ทุก ๆ ปี คนไทยทุกคนที่มีรายได้ถึงเกณฑ์กำหนดจะต้องยื่นแสดงรายได้และจ่ายภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาให้กับกรมสรรพากร โดยในปีภาษี 2559 (ที่จะยื่นแบบในช่วงต้นปี 2560) ยังคงใช้โครงสร้างภาษีแบบเดิมอยู่ คือเงินได้ไม่เกิน 150,000 บาท ได้รับการยกเว้น ส่วนที่เกินมานั้นให้คิดตามขั้นบันได สูงสุด 35% วันนี้จึงมาแนะนำวิธีคำนวณภาษี ลองไปอ่านกันเลย
[ads]
วิธีคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (ภ.ง.ด.90 – ภ.ง.ด.91)
สำหรับใครที่ยังไม่ทราบว่า แบบภาษี ภ.ง.ด.90 กับ ภ.ง.ด.91 แตกต่างกันอย่างไร ก่อนจะไปคิดคำนวณภาษีกันลองมาทำความเข้าใจแบบง่าย ๆ กันก่อน เมื่อรูัแล้วก็ลองไปดูวิธีคิดภาษีกันได้เลย
– ภ.ง.ด.90 คือ ผู้ที่มีรายได้นอกเหนือจากเงินเดือนที่ได้รับ เช่น ค้าขายแบบบุคคลธรรมดา เงินปันผล หรืออื่น ๆ
– ภ.ง.ด.91 คือ ผู้ที่มีรายได้เป็นเงินเดือนเพียงอย่างเดียว โดยไม่มีรายได้ทางอื่น
เงินได้ที่ได้รับในปี 2559 ยังคงใช้โครงสร้างภาษีแบบเดิม คือ เงินได้ไม่เกิน 150,000 บาท ได้รับการยกเว้น ส่วนที่เกินมานั้นให้คิดตามขั้นบันได สูงสุด 35% ดังตารางนี้…
จากตารางนี้แสดงว่าหากใครมีรายได้ตลอดทั้งปีไม่เกิน 240,000 บาท เมื่อหักค่าใช้จ่ายและลดหย่อนส่วนตัวรวม 90,000 บาทแล้ว จะเหลือเงินได้สุทธิ 150,000 บาท ซึ่งได้รับการยกเว้นภาษี
แต่หากใครมีรายได้สุทธิมากกว่า 240,000 บาท แสดงว่าเราต้องยื่นภาษี แต่จะเสียภาษีมาก-น้อยแค่ไหนนั้น ต้องคิดคำนวณจากค่าลดหย่อนด้วย โดยมีวิธีคำนวณภาษีดังนี้
ขั้นตอนที่ 1 นำรายได้ทั้งปีมาหักค่าใช้จ่ายส่วนตัว
นำรายได้ตลอดทั้งปีมาหักค่าใช้จ่าย แยกตามประเภทของรายได้ และหักลดหย่อนตามรายการต่าง ๆ เพื่อหารายได้สุทธิ
ตัวอย่างที่ 1
หากนาย A มีรายได้ทั้งปี 400,000 บาท จะต้องหักค่าใช้จ่ายเบื้องต้นดังนี้
– หักค่าใช้จ่าย 40% ของเงินได้ (แต่ไม่เกิน 60,000 บาท) = 60,000 บาท
จะเหลือรายได้สุทธิ 340,000 บาท
ขั้นตอนที่ 2 นำรายได้ที่เหลือมาหักค่าลดหย่อน
จากนั้น ลองสำรวจดูว่าเรามีค่าลดหย่อนอะไรบ้าง แล้วนำค่าลดหย่อนนั้นมาลบออกจาก 340,000 บาท
เช่น หากปีนี้ นาย A ซึ่งมีภรรยา 1 คน มีรายได้ไม่ถึง 30,000 บาท ทั้งคู่จดทะเบียนสมรสกันแล้ว แต่ไม่มีบุตร จ่ายประกันสังคมไป 9,000 บาท, มีบิดาอายุ 60 ปีขึ้นไปที่ต้องเลี้ยงดู 1 ท่าน, ซื้อ LTF ไป 50,000 บาท และยังมีค่าใช้จ่ายจากการท่องเที่ยวในประเทศ 10,000 บาท ก็สามารถนำค่าลดหย่อนทั้งหมดมาหักออกจาก 710,000 บาท ดังนี้
- – หักค่าลดหย่อนส่วนตัว 30,000 บาท
- – หักค่าลดหย่อนคู่สมรส 30,000 บาท
- – หักค่าประกันสังคม 9,000 บาท
- – หักค่าลดหย่อนเลี้ยงดูบิดา 1 คน จำนวน 30,000 บาท
- – หักค่าซื้อ LTF ไป 50,000 บาท
- – หักค่าใช้จ่ายจากการท่องเที่ยว 10,000 บาท
จะเหลือรายได้สุทธิ 181,000 บาท
ขั้นตอนที่ 3 นำรายได้สุทธิที่ได้ มาเทียบอัตราภาษี
ปัจจุบันใช้วิธีเสียภาษีแบบขั้นบันได ซึ่งอัตราภาษีในปี 2559 เป็นดังนี้
อัตราภาษีแบบขั้นบันได
- – รายได้ 0-150,000 ยกเว้นอัตราภาษี
- – รายได้ 150,001-300,000 บาท อัตราภาษี 5%
- – รายได้ 300,001-500,000 บาท อัตราภาษี 10%
- – รายได้ 500,001-750,000 บาท อัตราภาษี 15%
- – รายได้ 750,001-1,000,000 บาท อัตราภาษี 20%
- – รายได้ 1,000,001-2,000,000 บาท อัตราภาษี 25%
- – รายได้ 2,000,001-4,000,000 บาท อัตราภาษี 30%
- – รายได้ 4,000,000 บาทขึ้นไป อัตราภาษี 35%
กรณีของนาย A มีรายได้สุทธิอยู่ที่ 181,000 บาท เท่ากับต้องเสียภาษีในอัตราสูงสุดที่ 5% แต่ในจำนวนนี้ 150,000 บาทแรก ได้รับการยกเว้นภาษี จึงคงเหลือส่วนที่ต้องเสียภาษีอยู่ที่ (181,000-150,000) = 31,000 บาท ที่อัตรา 5% คิดเป็นเงินภาษี 1,550 บาท
ตัวอย่างที่ 2
นางสาวบี ยังไม่ได้แต่งงาน ทำงานมีรายได้รวมทั้งปี 600,000 บาท ส่งเงินสมทบประกันสังคม 9,000 บาท ซื้อประกันชีวิตไว้ 40,000 บาท ได้ใช้บริการเพื่อการท่องเที่ยวในช่วงสงกรานต์ เป็นเงิน 10,000 บาท คำนวณภาษีได้ดังนี้
- – หักค่าใช้จ่าย 40% ของเงินได้ (แต่ไม่เกิน 60,000 บาท) = 60,000 บาท
- – หักค่าลดหย่อนส่วนตัว 30,000 บาท
- – หักค่าประกันสังคม 9,000 บาท
- – หักค่าซื้อประกันชีวิต 40,000 บาท
- – หักค่าใช้จ่ายซื้อสินค้าและบริการ 10,000 บาท
จะเหลือรายได้สุทธิ 451,000 บาท
มีรายได้สุทธิอยู่ที่ 451,000 บาท เท่ากับต้องเสียภาษีในอัตราสูงสุดที่ 10% เราสามารถคำนวณภาษีแต่ละขั้นได้ดังนี้
– 150,000 บาทแรก ไม่เสียภาษี
จึงเหลือเงินที่ต้องไปคำนวณ (451,000-150,000) = 301,000 บาท
– 150,000 บาทต่อมา เสียภาษี 5% คิดเป็นเงิน 7,500 บาท
จึงเหลือเงินที่ต้องไปคำนวณ (301,000-150,000) = 151,000 บาท
– เงินส่วนที่เหลือ 151,000 บาท นำมาคิดภาษีที่ฐาน 10% จะเท่ากับ 15,100 บาท
นำเงินภาษีแต่ละขั้นมารวมกัน (7,500+15,100) เท่ากับนางสาวบีต้องเสียภาษี 22,600 บาท
ไม่ยากเลยใช่ไหมคะ สำหรับวิธีคำนวณภาษีที่ต้องเสียในแต่ละปี หรือถ้าหากใครไม่อยากเสียเวลากับการนั่งคิดเลขที่ละตัว ก็สามารถใช้ตัวช่วยได้ค่ะ โดยดาวน์โหลดโปรแกรมได้ที่นี่ >>> http://rdserver.rd.go.th/publish/sample/download.php?type=91
[ads=center]
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ