บทความดีๆ ปลุกไฟฝัน…”เมื่อผมได้คุยกับคนที่คนอื่นเรียกว่า ไอ้กระจอก”





ความฝันของคนวัยทำงานส่วนใหญ่คงหนีไม่พ้นการเก็บเงินก้อนไว้สานฝันอะไรสักอย่าง อาจจะรถแพงๆ บ้านสักหลัง ธุรกิจส่วนตัวสักอย่าง หรือแค่มีเงินเลี้ยงครอบครัวได้เรื่อยๆ ก็โอเคแล้ว กว่าจะสานฝันแต่ละอย่างได้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย หลายครั้งต้องพับโครงการไว้ก่อนเพราะสภาพการเงินไม่คล่อง หรือมันเป็นฝันที่สูงเกินไปจนรู้สึกท้อ 

แต่ความเป็นจริงแล้ว เราไม่ต้องฝันอะไรที่เกินตัวมากไปก็ได้ … ลองมาดูแนวคิดของชายส่งเอกสารคนหนึ่งกับรถมอเตอร์ไซค์เก่าๆ ในเรื่องเล่า "เมื่อผมได้คุยกับคนที่คนอื่นเรียกว่า ไอ้กระจอก" ของคุณanan6414… แล้วทัศนคติของคุณอาจเปลี่ยนไป (ก็ไม่รู้ว่าเรื่องราวดังกล่าวจะเป็นเรื่องจริงหรือเรื่องแต่ง แต่ก็ถือว่าเป็นเรื่องราวดีๆ ที่น่าคิด น่าเก็บไว้เป็นแรงบันดาลใจจริงๆ)

——————–

เมื่อผมได้คุยกับคนที่คนอื่นเรียกว่า "ไอ้กระจอก"
เรื่องนี้เกิดขึ้นกับผมเองที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งในขอนแก่น วันนั้นผมเองรู้สึกหมดอาลัยตายอยาก และเซ็งกับการทำงานในตำแหน่งนี้เหลือเกิน และสุดจะหาทางทำให้สำเร็จได้ ผมนั่งสูบบุหรี่ มองดูชีวิตคนอื่นไปเรื่อยๆ จนสะดุดกับชายคนนึงที่หย่อนตัวนั่งลงข้างๆผม ชายคนนี้ขับมอเตอร์ไซค์โนวา อาร์เอส เก่าๆ ในรูปแบบของคนส่งเอกสารแบบเต็มยศ เมื่อเขานั่งลงพร้อมกับเอ่ยปากขอยืมไปเช็คเพื่อต่อบุหรี่ ผมยื่นไปไม่คิดอะไร และผมเริ่มพูดออกไป ถามเขาว่าทำงานที่ไหน เขาตอบและเราเริ่มคุยกัน

ผมถามเขาว่า "มอเตอร์ไซค์เนี่ย มันขับได้ไกลขนาดไหนท่าทางจะพังอยู่แล้ว จะไปไหวไหมเนี่ย"  
เขาตอบ "มันเคยเป็นรถใหม่เหมือนรถพี่นั้นล่ะ แต่ตอนนี้มันเป็นรถเก่าที่เป็นรถผม ผมดูแลมันดี มันวิ่งได้ไม่ดับแสดงว่ามันปกติ เสียแต่ตรงที่มันเก่า แต่เวลาที่เราไปห้าง พี่ก็ต้องจอดรถไว้ที่ลานจอดรถ
ตอนนั้นพี่กับผมก็เท่ากันแล้ว ขึ้นอยู่กับว่าพี่มีเงินในกระเป๋าเท่าไรล่ะ นั้นล่ะคือระดับการบริการที่พี่จะได้รับจากพนักงาน พวกที่ตัดสินคนที่เปลือก"

ผมอึ้งไปเลย ชอบแนวคิด อยากคุยด้วยแล้ว ดีๆๆ เจอคนคิดแบบนี้อยากเรียนรู้จัง  

ผมเลยยิงคำถามต่อว่า "เอ้า! แล้วพี่ไม่อยากได้รถใหม่หรอ เห็นเขาลดราคาแข่งกันโครมๆ พี่ไม่กลัวลูกพี่อายเขาเหรอ นั่งรถเก่าๆ"  
เขาตอบ "ผมก็คิดนะแต่ก็ไม่เอา เงินเดือนเท่านี้ ผมผ่อนได้นะ แต่ผมจะไม่เหลือเงินทำอะไร พี่จะให้ผมนั่งเลียรถเหรอ ผมบอกลูกผมว่าพ่อซื้อรถใหม่ได้นะ แต่พ่อจะพาพวกเธอไปเที่ยวกันไม่ได้ เพราะว่าพ่อต้องผ่อนรถหกปี ตลอดหกปีพ่อต้องหาเงินใส่ค่างวดรถ และส่งพวกเธอเรียน และเราก็คงต้องอดๆ อยากๆ กันนิดหน่อย ไหนยังต้องหาเงินมาซ่อมบำรุงอีก เธอจะเอาไหม"

เขาบอกต่อไปว่า "พวกลูกๆ ก็ตอบปฏิเสธ และบอกผมว่าถ้ามันลำบากขนาดนั้น พวกเราไม่เอาหรอก ขอเพียงพ่อรักพวกหนูและดูแลพวกหนูให้ดี ก็พอแล้ว"   อึ้งครับ ผมอึ้งครอบครัวนี้ ชอบจริงๆๆๆๆ

 

img_21222
ภาพประกอบจาก www.dirttrackthai.com

แต่เขาเล่าต่อนะว่า ทีวีที่บ้านเขาเป็นLED นะจอใหญ่พอสมควร ผมเลยบอกว่าไหนว่าจะไม่ฟุ้งเฟ้อ แล้วทำไมมีLEDไปได้ เขาตอบผมว่า ทีวีสำหรับพวกเขานั้น มันเป็นเพียงความบันเทิงชิ้นเดียวที่บ้านเขาใช้ร่วมกันและเขาบอกว่า มันก็ไม่ได้เหลือบ่ากว่าแรง และมันเป็นเพียงความสุขเดียวของครอบครัวของเขา อย่างนี้พี่ว่าแพงไหมล่ะ อึ้งงงงงงงงง!!    

เขาถามผมกลับ "พี่มีฝันไหม ฝันอยากได้นั้นได้นี้"
ผมตอบ "มีสิ ผมอยากมีบ้านหลังใหญ่ มีรถ มีเงิน"
เขาบอกว่า "นั่นเรียกว่าฝันเบสิค"
ผมเลยถามว่า "เอ้า แล้วพี่มีฝันไหม"
เขาตอบ "ผมกำลังฝันใหม่" ผมงงและถาม คืออะไรพี่?
เขาตอบว่า "ฝันที่เคยฝันไว้ ผมทำหมดแล้ว เช่น ผมฝันว่าผมอยากจะมีครอบครัวที่น่ารัก ผมก็มีแล้วและรักษามันไว้ให้ดีที่สุดอยู่ตอนนี้ ผมฝันว่าวันนึงจะพาครอบครัวไปเที่ยวทะเล ผมก็พาไปเที่ยวแล้ว แม้ว่ามันจะทุลักทุเล แต่ผมก็สามารถทำมันได้สำเร็จแล้ว ผมฝันว่าจะซื้อโทรทัศน์ดีๆ ให้ลูก ผมก็ทำแล้วซื้อด้วยเงินสดด้วย"
แล้วเขาถามกลับมาที่ผม "แล้วฝันของพี่เสร็จกี่อย่างแล้ว?" ผมอึ้ง ตอบว่ายังไม่มี
เขาบอกว่า "พี่กระจอกกว่าผม
ถึงฝันของผมมันเป็นฝันง่ายๆ แต่ผมทำได้แล้ว แต่พี่ฝันซะยิ่งใหญ่ แต่พี่ทำไม่ได้ หากวันนึงพี่ต้องการทำฝันให้เป็นจริง พี่ก็ต้องทำทุกอย่าง แม้กระทั่งโกง จริงไหม?"
ผมตอบ จริง    
เขาบอกผมว่า
"พี่ครับ คนเรามีทุนทางชีวิตต่างกัน ผมมาจากจากลบศูนย์ ทุกวันนี้ผมมีบ้านหลังเล็กๆ ที่อบอุ่น มีครอบครัวที่มีภูมิคุ้มกัน และมีความทรงจำเกี่ยวกับการก้าวผ่านความฝัน ผมก็ถือว่าผมสำเร็จในชีวิตแล้ว วัตถุ เงิน ทอง ไม่ใช่สิ่งที่แสดงความสำเร็จ การก้าวผ่านความฝันที่เป็นได้ และมีความสุข ด้วนความสุจริตใจ มีความสุขมากกว่าที่จะอยู่ร่ำรวยแบบระแวงคนอื่นจะมาแย่งความจน ความไม่มีสอนให้ผมเข้มแข็ง ความฝันสอนให้ผมทะเยอทะยาน แต่สองเท้าต้องติดดิน และเป็นสุจริตชน"

เขาจากผมไปพร้อมกับคำถามที่ทิ้งไว้ให้ผมขบคิดว่า "เรามีฝันที่เป็นไปได้ไหม? และเราก้าวพ้นความฝันแล้วรึยัง? เราคิดว่าเราเหนือคนอื่น เราคิดว่าคนอื่นกระจอกกว่าเรา แต่เราไม่เคยรู้เลยว่า ความสุขที่เราต้องการที่แท้จริงอยู่ที่ไหน? ทุกวันนี้เราทำเพื่อใคร? ทำเพื่ออะไร? เราทำทำไมยังตอบยากกว่าว่าทำยังไง?"


ขอบคุณบทความดีๆ ต้นฉบับจากคุณanan6414
เว็บไซต์
http://forum.khonkaenlink.info/index.php?topic=17076260.0
เรียบเรียงใหม่โดย Thaijobsgov

 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: