5 วิธีฝึกงานอย่างไร?ให้ได้ทำงานต่อ





 ถึงเด็กฝึกงานทุกคนที่กำลังเข้าใกล้สนามจริงสู่การทำงาน จากผลสำรวจของ jobsDB เรื่องสิ่งที่ HR มองหาจากเด็กจบใหม่ เห็นได้ว่าผู้ประกอบการมองหาเด็กจบใหม่จาก “คนที่มีประสบการณ์ฝึกงาน” ถึง 75% เลยทีเดียวค่ะ เพราะฉะนั้นน้องคนที่ได้เข้าไปฝึกงานแล้ว จะมีภาษีดีกว่าคนที่ไม่ได้ผ่านการฝึกงานมาเลย และถ้าน้อง ๆ รู้สึกชอบองค์กรนี้ ชอบงานนี้ อยากทำงานที่นี่ ถ้าเรียนจบแล้วจะต้องทำงานกับที่นี่ให้ได้ แล้วจะทำอย่างไร ให้พี่ ๆ ในองค์กรที่เราไปฝึกงานด้วย เห็นศักยภาพเด็กฝึกงานอย่างเรา จนเค้าคิดถึงเราทุกเมื่อที่เค้าต้องการคนทำงาน มาดูวิธีฝึกงานอย่างไรให้ได้ทำงานต่อกันค่ะ

 

[ads]

 

1. ตั้งใจเรียนรู้งานด้วยความพยายาม

          เรามาฝึกงานเพราะอยากมาหาความรู้ หาประสบการณ์ที่มากกว่าแค่ความรู้ในห้องเรียน เพราะฉะนั้นควรตักตวงความรู้จากตรงนี้กลับไปให้ได้มากที่สุด ถ้าหากน้องฝึกงานยังไม่ได้มีแผนก หรือตำแหน่งงานที่ได้รับมอบหมายที่เฉพาะเจาะจง ลองขอช่วยงานหลาย ๆ แผนกดูค่ะ เมื่อเป็นน้องใหม่ ยิ่งไปช่วยคนหลายแผนก ก็จะให้คนรู้จักเราและเห็นแววความตั้งใจของเรามากยิ่งขึ้นค่ะ

 

2. อาสาและรับหน้าที่เพิ่มเติม

          เมื่อรู้สึกว่าเรานั่งว่าง ๆ ไม่มีอะไรให้ทำ ถามหางานที่เราพอจะช่วยทำได้ แล้วอาสารับหน้าที่นั้น เพื่อให้เค้าเห็นถึงความกระตือรือร้นของเรา แต่ว่าไม่ใช่แค่อาสาชงกาแฟ ถ่ายเอกสารอะไรพวกนี้นะคะ มันไม่ได้ช่วยสร้างผลงาน หรือไม่ได้โชว์ศักยภาพของเราเลย ลองเข้าไปคุยกับพี่เลี้ยงถึงเป้าหมายของการมาฝึกงาน และออกตัวอาสาช่วยงาน แรก ๆ อาจจะเป็นงานเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ไม่ได้เร่งรีบหรือสำคัญมาก แต่เชื่อว่า ถ้าเราเริ่มช่วยได้ แบ่งเบาได้ เขาก็จะเริ่มจ่ายงานที่ชิ้นใหญ่ขึ้นให้เราได้พิสูจน์ฝีมือ ถึงตอนนั้นเราก็มีชัยไปกว่าครึ่งแล้วละ

 

3. เสนอ และแสดงความคิดเห็น

          บอกเลยว่างานนี้ต้องเอาไฟวัยรุ่นออกมาใช้ให้เป็นประโยชน์ โดยการกล้าเสนอ กล้าแสดงความคิดเห็น แต่ต้องไม่อีโก้ ไม่โผงผางมั่นอกมั่นใจจนเกินไปค่ะ เราเป็นน้องใหม่มั่นใจได้ แต่ต้องอยู่บนพื้นฐานของความนอบน้อม และถ้าหากความคิดเห็นของเราไม่เป็นที่ถูกอกถูกใจก็อย่างเพิ่งตีโพยตีพาย หรือว่าเสียความมั่นใจ เราควรยอมรับฟังคำชี้แนะของพี่ ๆ ในองค์กรและนำมาพัฒนา เชื่อว่าความคิดเห็นครั้งหน้าจะต้องดีกว่าเก่าแน่ ๆ บางทีความคิดเห็นอาจไม่ถูกใจ แต่อย่างน้อย เขาก็จะได้เห็นความตั้งใจของเราละน่า

 

4. สร้างผลงาน

          การฝึกงานนั้นมีระยะเวลา เมื่อถึงเวลาหนึ่งเราต้องไปก็จริง แต่สิ่งหนึ่งที่จะทิ้งไว้ให้พี่ ๆ ในองค์กรนั้น ๆ จดจำ ก็คือ ผลงาน ฉะนั้น ใช้โอกาสเพียงไม่กี่เดือนนี้สร้างผลงานซะ ลองของานที่เป็นชิ้นเป็นอันทำ และทำอย่างเต็มที่แสดงให้เค้าเห็นว่าเรามีศักยภาพ เห็นว่าเราสามารถรับผิดชอบงานให้สำเร็จได้เหมือนกัน แม้จะเป็นเด็กฝึกงาน  ทำให้เขาพูดให้ได้ว่า นี่ขนาดแค่ฝึกงาน ยังทำได้ดีขนาดนี้ แล้วถ้าได้ทำงานจริง ๆ จะขนาดไหน เชื่อสิว่าแบบนี้ โอกาสได้กลับมาทำงานต่อนั้นมีแน่นอนค่ะ

 

5. รักษาคอนเน็คชัน

          นอกจากการตั้งใจฝึกงานอย่างเต็มที่แล้ว การรักษาคอนเน็คชันกับพี่ ๆ ที่ฝึกงานด้วยนั้นก็สำคัญเช่นกัน ลองสร้างความสัมพันธ์กับพี่คนอื่นในองค์กรด้วยนะคะ อย่าก้มหน้าก้มตาทำงานเพียงอย่างเดียว แต่ต้องหมั่นสร้างมนุษย์สัมพันธ์ที่ดี เรียนรู้นิสัยใจคอ เข้าหาคนให้ถูกจังหวะและโอกาส ปฏิบัติตัวให้นอบน้อมน่าเอ็นดู แบบนี้คนในองค์กรไม่ใช่แค่จะจำผลงานของเรานะ เขาจะจำตัวตนของเราได้ด้วย และหลังจากฝึกงานเสร็จ ก็ไม่ใช่เลิกแล้วต่อกันไป ลองถามสารทุกข์สุขดิบ ชวนคุยเล่น หรืออาจจะขอคำปรึกษาเรื่องงานโปรเจคจบ แชร์ไอเดียอะไรก็ว่าไป หรือจะนัดพี่เค้าไปทานข้าวกัน สานสัมพันธ์ที่ดีกับพี่ ๆ เค้าไว้เป็นดีค่ะ แบบนี้คอนเน็คชั่นดี ๆ ไม่หายไปไหนแน่นอน

 

          สิ่งสุดท้ายที่อยากย้ำอีกครั้งก็คือ ประโยชน์สำคัญของการฝึกงาน นั่นคือ เป็นการเปิดประตูให้เรา “รู้จักคน” เป็นการเปิดโอกาสให้เรา “รู้จักงาน” และเป็นการเปิดโลกการเรียนรู้ให้เรา “รู้จักวัฒนธรรมองค์กร” นั้น ๆ ด้วยตัวเอง 

 

ขอบคุณเนื้อหาจาก:th.jobsdb.com

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: