กลับมาอีกครั้งกับ “มาตรการช้อปช่วยชาติ” ที่กระทรวงการคลังจะนำเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)วันนี้ (29 พย.59) โดยจุดประสงค์ของมาตรการนี้ก็เพื่อ ‘กระตุ้นเศรษฐกิจในช่วยโค้งสุดของปี’ นั่นเอง
สำหรับรายละเอียด ก็คือ ประชาชนที่มีเงินได้สามารถนำค่าใช้จ่ายในการซื้อสินค้าวงเงินสูงสุดไม่เกิน 3 หมื่นบาทมาหักลดหย่อนภาษี โดยมีกำหนดระยะเวลาของมาตรการตลอดเดือนธ.ค. นี้ และเชื่อว่าธุรกิจค้าปลีกต่างๆจะจ้องตอบรับมาตรการนี้ และน่าจะช่วยกระตุ้นการบริโภคให้เพิ่มขึ้นได้
ทั้งนี้ กระทรวงการคลังคาดว่า มาตรการนี้จะสามารถกระตุ้นค่าใช้จ่ายได้เพิ่มขึ้น10-20% เพราะจะจูงใจให้ประชาชนออกมาจับจ่ายใช้สอยในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของปี
“เชื่อว่าจะสามารถกระตุ้นการจับจ่ายได้ใกล้เคียงกับปีก่อน หรือราว 10-20% ขณะที่ยอดการจับจ่ายคาดว่าเฉลี่ยไม่เกิน 1 หมื่นบาทต่อคน แต่หากเป็นกลุ่มผู้มีรายได้สูงอาจจะมากกว่า 1 หมื่นบาทขึ้นไป”
นอกจากนี้ ภาครัฐและเอกชน ก็ต่างผนึกกำลังกันลดค่าครองชีพ ยกตัวอย่างเช่น
เทสโก้ โลตัส ได้ร่วมมือกับกรมการค้าภายใน และผู้ผลิตสินค้าในกลุ่มอุปโภค-บริโภคจำนวน 14 ราย จัดแคมเปญ “รวมใจช่วยคนไทยลดค่าครองชีพ” โดยรวบรวมสินค้ากว่า 700 รายการ จาก 24 แบรนด์ชั้นนำ นำสินค้ามาลดราคาไม่ต่ำกว่า 20% ตั้งแต่วันที่ 29 พ.ย. 2559 จนถึง 4 ม.ค. 2560 เป็นต้น
แนวโน้มเศรษฐกิจไทยปีนี้ ยังคงมองว่าจะขยายตัว 3.2% แม้ไตรมาสสุดท้ายอาจชะลอลงบ้าง โดยนายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) กล่าวว่า
“มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่รัฐบาลเตรียมผลักดันออกมาในช่วงปลายปีนี้ น่าจะส่งผลดีช่วยทำให้เศรษฐกิจเติบโตได้ต่อเนื่อง ซึ่งสาเหตุที่รัฐบาลต้องออกมาตรการนี้มา อาจเพราะมองว่าไตรมาสสุดท้ายปีนี้ มีปัจจัยหลายอย่างที่ทำให้เศรษฐกิจมีแนวโน้มชะลอตัวลง”
[ads]
อย่างไรก็ตาม มาตรการดังกล่าว ถือเป็นมาตรการชั่วคราวที่ออกมาเพื่อประคับประคองเศรษฐกิจให้ขยายตัวได้ต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงรอยต่อที่โครงการลงทุนขนาดใหญ่ของรัฐ กำลังออกมาในปีหน้า เพียงแต่มาตรการควรต้องทำเพียงชั่วคราวเท่านั้น เพราะถ้าทำไปนานๆ จะไม่เป็นผลดีต่อเศรษฐกิจ
นอกจากนี้ คนที่รักการท่องเที่ยวต้องรอฟังข่าว เพราะปลายปีนี้อาจจะมีมาตรการลดหย่อนภาษีเพื่อการท่องเที่ยวเพิ่มเติมขึ้นมา ซึ่งขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังอยู่ระหว่างการพิจารณา และคาดว่าจะสามารถสรุปได้ใน 1-2 สัปดาห์
ทั้งนี้ กระทรวงการคลังได้คำนึงถึงผลกระทบที่มีต่อรายได้ที่จะหายไปจากการลดหย่อนภาษีดังกล่าวแล้ว ซึ่ง พวกเขามองว่า การสูญเสียรายได้ในจุดนี้คุ้มค่าต่อประเทศชาติมากที่สุด เพราะจะทำให้มีการบริโภคและเงินหมุนเวียนในระบบมากขึ้น และช่วยให้เศรษฐกิจคล่องตัวขึ้นมากกว่าที่เคยเป็น
ใครที่กำลังจะวางแผนเสียเงินก้อนใหญ่ ก็เก็บเอาไว้ซื้อของช่วงปลายปีแล้วกันนะคะ เพราะนอกจากจะได้ของราคาถูกกว่าเดิมแล้ว ยังสามารถนำเอาค่าใช้จ่ายส่วนนี้ไปหักลดหย่อนภาฝีได้ตามฐานภาษีที่คุณจ่ายด้วย…คุ้มค่าสุดๆไปเลย
ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก bangkokbiznews.com
[ads=center]
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ