สุดยอดสมุนไพรที่มีประโยชน์ต่อร่างกายขนิดหนึ่งที่คุณลืมไม่ได้ ก็คือ “กระเทียม” ที่เราๆรู้จักกันดีนี่แหละค่ะ เพราะกระเทียมอุดมไปด้วยคุณค่าทางสารอาหารมากมายจนยากที่จะบรรยายได้หมด การบริโภคกระเทียมเป็นประจำจึงเป็นผลดีกับร่างกายในหลายๆทาง
ทั้งนี้ มีหลายงานวิจัยได้พิสูจน์มาแล้วว่า “กระเทียมมีคุณสมบัติป้องกันโรคต่าง ๆได้จริง” ทั้งเรื่องของความดัน มะเร็ง หรือโรคอื่นๆอีกมากมาย
และนอกจากจะนำมาประกอบอาหารแล้ว กระเทียมยังสามารถนำไปประยุกต์ทำเป็นยาบำรุงได้อีกมากมายด้วย ซึ่งวันนี้เราจะขอนำเสนอวิธีทำ “น้ำส้มสายชูหมักกระเทียม” อีกหนึ่งวิธีในการบำรุงสุขภาพง่ายๆด้วยตัวคุณเอง
วัตถุดิบที่ต้องเตรียม
1. กระเทียมสดประมาณ 500 กรัม
2. น้ำส้มสายชูขาว 500 กรัม
3. น้ำตาลทรายขาว 40 กรัม
วิธีทำ
1. ล้างกระเทียมให้สะอาดแล้วผึ่งให้แห้ง
2. ปอกเปลือกกระเทียมให้หมดแล้วเก็บใส่ลงในขวดโหลแก้วสะอาด
3. เทน้ำส้มสายชูและน้ำตาลทรายขาวในปริมาณข้างต้นลงไป ซีลปิดขวดด้วยพลาสติกบาง ๆ ก่อนจะปิดฝาตามปกติ
4. หมักส่วนผสมที่ว่านี้ทิ้งไว้ 3เดือนขึ้นไป
5. นำออกมาจิบทุกวัน ครั้งละประมาณ 1 แก้วช้อตเล็ก ๆ
ข้อควรระวัง
1. ระหว่างการทำต้องรักษาความสะอาดให้ดี ระวังไม่ให้วัตถุดิบต่าง ๆ ในขวดโหลสัมผัสกับน้ำ เพราะจะทำให้บูดเน่าเสียได้
2. การหมักในช่วงแรกๆ กระเทียมอาจเปลี่ยนเป็นสีเขียวอ่อนและตกตะกอน ซึ่งไม่ถือว่าผิดปกติแต่อย่างใด
3. ควรเลือกซื้อกระเทียมที่ยังไม่ปอกเปลือกจะดีกว่า เพราะกระเทียมที่ปอกเปลือกจะทำให้คุณค่าทางสารอาหารสูญเสียไปบางส่วน
มีคุณปู่ท่านหนึ่งอายุ 86 ปี เขาเล่าว่า…หลังจากที่เขาได้ดื่มน้ำส้มสายชูกระเทียมหมักทุกวัน อาการอ่อนล้าที่เคยมีก็หายไป คุณปู่รู้สึกกลับมาเป็นหนุ่มได้อีกครั้ง จนทุกวันนี้เขาก็ยังดื่มมันอย่างต่อเนื่องทุกวันเสมอมา และดื่มต่อเนื่องกันมาเป็นเวลากว่า 1 ปีแล้ว
ทั้งนี้ ยังมีอีกรายบางรายงานบอกอีกด้วยว่า…การบริโภคน้ำส้มสายชูหมักกระเทียมเป็นประจำทุกวัน จะทำให้อาการของโรคมะเร็งตับดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดด้วย
[ads]
น้ำกระเทียมหมักมีดีอะไร?
หลายคนเชื่อว่า “น้ำส้มสายชูหมักกระเทียม” สามารถทำให้พวกเขามีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงมากขึ้นกว่าเดิมได้ ทั้งนี้ เรื่องนี้ก็มีงานวิจัยหลายๆงานสนับสนุน รายละเอียดที่สำคัญเช่น
1. งานวิจัยหนึ่งรายงานว่า…สารอาหารที่เป็นประโยชน์ที่มีอยู่ในกระเทียมมีมากกว่า 400 ชนิด ทำให้การบริโภคกระเทียมสามารถช่วยลดความดันและลดการสะสมของไขมันในเส้นเลือดได้
2. สาร Alliin และ Alliinase ที่มีอยู่ในกระเทียม มีคุณสมบัติในการฆ่า ทำลายและยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียได้อย่างไรก็ตาม สารเหล่านี้ไม่ทนความร้อน จึงแนะนำให้ทานสดจะดีที่สุด และเพื่อประสิทธิภาพที่ดีควรลดการบริโภคโซเดียมหรือเกลือไปพร้อมๆ กัน เพราะสารเหล่านี้ไม่ถูกกับโซเดียม
3. การบริโภคกระเทียมที่ถูกต้อง คือ ควรนำกระเทียมมาบดให้ละเอียด ทิ้งไว้ 10-15นาทีเพื่อให้มันได้สัมผัสกับอากาศสักพัก จากนั้นจึงค่อยนำมาบริโภค
แม้ว่ากระเทียมจะเป็นพืชผักสมุนไพรที่กลิ่นไม่ค่อยจะถูกใจใครๆสักเท่าไหร่ แต่เมื่อเห็นคุณประโยชน์มากมายขนาดนี้แล้ว เห็นทีจะต้องไปหากระเทียมมาติดบ้าน หรือทำตามวิธีข้างต้นเพื่อดื่มทานทุกวันเสียแล้ว
อย่างไรก็ตาม อย่าลืมดูแลกลิ่นปากหลังการรับประทานกระเทียมกันด้วยนะคะ เพราะเชื่อว่าคงไม่มีคนรอบข้างคนไหนที่เขาชอบกลิ่นปากเหม็นๆของคุณหรอก
ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก http://www.manyum.com/post/detail/139787.html
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ