โดนใบแจ้งหนี้ค่าไฟ 77 ล้านบาท แถมเดือนก่อนหน้าค่าไฟเพิ่มพรวด

Advertisement ท่ามกลางสภาพอากาศที่ร้อนระอุแบบนี้ เรื่องที่หลายคนกังวนคงหนีไม่พ้นค่าไฟ ที่ต้องเสียไปกับการเปิดแอร์ เปิดพัดลมเพื่อช่วยคลายร้อน Advertisement ล่าสุดกลายเป็นประเด็นในโซเชียลมีเดีย หลังจากผู้ใช้เฟซบุ๊กท่านหนึ่ง โพสต์ภาพใบแจ้งหนี้ค่าไฟประจำเดือน เม.ย. ของเธอ พร้อมข้อความโดยระบุว่า “ใช้ไฟทั้งจังหวัดเลยมั้ง หัวจะปวด” โดยในภาพ เป็นใบแจ้งหนี้ค่าไฟประจำเดือน เม.ย. ที่ออกโดยการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคโดยมีค่าไฟสูง 77,034,286.30 บาท Advertisement โดยผู้โพสต์ระบุเพิ่มเติมว่า อัตราค่าไฟของเธอนั้นเริ่มมีความผิดแปลกมาตั้งแต่เดือน มี.ค. แล้ว โดยจะเห็นว่า ค่าไฟเดือน ก.พ. เธอเสียประมาณ 2,503 บาท แต่เมื่อเดือน มี.ค. เธอเสียค่าไฟมากกว่า 11,524 บาท ซึ่งเพิ่มมากว่า 8,000 บาท ขณะที่หลายคนระบุไปในทิศทางเดียวกันว่า น่าจะเกิดจากความผิดพลาดของระบบ หรือไม่เจ้าหน้าที่กรอกตัวเลขผิดมากกว่า อย่างไรก็ตามกรณีดังกล่าว ยังไม่มีการชี้แจงจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าเกิดขึ้นจากความผิดพลาดหรือบกพร่องในส่วนไหนกันแน่ แต่ใครเห็นบิลค่าไฟแบบนี้ก็คงจะต้องช็อกไปตามๆกัน   ข่าวจาก : PPTV Online

“พีระพันธุ์” สั่ง กฟผ. แบกหนี้ตรึงค่าไฟ 4.18 บาท แม้ภาระหนี้พุ่งเกือบแสนล้าน

นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยหลังดูการดำเนินงานของการไฟฟ้าฝ่ายผลิต (กฟผ.) และมอบนโยบายแก่คณะกรรมการ กฟผ. และผู้บริหารระดับสูง ว่า ให้ดำเนินการดูแลระบบพลังงานไฟฟ้าของประเทศเพื่อประโยชน์ของชาติบ้านเมืองและประชาชนเป็นสำคัญ ทั้งนี้ กฟผ. เป็นรัฐวิสาหกิจ ไม่ใช่ข้าราชการ 100% แต่ภารกิจหน้าที่ก็ไม่ได้ต่างกัน นั่นคือทําเพื่อประโยชน์ของประชาชน โดยกฟผ.เป็นผู้ที่ต้องแบกรับภาระหนี้เพื่อดูแลค่าไฟให้อยู่ที่ระดับ 4.18 บาทต่อหน่วยต่อไป “เข้าใจว่าในการบริหารองค์กรแบบนี้ ต้องทำองค์กรให้รอดด้วย แต่ต้องไม่ลืมว่าเหนือสิ่งอื่นใดคือประโยชน์ของประชาชน ของประเทศชาติ เพราะฉะนั้น กฟผ. จึงต้องแบกรับภาระหนี้ต่อไป” อย่างไรก็ดี ข้อมูลจาก กฟผ. พบว่า ล่าสุดเมื่อวันที่ 31 ธ.ค. 66 กฟผ. รับภาระค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ หรือค่าเอหที (Ft) ค้างรับสะสม เป็นเงิน 99,689 ล้านบาท ขณะที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) ได้มีมติเห็นชอบค่าเอฟทีเรียกเก็บในงวดเดือน พ.ค.-ส.ค. 67 คงเดิมที่ 39.72 สตางค์ต่อหน่วย โดยเมื่อรวมกับค่าไฟฟ้าฐานที่ 3.7833 […]

‘กกพ.’ เคาะค่าไฟงวด ม.ค. – เม.ย. 67 ประชาชนทั่วไปจ่าย 4.18 บาท ตามมติ ครม.

นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) ในฐานะโฆษกคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดเผยว่า กกพ. ในการประชุมครั้งที่ 2/2567 (ครั้งที่ 887) วันที่ 10 ม.ค. 2567 มีมติเห็นชอบค่าไฟฟ้าผันแปร (เอฟที) ขายปลีกเรียกเก็บสำหรับงวดเดือน ม.ค. – เม.ย. 2567 จำนวน 39.72 สตางค์ต่อหน่วยตามสูตรการคำนวณเอฟที ทั้งนี้ได้ปรับปรุงการคำนวณดังกล่าวตามมาตรการลดค่าไฟฟ้าของกระทรวงพลังงานที่คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เห็นชอบในการประชุมครั้งที่ 3/2566 (ครั้งที่ 166) เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2566 และตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบในการประชุมครม. เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2566 โดยมีรายละเอียดการปรับปรุงการคำนวณ ดังนี้ 1. วันที่ 29 พฤศจิกายน 2566 กกพ. ในการประชุมครั้งที่ 53/2566 (ครั้งที่ […]

จับตารัฐบาลบีบ ‘ปตท.’ ลดราคาก๊าซ อุ้มค่าไฟประชาชนทั่วไป 4.1 บาท

รายงานข่าวระบุว่า ภายหลังที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. 2566 ที่ผ่านมา ถึงกรณีที่สำนักงานกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) มีมติเห็นชอบให้ปรับค่าไฟฟ้าผันแปล (เอฟที) ขายปลีก สำหรับเรียกเก็บในงวดเดือน ม.ค. – เม.ย. 2567 เท่ากับ 89.55 สตางค์ต่อหน่วย ส่งผลให้อัตราค่าไฟฟ้าเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 69.07 สตางค์ต่อหน่วย ทั้งนี้ เมื่อรวมกับค่าไฟฟ้าฐานที่ 3.78 บาทต่อหน่วย ทำให้ค่าไฟฟ้าเรียกเก็บของผู้ใช้ไฟฟ้าทุกประเภทเฉลี่ยรวมอยู่ที่ 4.68 บาทต่อหน่วย (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ส่งผลให้ฝ่ายรัฐบาลอยู่ระหว่างหาแนวทางเพื่อปรับลดค่าไฟฟ้าเพื่อคงให้อยู่ในระดับ 3.99 บาทต่อหน่วย เทียบเท่างวดที่เรียกเก็บปัจจุบัน (ก.ย.-ธ.ค. 2566) หรือไม่ควรเกิน 4.20 บาทต่อหน่วย อย่างไรก็ตาม นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน อยู่ระหว่างหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อทำให้ค่าไฟฟ้าอยู่ที่ระดับ 4.20 บาทต่อหน่วย ในขณะที่ นายกฯ ต้องการที่จะให้ลดค่าไฟฟ้าให้เหลือในระดับ […]

พลังงาน เตือนรับมือ ‘ค่าไฟ-เบนซิน-ดีเซล’ ขึ้นราคา

พลังงาน คือแรงขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจ ในที่นี้รวมถึงค่าไฟฟ้า และ ราคาน้ำมัน ซึ่งปัจจัยภายนอกทั้งสงครามและกิจกรรมทางเศรษฐกิจหลังโควิดระบาดทำให้ราคาพลังงานปรับตัวสูงขึ้น ท่ามกลางสถานการณ์เศรษฐกิจที่เข้าสู่ภาวะถดถอยทำให้การบริหารจัดการด้านพลังงานต้องดำเนินการอย่างระมัดระวังและเป็นธรรม นายพงศ์พล ยอดเมืองเจริญ โฆษกรัฐมนตรีกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ตามที่สำนักงานกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) มีมติกำหนดอัตราเรียกเก็บค่าไฟฟ้างวดเดือน ม.ค.-เม.ย. 2567 ที่หน่วยละ 4.68 บาทนั้นเป็นแค่ตัวเลขเสนอแนะ ส่วนราคาสุดท้ายอยู่ที่ฝ่ายบริหาร กระทรวงพลังงาน ภายใต้การกำกับของ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน จะมีมาตรการเพื่อให้ค่าไฟอยู่ที่ราคาเท่าไหร่ “ขอยืนยันว่าราคาขายไฟฟ้าจริงจะไม่ใช่ตัวเลขที่สำนักงานกกพ. มีมติแน่นอน เพื่อที่จะไม่ให้ประชาชนผู้ใช้ไฟไม่ต้องรับภาระ จนหน้ามืดอย่างแน่นอน ราคาค่าไฟที่ 4.68 บาทต่อหน่วย เป็นแค่ตัวเลขการคำนวนเบื้องต้นที่คำนวนจาก กกพ. โดยยึดโยงจากตัวแปรหลักตัวแปรเดียว คือการชำระหนี้ให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ซึ่งการทำงานของกกพ. ทำหน้าที่เป็นการเสนอแนะแนวทางเชิงทฤษฎี เสมือนทีมวิชาการ (Think Tank) ส่วนทีมบริหาร คือกระทรวงพลังงาน” พีระพันธุ์รื้อโครงสร้างค่าไฟฟ้า ทั้งนี้ นายพีระพันธุ์ ได้กำชับคณะทำงาน โดยให้หาแนวทางลดภาระค่าไฟฟ้าให้กับประชาชน เพื่อที่จะได้ไม่ให้เจอแรงปะทะหลังเทศกาลปีใหม่ที่ใกล้จะถึงนี้ โดยเบื้องต้นจะจัดการราคาไว้ให้อยู่ที่ 4 บาทต่อหน่วย และจะพยายามทำตัวเลขให้ลดลงได้มากที่สุด […]

“พีระพันธุ์”โวย กกพ.ค่าไฟ 4.68-5.95 บ.แพง ลั่นต้องได้ 3.99 บ.

นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยถึงกรณีคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ออก 3 ทางเลือกขึ้นค่าไฟหน่วยละ 4.68 – 5.95 บ. งวดมกราคม-เมษายน 67 จากปัจจุบัน(กันยายน-ธันวาคม 66) อยู่ที่ 3.99 บาทต่อหน่วย โดยเปิดรับฟังความคิดเห็นผ่านทางเว็บไซต์สำนักงาน กกพ. วันที่ 10 – 24 พฤศจิกายนนี้ ว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้ทีมงานเข้าไปดูโครงสร้างต้นทุนค่าไฟเพื่อพิจารณาแนวทางช่วยเหลือประชาชน จะแยกต้นทุนรายตัว บางเชื้อเพลิงอาจปรับขึ้น แต่คงไม่เท่าราคาที่กกพ.ประกาศออกมา โดยจะพยายามทำให้ค่าไฟยังอยู่ที่ 3.99 บาทต่อหน่วยต่อไป ซึ่งจะครบกำหนดวันที่ 31 ธันวาคมนี้ เพราะถือเป็นนโยบายของรัฐบาล และกระทรวงพลังงาน ที่ต้องการช่วยเหลือค่าครองชีพของประชาชนให้มากที่สุด อย่างไรก็ดี หากต้นทุนเพิ่มจริงก็อาจขยับเล็กน้อยแต่คงไม่สูงตามที่ กกพ.ประกาศออกมา “โครงสร้างค่าไฟปัจจุบันที่กกพ.นำมาใช้ตนไม่พอใจ เพราะไม่เป็นธรรมกับประชาชน หน่วยงานรัฐต้องดูแลประชาชน ต้องลดภาระ ต้องพิจารณาราคาที่เป็นธรรม เวลานี้ค่าไฟจึงยังไม่สรุป ไม่ใช่ราคาที่กกพ.ประกาศออกมาแน่นอน”   ข่าวจาก : ฐานเศรษฐกิจ

กกพ. จ่อขึ้นค่าไฟบิลเดือน ม.ค.-เม.ย. 67 ตั้งแต่ 4.68-5.95 บาทต่อหน่วย

ค่าไฟฟ้าที่เราใช้กันหน่วยละ 3.99 บาท จะสิ้นสุดสิ้นปี 2566 เท่านั้น ปีหน้า (2567) ค่าไฟฟ้าจะเป็นไปตามต้นทุนค่าเชื้อเพลิง เพราะไม่มีการอุดหนุนจากรัฐบาลแล้ว สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน ได้พิจารณา 3 แนวทางสำหรับค่าไฟฟ้างวดหน้า คือ เดือน ม.ค.- เม.ย. 2567 มีแนวโน้มปรับขึ้นเนื่องจากสถานการณ์ LNG ในตลาดโลกอยู่ในช่วงขาขึ้น โดยนายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดเผยว่า ปัจจุบันสถานการณ์ราคา LNG ในตลาดโลกอยู่ในช่วงขาขึ้น ตามความต้องการใช้ LNG ที่มากขี้นในช่วงฤดูหนาวในยุโรป ส่งผลให้การประมาณการต้นทุนการผลิตไฟฟ้างวดหน้า (ม.ค.-เม.ย. 67) เพิ่มขึ้นเป็น 64.18 สตางค์ต่อหน่วย / ขณะที่ยังมีภาระต้นทุนคงค้าง กฟผ. อีก 95,777 ล้านบาท กกพ.เคาะค่าไฟ 3 แนวทาง ตั้งแต่ 4.68-5.95 บาทต่อหน่วย โดย 3 แนวทางพิจารณาค่าไฟงวดหน้า คือ […]

คุณตาสู้ชีวิต จำนำมือถือ จ่ายค่าน้ำค่าไฟทุกเดือน รอเบี้ยผู้สูงอายุออกค่อยไถ่คืน

21 ส.ค.2566 นายปริญญา ก้อนทองดี เจ้าของร้านกอล์ฟเอกโมบาย ที่เซ็นทรัลศาลายานครปฐม เปิดเผยกับ “ข่าวสดออนไลน์” กรณีโพสต์คลิปในติ๊กต็อกชื่อ @5parinyaaek888 ซึ่งเป็นคลิปคุณตาคนหนึ่งมาไถ่คืนโทรศัพท์มือถือที่เอามาจำนำไว้ เพื่อนำเงินไปจ่ายค่าน้ำค่าไฟ เจ้าของร้านสงสารไม่คิดดอกเบี้ย นายปริญญา กล่าวว่า คุณตาจะนำมือถือมาจำนำแบบนี้ทุกเดือน โดยมือถือของคุณตาเป็นโทรศัพท์รุ่นเก่า ๆ ได้เงินไปครั้งละ 500-600 บาท โดยคุณตาจะนำเงินที่ได้ไปจ่ายค่าน้ำค่าไฟในแต่ละเดือน แต่ทุกครั้งที่คุณตาเอามือถือมาจำนำก็จะปล่อยพ้นเวลาจนขาดทุกครั้ง เพราะต้องรอเอาเงินเบี้ยผู้สูงอายุออก ถึงจะมีเงินมาไถ่คืน นายปริญญา กล่าวต่อว่า แต่ตนก็ไม่ได้คิดดอกเบี้ยเพิ่มเติม และจะเก็บโทรศัพท์มือถือไว้ให้ เพราะชื่นชมที่คุณตายังคิดดิ้นรนต่อสู้ ยังพึ่งพาตัวเองโดยที่ไม่ไปหยิบยืมใคร และเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับคนที่ท้อหมดหนทางสู้ ตนก็อยากจะให้ดูคุณตาเอาไว้ ทั้งนี้ อีกมุมหนึ่งตนก็รู้สึกสงสารคุณตา ตนจึงได้มอบอาหารให้คุณตาเอาไว้กินอีกด้วย นายปริญญา กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ตนโพสต์คลิปของคุณตาลงไป ก็ไม่ได้เจอคุณตาอีกเลย และไม่รู้ว่าตอนนี้จะเป็นอย่างไรบ้าง ทั้งนี้ ที่ร้านมักจะมีคนนำโทรศัพท์เก่า ๆ มาขายเป็นประจำอยู่แล้ว แต่ก็ต้องระวังว่าจะเป็นมิจฉาชีพหรือไม่ เพราะสมัยนี้มิจฉาชีพมาในหลากหลายรูปแบบ @5parinyaaek888 มีไรก็ช่วยๆกัน #กอล์ฟเอกโมบาย #เซนทรัลศาลายา #เอกนัมเบอร์วัน ♬ พร้อมสู้ไหวกับอ้ายบ่ […]

กกพ.ปัดตก ลดค่าไฟ 4.25บาท แนะให้รอรัฐบาลใหม่ มีโอกาสปีหน้าปรับขึ้นอีก

9 ส.ค.2566 นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน(กกพ.) ในฐานะโฆษก กกพ. เปิดเผยถึงข้อเรียกร้องจากหลายฝ่ายที่ต้องการให้ลดค่าไฟฟ้างวดสุดท้ายของปีนี้ (ก.ย.-ธ.ค.2566) ลงเหลือ 4.25 บาทว่าการลดค่าไฟทุก 1 สตางค์ จะต้องใช้เงินประมาณ 500-600 ล้านบาท หากเป็นไปตามข้อเรียกร้องจะต้องใช้เงินงบประมาณถึง 1-1.2 หมื่นล้านบาท ซึ่งกกพ. ไม่มีงบ คงไม่สามารถดำเนินการได้ จึงใช้วิธีการบริหารต้นทุนที่มีอยู่ในโครงสร้างค่าไฟ เพื่อให้การปรับขึ้นเป็นภาระกับประชาชนน้อยที่สุดเท่านั้น ประกอบกับการดำเนินการที่ผ่านมานั้นรัฐบาลมีงบประมาณบางส่วนมาสนับสนุน ดังนั้นหากจะให้ลดค่าไฟลงอยู่ที่ 4.25 บาท/หน่วย คงต้องรอรัฐบาลใหม่เข้ามาดำเนินการ ซึ่งคงไม่สามารถพิจารณาหรือเปลี่ยนแปลงได้ทันค่าไฟงวดสุดท้ายของปีนี้จะมีผลในรอบบิลเดือนก.ย.นี้แน่นอน “การลดค่าไฟฟ้างวดเดือนก.ย.-ธ.ค.2566 เป็นเรื่องที่ค่อนข้างยาก หรือแทบจะเป็นไปไม่ได้ เพราะต้องมีกระบวนการคำนวณสูตรค่าไฟฟ้าใหม่ หากจะเปลี่ยนสูตรคำนวณใหม่ต้องใช้อำนาจรัฐเข้ามาจัดการ อาจต้องเป็นคณะรัฐมนตรี (ครม.) คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) อีกทั้งยังต้องเปิดรับฟังความคิดเห็นอาจต้องใช้เวลา รวมทั้งการพิจารณาต้นทุนที่เกี่ยวข้องทั้งของบริษัท ปตท. จำกัด(มหาชน) และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) ที่ยังมีภาระค้างค่าเชื้อเพลิงนับแสนล้านบาท และอีกเหตุผลสำคัญ คือ ล่าสุดราคา ก๊าซธรรมชาติเหลว(แอลเอ็นจี) ตลาดโลกเริ่มสูงขึ้นอีก ทำให้ปรับลดค่าไฟในงวดปลายปี 2566 ค่อนข้างลำบาก”นายคมกฤช กล่าว […]

ชาวสวนคาใจ เจอบิลค่าไฟพุ่งไป100เท่า ทั้งที่ปกติจ่ายเดือนละ60 สูงสุดก็แค่700 ตรวจหม้อแปลงเองทุกเดือน ก็ไม่พบเสียหาย

7 ส.ค.2566 น.ส.อุมาพร เด็ดดวง เจ้าของโพสต์ เปิดเผย หลังโพสต์ร้องเรียนในเพจ ‘พวกเราคือผู้บริโภค’ ได้รับบิลแจ้งค่าไฟในสวนผลไม้สุดโหด จากปกติเคยจ่ายเดือนละประมาณ 60 บาท กลับกลายเป็นเพิ่มขึ้นร้อยเท่าทะลุหมื่นว่า เมื่อวันที่ 27 ก.ค.ที่ผ่านมา ตนเองได้รับการแจ้งยอดค่าไฟของสวนผลไม้ของตนเอง โดยพบว่ายอดนั้นผิดปกติไปมาก จากเดิมตนเองจะจ่ายค่าไฟของสวนอยู่ที่ประมาณเดือนละ 60 บาท แพงสุดคือ 700 บาท แต่เดือนนี้ค่าไฟกลับพุ่งสูงถึง 11,357.47 บาท ทำให้ตนเองรู้สึกตกใจเป็นอย่างมากว่าเหตุใดจึงเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น จากนั้นตนเองและพ่อได้ไปเขียนคำร้องที่การไฟฟ้าไว้ ซึ่งในตอนแรกตนเองไม่ได้รับการดำเนินการใดๆ จากทางหน่วยงาน เข้าใจว่าอาจจะเป็นเพราะติดวันหยุดยาว จึงรอมาต่อเนื่อง แต่ก็ไม่ได้รับการแก้ไขหรือตรวจสอบอะไร จนกระทั่งตนเองรู้สึกกังวลใจ จึงได้ไปโพสต์สอบถามในเพจ ‘พวกเราคือผู้บริโภค’ เผื่อว่าจะมีคนเคยเจอเหตุการณ์ในลักษณะเดียวกันแล้วนำมาแชร์ และก็กลายเป็นประเด็นที่ถูกถกเถียง จึงทำให้เจ้าหน้าที่ช่างจากการไฟฟ้าฯ มาตรวจสอบ จึงพบว่าหม้อแปลงนั้นชำรุดเสียหาย จึงทำให้เกิดการจ่ายไฟฟ้าที่มากกว่าปกติ และเป็นเหตุให้แสดงยอดค่าไฟที่ผิดปกติดังกล่าว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ก็ได้ทำการเปลี่ยนหม้อแปลงให้ ก่อนจะจากไปโดยไม่ได้เคลียร์เรื่องยอดค่าไฟที่ผิดปกตินี้ และเจ้าหน้าที่การไฟฟ้า ก็ไม่ได้ขอโทษหรือหาวิธีการแก้ไขแต่อย่างใด พร้อมกับยืนยันให้ตนเองชำระยอดค่าไฟตามบิลที่แจ้งนั่นคือ 11,357.47 บาท แต่ตนเองมองว่าเรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดของตนเอง เหตุใดทางการไฟฟ้า จึงไม่รับผิดชอบหรือหาวิธีการแก้ไข อาทิ […]

1 2 6
error: