ประกาศผลสอบอัยการผู้ช่วย ประจำปี 2555
ประกาศผลสอบอัยการผู้ช่วย ประจำปี 2555 จำนวน 87 คน จากผู้เข้าสอบทั้งหมดประมาณเกือบ 8 พันคน ขอแสดงความยินดีด้วยนะครับ
>>> อ่านประกาศผลการสอบอัยการผู้ช่วย <<<
ประกาศผลสอบอัยการผู้ช่วย ประจำปี 2555 จำนวน 87 คน จากผู้เข้าสอบทั้งหมดประมาณเกือบ 8 พันคน ขอแสดงความยินดีด้วยนะครับ
>>> อ่านประกาศผลการสอบอัยการผู้ช่วย <<<
Advertisement เมื่อวันที่ 28 เมษายน นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงความคืบหน้ามาตรการการเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) 7% สำหรับสินค้าที่นำเข้ามาจากต่างประเทศที่มีมูลค่าต่ำกว่า 1,500 บาท ว่า ภายในพฤษภาคมจะเริ่มใช้มาตรการการเก็บแวต 7% สำหรับสินค้านำเข้ามาจากต่างประเทศมูลค่าต่ำกว่า 1,500 บาท ซึ่งจะช่วยสร้างความเป็นธรรมให้แก่ระบบการค้าในประเทศ ทำให้สินค้าซื้อจากต่างประเทศผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม เหมือนกับสินค้าที่ซื้อจากร้านค้าในไทยทั่วไปที่เริ่มเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มสินค้าดังกล่าวตั้งแต่บาทแรกเพื่อให้เท่าเทียมกัน ส่วนอากรขาเข้ายังเป็นอำนาจของกรมศุลกากร ยังยกเว้นอยู่ ตามข้อตกลงร่วมกันระหว่างองค์การศุลกากรโลก ถือเป็นการทำตามมาตรฐานเหมือนประเทศอื่นที่ยกเว้นอากรขาเข้าให้กับสินค้าราคาไม่สูงอยู่แล้ว เพื่อลดภาระทางศุลกากร แต่ภาษีมูลค่าเพิ่มจำเป็นต้องเก็บอยู่ Advertisement Advertisement นายลวรณกล่าวว่า ในช่วงแรกจะใช้อำนาจของกรมศุลกากรออกประกาศออกมาใช้ก่อน ทำได้รวดเร็วกว่าและเก็บภาษีได้ทันที ส่วนระยะยาวกระทรวงการคลังต้องไปแก้ไขประมวลรัษฎากรที่ใช้เวลานานกว่า “ในประมวลรัษฎากรเขียนกฎหมายผูกรวมกันไว้ให้จัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับสินค้าที่ต้องเสียอากรนำเข้าเท่านั้น ทำให้ที่ผ่านมาสินค้านำเข้ามาและมีมูลค่าไม่เกิน 1,500 บาท ได้รับยกเว้นอากรขาเข้าจากกรมศุลฯ จะไม่ถูกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มตามไปด้วย แต่ขณะนี้กระทรวงการคลังกำลังแก้ไขกันใหม่ ให้แยกภาษีทั้ง 2 ส่วนออกจากกัน ให้เก็บภาษีมูลค่าเพิ่มได้เลยตั้งแต่บาทแรก” นายลวรณกล่าว รายงานข่าวแจ้งว่า ช่วงแรกการจัดเก็บแวตสินค้านำเข้าต่ำกว่า 1,500 บาท จะให้กรมศุลกากรจัดเก็บส่งให้กรมสรรพากรไปก่อน ส่วนระยะถัดไปจะหารือกับผู้ประกอบการแพลตฟอร์มจำหน่ายสินค้าออนไลน์ ให้เป็นผู้จัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มและนำส่งตรงให้กับกรมสรรพากร ข่าวจาก […]
Advertisement พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า ตามที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง นายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี ตามประกาศลงวันที่ 22 สิงหาคม พุทธศักราช 2566 แล้ว และแต่งตั้งรัฐมนตรีเพื่อบริหารราชการแผ่นดิน ตามประกาศลงวันที่ 1 กันยายน พุทธศักราช 2566 นั้น Advertisement บัดนี้ นายกรัฐมนตรีได้กราบบังคมทูลว่า สมควรปรับปรุงรัฐมนตรีบางตำแหน่ง เพื่อความเหมาะสมและบังเกิดประโยชน์ต่อการบริหารราชการแผ่นดิน อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 158 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้รัฐมนตรีพ้นจากความเป็นรัฐมนตรีและแต่งตั้งรัฐมนตรี ดังต่อไปนี้ ให้รัฐมนตรีพ้นจากความเป็นรัฐมนตรี ดังต่อไปนี้ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี พ้นจากความเป็นรัฐมนตรี นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พ้นจากความเป็นรัฐมนตรี นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พ้นจากความเป็นรัฐมนตรี นายเศรษฐา ทวีสิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พ้นจากความเป็นรัฐมนตรี นายจักรพงษ์ แสงมณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ […]
Advertisement 27 เมษายน นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ระบุนายกฯปิดจ๊อบโผ ครม.เศรษฐา 2 นิ่ง จัดทัพ เสริมแกร่งรัฐบาลว่า การปรับคณะรัฐมนตรีจะปรับเร็วหรือปรับช้า ปรับเล็กหรือปรับใหญ่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและ รมว.คลัง มีอำนาจเต็มในการปรับคณะรัฐมนตรีชัดเจน Advertisement Advertisement นายอนุสรณ์กล่าวว่า เท่าที่ติดตามข่าวการปรับคณะรัฐมนตรีครั้งนี้เชื่อว่าจะเป็นคณะรัฐมนตรีที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น สามารถทำงานเป็นทีม ตอบโจทย์กับสถานการณ์ปัญหาปัจจุบันได้มากขึ้น การปรับ ครม.ในสถานการณ์การเมืองแบบพรรคร่วมรัฐบาลไม่ง่าย การที่นายเศรษฐาสามารถดำเนินการได้ขนาดนี้ถือว่ามีอำนาจเต็ม เปิดโอกาสให้รัฐมนตรีได้แสดงฝีมืออย่างเต็มที่ และเมื่อถึงเวลาต้องปรับก็ปรับด้วยความมั่นใจ ว่าจะสามารถกระชับการทำงานให้ตอบโจทย์แก้ไขปัญหาให้กับประเทศชาติและประชาชนได้ “ครม.สไตล์รัฐบาลเศรษฐาทำงานเร็วในการเดินหน้าผลักดันนโยบายเรือธงของรัฐบาล ทำงานเต็มประสิทธิภาพเพื่อประโยชน์ประเทศชาติและประชาชน“ นายอนุสรณ์กล่าว ข่าวจาก : มติชน Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ