โรคยอดฮิตเช็คได้จาก “อาการบวม”….บวมแต่ละที่มีความหมายต่างกัน…มาจับผิดร่างกายก่อนเกิดโรคกันเถอะ!





อาการบวมเป็นหนึ่งในสัญญาณเตือนว่าร่างกายกำลังมีบางอย่างที่ผิดปกติ หากคุณมีอาการปวดบวมที่บริเวณอวัยวะใดอวัยวะหนึ่ง ทั้งที่แน่ใจว่าอวัยวะส่วนนั้นไม่ได้รับการกระทบกระเทือนอะไรเลย ไม่น่าจะเป็นการบวมจากการอักเสบ ก็ขอให้ลองสันนิษฐานเพิ่มเติมอีกสักนิดว่า “อาการบวมเฉพาะที่ดังกล่าวอาจเป็นสัญญาณบอกโรคร้ายอะไรบางอย่างได้”

 

อย่ามัวแต่นิ่งเฉย มาลองดูสัญญาณการบวมที่อันตราย และน่าจะต้องสังเกตให้เจอกันดีกว่าค่ะ

 

อาการบวมที่ควรระวัง เพราะมันอาจมีโรคร้ายแฝงอยู่…

ท้องบวม

ตำแหน่งของท้องค่อนข้างกว้าง แต่ถ้ารู้สึกว่าท้องบวมอย่างเห็นได้ชัด อาจเป็นอาการท้องมานที่เป็นอาการข้างเคียงของโรคตับแข็ง เนื่องจากคุณดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไปหรือติดไวรัสตับอักเสบ

แต่หากส่วนใดส่วนหนึ่งของท้องบวม แล้วคลำเจอเป็นก้อน ก็อาจเป็นเพราะเนื้องอก ซีสต์ หรือก้อนมะเร็ง ทั้งนี้ต้องพิจารณาควบคู่กับอาการอื่นๆ เช่น น้ำหนักลดลง ร่างกายทรุดโทรม หรือปวดบริเวณอวัยวะต่างๆด้วย

 

ขาบวม

หากอาการขาบวมเป็นอาการขาบวมที่พบได้ในขาข้างเดียว อาจสันนิษฐานได้ว่า อาการบวมเกิดขึ้นเพราะมีหลอดเลือดดำที่ขาอุดตัน ซึ่งถือว่าอันตรายมากต้องรีบพบแพทย์ด่วน

 

 

เท้าบวม

 

นอกจากอาการเท้าบวมเนื่องจากน้ำหนักตัวที่เกินมาตรฐานแล้ว ในหญิงตั้งครรภ์ก็สามารถพบเจอปัญหานี้ได้บ่อยเช่นกัน แต่สำหรับคนธรรมดาที่มีอาการเท้าบวมอาจเป็นเพราะคุณใช้งานเท้าจนหนักเกินไป ยืนนาน เดินนาน จนทำให้เท้าบวมได้

นอกจากนี้ ยังอาจเป็นผลข้างเคียงของโรคไต โรคตับ โรคหัวใจรูมาติค หรือโรคขาดอาหารได้

 

[ads]

 

คอบวม

คอบวมเป็นอาการของหลายโรค ได้แก่ ไทรอยด์ คางทูม ต่อมน้ำเหลืองโต มะเร็งต่อมน้ำเหลือง หรือบางครั้งอาจมีก้อนเนื้อ หรือซีสต์ในลำคอได้

ทั้งนี้ หากมีอาการบวมมากจนกลืนอาหารลำบาก ไม่ควรนิ่งเฉยแต่ควรรีบไปพบแพทย์โดยด่วน!

 

 

 

หน้าบวม

เราจะไม่นับอาการหน้าบวมจากความอ้วนนะคะ หากพูดถึงเรื่องโรคแล้วนอกจากอาการ “คางทูม” ที่อาจทำให้ดูหน้าบวมขึ้นแล้ว ก็อาจเป็นอาการของ “การแพ้ยาอย่างรุนแรง หรือแพ้อาหารบางชนิด”

อย่างไรก็ตาม หากหน้าบวมขึ้นเพียงเล็กน้อย อาจเพราะ “รับประทานอาหารที่มีโซเดียมหรือเกลือมากเกินไป” ทำให้เกิดการบวมน้ำหรืออ้วนขึ้นก็ได้

 

 

นอกจากนี้ หากคุณมีอาการบวมตามบริเวณอื่นๆ ของร่างกายที่นอกเหนือจากที่กล่าวไปแล้ว อาจเป็นผลข้างเคียงมาจากการใช้ยาบางชนิด หรือบวมจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นโดยอาจไม่รู้ตัว นอกจากนี้ ยังมีอากการบวมจากการติดเชื้อ บวมจากน้ำในร่างกายเกิน ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วเมื่อใช้นิ้วกดลงไปที่บริเวณที่บวม ผิวหนังส่วนนั้นจะบุ๋มลง หากไม่บุ๋มเลยอาจเป็นอาการอุดตันของทางเดินน้ำเหลือง

 

หากไม่แน่ใจว่าอาการที่ตัวเองเป็นอยู่คืออะไร ก็ควรรีบพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกายอย่างละเอียดจะดีกว่า อย่ากลัวหมอ หรือกลัวที่จะสิ้นเปลืองเงิน เพราะถ้าคุณไม่รักษาตัวเองตั้งแต่วันนี้ คุณจะต้องเสียใจมากกว่าวันนี้อย่างแน่นอน

 

 

ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก health.sanook.com

 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: