วิธีลดการเกิดห้องว่าง ที่คนทำบ้านเช่า-หอพักควรรู้!





ลดอัตราห้องว่าง เป็นอีกหนึ่งประเด็นที่คนทำบ้านเช่าต้องการทราบมากที่สุดเรื่องหนึ่ง แน่นอนว่าการทำบ้านเช่า เวลาก็คือเงิน ช่วงเวลาที่ทรัพย์สินอย่างบ้านเช่าไม่สามารถสร้างรายได้ ถือเป็นค่าเสียโอกาสที่น่าเสียดายที่สุด แม้ว่าเราจะไม่สามารถปิดปัญหานี้ได้ทั้งหมด แต่คงดีไม่น้อย หากเรามีวิธีการเบื้องต้นไว้รับมือกับสถานการณ์ที่เสี่ยงโอกาสให้เกิดห้องว่างในการปล่อยเช่า

 

[ads]

 

วันนี้มีวิธีการเบื้องต้น 6 ข้อ ที่ใครก็สามารถนำไปปฏิบัติหรือเป็นไอเดียต่อยอดการแก้ปัญหาห้องว่างที่พบเจอ รายละเอียดดังนี้

 

1.ทำความเข้าใจระเบียบการเช่าให้ชัดเจน

การทำความเข้าใจเรื่องระเบียบการเช่าบ้านที่ชัดเจน จะเป็นผลดีทั้งต่อตัวผู้เช่าและผู้เป็นเจ้าของบ้านเช่า โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เรื่องของวันเวลาการย้ายเข้า-ย้ายออก เช่น ระยะเวลาการเช่าขั้นต่ำ 3 เดือน หากย้ายออกก่อนหน้านั้น จะถูกริบค่ามัดจำ เพื่อลดอัตราห้องว่างจากการโยกย้ายผู้เช่าในช่วงเวลาที่สั้นเกินไป , การแจ้งวันย้ายออกล่วงหน้า 30 วัน เพื่อผู้เป็นเจ้าของบ้านเช่าจะได้มีเวลารองรับการหาผู้เช่ารายใหม่ เป็นต้น ขณะที่ผู้เป็นเจ้าของบ้านเช่าให้ความสำคัญเรื่องอัตราห้องว่าง ผู้เช่าเองก็ควรรักษาสิทธิ์ที่ตนมีด้วยเช่นกัน เช่น ขอเงินมัดจำคืน เมื่อการย้ายออกถูกต้องตามระเบียบ เป็นต้น

 

2.ตรวจสอบทรัพย์ทุกครั้งก่อนผู้เช่าย้ายออก

ผู้เป็นเจ้าของบ้านเช่าควรมี “แบบฟอร์มการตรวจทรัพย์สิน” เพื่อใช้ตรวจเช็คสภาพและการใช้งานทรัพย์สินภายในห้องเช่า เมื่อมีผู้เช่าย้ายเข้าหรือย้ายออกทุกครั้ง ชี้แจงความชัดเจนกับผู้เช่า หากการย้ายออกของผู้เช่าตรวจพบความเสียหายต่อทรัพย์สินห้องเช่า เงินมัดจำจึงกลายเป็นเงินเสียค่าปรับ เป็นต้น ขณะเดียวกัน ผู้เป็นเจ้าของบ้านเช่าควรมีความเป็นธรรมแก่ผู้เช่ารายใหม่ด้วย เช่น การซ่อมแซมส่วนสึกหรอให้กลับมาสภาพพร้อมใช้งานตามเดิม เป็นต้น

 

3. เร่งหาผู้เช่าใหม่แทนผู้เช่าเก่า

   การหาผู้เช่ารายใหม่ให้ได้ก่อนผู้เช่ารายเก่าจะย้ายออกเป็นเรื่องที่ควรทำที่สุด “การตลาดเชิงรุก” จึงเป็นเรื่องสำคัญ การใช้บริการนายหน้าหรือการขึ้นป้ายประกาศเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดที่ใครก็ทำได้ อย่างน้อยก็ยังดีกว่าการนั่งรอคอยผู้เช่าเดินมาหาเสียฝ่ายเดียว

 

4. เตรียมห้องเช่าให้พร้อมรับลูกค้าเสมอ

   เวลาคือเงิน การปล่อยห้องว่างเสียหายแล้วยังไม่ก่อรายได้ คือค่าเสียโอกาสที่แพงยิ่งนัก นอกจากการบำรุงรักษาหรือการซ่อมแซมให้กลับมาใช้งานได้เหมือนเดิมแล้ว บางครั้งการพัฒนาปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้นไป ก็เป็นเรื่องสำคัญในช่วงเวลาที่เหมาะสม สิ่งปลูกสร้างยิ่งนานยิ่งโทรม ขณะที่บ้านเช่าใหม่ ๆ ก็เกิดขึ้นได้ตลอด หากค่าเช่าระดับเดียวกัน แต่สภาพบ้านต่างกัน ก็ไม่แปลกใจที่บ้านเช่าเก่าจะมีอัตราห้องว่างเพิ่มขึ้น ดังนั้น การลดอัตราห้องว่างมีความเกี่ยวข้องกับ การปรับปรุงและพัฒนาบ้านเช่าให้ถูกที่ถูกเวลาและสอดคล้องกับค่าเช่า

 

house-with-rent-sign

ภาพ:MyPropertyProjects

5. ติดตามการเปลี่ยนแปลงพื้นที่โดยรอบ

   ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างพื้นฐานหรือการลงทุนภาคเอกชนล้วนส่งผลกระทบต่อกิจการบ้านเช่าได้ ทั้งในทางร้ายหรือดี ขึ้นอยู่กับว่า กิจการบ้านเช่าของคุณมีการปรับตัวเพื่อรอบรับการเปลี่ยนแปลงนั้นอย่างไร ? เพราะแต่ละกลุ่มลูกค้าก็มีความต้องการเช่าบ้านที่มีลักษณะต่างกัน รวมทั้งคู่แข่งคนสำคัญอย่างคอนโดมิเนียมที่ทำโปรโมชั่นผ่อนดีกว่าเช่า หรือแม้แต่การเช่าคอนโดมิเนียมที่ได้รับสิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลาง เป็นต้น ทั้งหมดนี้คือเรื่องปกติในการบริหารบ้านเช่าที่คุณควรจะพร้อมรับมือคู่แข่งไว้ด้วยเช่นกัน

 

6. เพิ่มจุดเด่นชดเชยจุดด้อย

   หากกิจการบ้านเช่าของคุณอยู่ในพื้นที่ที่มีแนวโน้มเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม เช่น มีรถไฟฟ้าวิ่งผ่าน เป็นไปได้ไหมว่า ผู้เช่ารายได้ระดับกลางที่แออัดกันอยู่ในตัวเมืองจะย้ายออกมาอยู่ชานเมืองในสภาพห้องเช่าหรือบ้านเช่าที่มีคุณภาพดีขึ้น การเปรียบเทียบค่าเช่าที่ถูกลงกับค่าใช้จ่ายในการเดินทางที่เพิ่มขึ้น หากไม่ได้มีความต่างต่างกันมากนัก และยังถูกชดเชยด้วยการเดินสะดวกจากรถไฟฟ้า ก็น่าจะเป็นโอกาสที่เจ้าของบ้านเช่าจะดึงกลุ่มลูกค้าใหม่เหล่านี้ ยิ่งเพิ่มจุดขายที่โดนใจกลุ่มเป้าหมาย ยิ่งทำให้มีโอกาสลดอัตราห้องว่างได้ยิ่งขึ้นไปอีก เป็นต้น 

 

 

[ads=center]

 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: