธีเฉลิมฉลองและทำการบวงสรวงขอให้ปลูกพืชได้ผลดี รวมถึงขอให้ประชาชนอยู่เย็นเป็นสุข อีกทั้งทางภาคเหนือของยุโรปก็จะมีการจัดงานรอบกองไฟในวันนี้ด้วย ซึ่งประเพณีนี้ในประเทศอังกฤษก็ยังมีสืบทอดกันมาจนถึงปัจจุบันนี้ จากตอนแรกที่เป็นเพียงวันหยุดพักผ่อนประจำปี ต่อมาประเทศอุตสาหกรรมหลายประเทศจึงถือเป็นวันหยุดตามประเพณีทั่วไป โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเตือนใจให้ประชาชนตระหนักถึงผู้ใช้แรงงานที่ได้ทำประโยชน์แก่เศรษฐกิจของประเทศ ความหมายของ วันเมย์เดย์ (May Day) จึงเปลี่ยนไปจากเดิม จนเมื่อปี พ.ศ. 2433 ได้มีการเรียกร้องในหลายประเทศทางตะวันตกให้ถือเอาวันที่ 1 พฤษภาคม เป็น “วันแรงงานสากล” ทำให้หลายประเทศได้เริ่มฉลองวันแรงงานเป็นครั้งแรกในวันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2433 และได้สืบทอดมาจนถึงในปัจจุบัน ที่มา “วันแรงงานแห่งชาติ” ในไทย ในประเทศไทย เมื่้ออุตสาหกรรมได้ขยายตัวขึ้น ผู้ใช้แรงงานมีปัญหามากขึ้น รวมทั้งแรงงานมีความสลับซับซ้อนยิ่งขึ้น จึงทำให้ในปี พ.ศ. […]

admin111 admin111

30 April 2567

กฎหมาย วันแรงงาน ทำงานได้ค่าแรงเท่าไหร่ โอทีได้กี่เท่า เลื่อนหยุดวันอื่นได้หรือไม่

Advertisement ลูกจ้างต้องได้หยุดทุกคนไม่มีข้อยกเว้น ทั้งรายวัน รายเดือน ถ้านายจ้างให้ทำงานต้องได้ค่าแรงเพิ่ม 1 เท่า จะเลื่อนไปหยุดวันอื่นก็ไม่ได้ Advertisement วันแรงงาน หากไม่มาทำงานนายจ้างจะไม่จ่ายค่าจ้าง โดยอ้างว่าเป็นวันหยุดได้หรือไม่ หากไม่มาทำงานนายจ้างจะไม่จ่ายค่าจ้างให้ทุกคน ไม่ว่าจะเป็นรายวัน หรือรายเดือน แรงงานไทย แรงงานต่างด้าว จะอ้างว่าเป็นวันแรงงานซึ่งเป็นวันหยุดไม่ได้ เพราะกฎหมายมาตรา 29 กำหนดว่า “ให้นายจ้างประกาศกำหนดวันหยุดตามประเพณีให้ลูกจ้างทราบเป็นการล่วงหน้าปีหนึ่งไม่น้อยกว่า 13 วัน โดยรวมวันแรงงานแห่งชาติตามที่รัฐมนตรีประกาศกำหนด” ซึ่งรัฐมนตรีประกาศให้วันแรงงานคือวันที่ 1 พฤษภาคม นั่นหมายความว่ากฎหมายบังคับให้ต้องจัดให้วันแรงงานเป็นวันหยุดตามประเพณี ไม่จัดไม่ได้ หากไม่จัดให้หยุดมาตรา 146 กำหนดให้นายจ้างผู้ซึ่งไม่ปฏิบัติตามมาตรา 29 ต้องระวางโทษทางอาญา ซึ่งลูกจ้างสามารถร้องต่อแรงงานโดยไม่เปิดเผยชื่อนามสกุลของผู้ร้องได้ ณ สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานในเขตพื้นที่ มีปัญหาว่าหากนายจ้างจัดให้หยุดแล้ว นายจ้างจะอ้างว่าเมื่อไม่มาทำงานก็ไม่จ่ายค่าจ้างหรือ no work no pay ได้หรือไม่ คำตอบ คือไม่ได้ ต้องจ่ายค่าจ้างเพราะมาตรา 56 กำหนดให้นายจ้างจ่ายค่าจ้างให้แก่ลูกจ้างทั้งรายวันและรายเดือนใน “วันแรงงาน” ซึ่งเป็นวันหยุดตามประเพณี และวันหยุดพักผ่อนประจำปี (ลาพักร้อน) หากนายจ้างให้มาทำงานใน […]

admin111 admin111

30 April 2567

เริ่ม1พ.ค.67 ปรับขึ้นเงินเบี้ยหวัดบำนาญ11,000 บาท/เดือน ขรก.5ประเภทเข้าเงื่อนไข

Advertisement วันที่ 1 พฤษภาคม 2567 นอกจากข้าราชการที่เงินเดือนต่ำกว่า 18,000 บาท จะได้รับการปรับขึ้นเงินเดือนแล้ว ในส่วนของข้าราชการบำนาญ ที่มีเบี้ยหวัดบำนาญต่ำกว่า 11,000 บาท ก็จะได้รับเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญเพิ่มขึ้นจนครบ 11,000 บาท เช่นกัน Advertisement โดยเว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่ พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ (ฉบับที่ 17) พ.ศ. 2567 มีผลบังคับใช้วันที่ 1 พฤษภาคม 2567 เป็นต้นไป สาระสำคัญ เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจและค่าครองชีพในปัจจุบันได้เพิ่มสูงขึ้น สมควรปรับปรุงอัตราเงินช่วยคำครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ เพื่อกำหนดให้ผู้ได้รับหรือมีสิทธิได้รับเบี้ยหวัดหรือบำนาญ ซึ่งเมื่อรวมกับเงินช่วยค่ครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญแล้วต่ำกว่าเดือนละ 11,000 บาท ได้รับเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญเพิ่มขึ้นอีกตามอัตราที่กำหนด อันเป็นการช่วยเหลือบุคคลดังกล่าวในการครองชีพ จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้ Advertisement สำหรับข้าราชการบำนาญ ที่จะได้รับการปรับขึ้นเบี้ยบำนาญดังกล่าว ประกอบด้วย 5 ประเภท ได้แก่ 1.ผู้รับเบี้ยหวัดตามข้อบังคับกระทรวงกลาโหม 2.ผู้รับบำนาญปกติ 3.ผู้รับบำนาญพิเศษเพราะเหตุทุพพลภาพ 4.บำนาญพิเศษ 5.บำนาญตกทอดในฐานะทายาทหรือผู้อุปการะหรือผู้อยู่ในอุปการะ     การปรับขึ้นเบี้ยหวัดบำนาญดังกล่าว จะทำให้รัฐสูญเสียรายได้ที่ใช้จากงบฯ […]

arar

30 April 2567
error: