แม่ค้าหวยแฉเอง ต้นเหตุเก็บส่วยอยู่ที่กองสลากฯ โดนกันถ้วนหน้า รายละ250-500/เดือน





3 มิถุนายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่มีว่าที่ ส.ส.พรรคก้าวไกล ได้ออกมาเปิดโปงขบวนการเรียกรับเงินโดยมิชอบจากผู้ประกอบการรถบรรทุกหรือการเก็บส่วย และได้ลุกลามไปยังวงการอื่นๆ รวมทั้งส่วยลอตเตอรี่ โดยเฉพาะผู้ค้ารายย่อย หรือคนเดินเร่ขาย หากมีสติ๊กเกอร์ หรือใบเสร็จเสียค่าปรับ ก็สามารถขายเกินราคาที่กฎหมายกำหนดได้เลย

นางเบญจมาศ บุตรโคตร แม่ค้าขายลอตเตอรี่จังหวัดเลย เปิดเผยว่า ขายลอตเตอรี่เป็นอาชีพมากว่า 20 ปี และในช่วงปี 6-7 ปีที่ผ่านมา หลังจากที่รัฐบาลพยายามแก้ปัญหาหวยแพง และมีการปราบปรามจับผู้ค้าสลากรายย่อยที่เดินขายตามต่างจังหวัด โดยมีการจับและปรับครั้งละ 5,000 บาท จากนั้นมาผู้ค้าสลากต่างเข้าไปพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ที่เข้าไปขาย บางพื้นที่ต้องไปคุยถึงระดับผู้การจังหวัด ต้องรวบรวมผู้ค้าสลากที่จะไปขายในพื้นที่จังหวัดนั้นๆ แล้วรวมเงินส่งเป็นรายเดือน แต่ปัจจุบันส่งตาม สภ.ตามอำเภอ หรือตาม สภ.ต.

วันนี้มองว่าปัญหาที่จริงที่ต้องยอมจ่ายทุกเดือน แต่ละพื้นที่ก็ไม่เท่ากัน ส่วนใหญ่อย่างมากรายละ 500 บาทต่อเดือน ก็ถือว่า 250 บาทต่องวด พออยู่กันได้ แต่ปัญหาจริงๆ อยู่ที่ผู้ค้าตัวจริงที่ดินขายจริงๆ ตามต่างจังหวัด ไม่ได้มีโควต้ากับเขา ที่เราขายแพง รัฐเองก็มองว่าเราขายเกินราคา ความจริงผู้ค้ารายย่อยไม่น้อยกว่าร้อยละ 90 ไม่มีโควต้า คนได้โควต้ามาส่วนใหญ่เขาเอามาขายให้เรายกชุด ยกกล่อง คนที่ได้โควต้าจริงๆ น้อยคนนักที่จะเป็นคนเดินขาย วันนี้ที่กองสลากทำคือ คนที่รับกรรมคือคนเดินขาย คนเดินขายต้องมาจ่ายค่าส่วย ถ้าไม่จ่ายก็ถูกจับ ถามว่าทำไมไม่เลิกขาย ก็ไม่ได้มันเป็นอาชีพหลักไปแล้ว ตำรวจเองก็ไม่ผิดเขาบังคับใช้ตามกฎหมาย

ถ้าถามว่าตามเมืองใหญ่ๆ หรือในตัวจังหวัดมีไหม ตอบเลย คนเดินขายไม่ได้เสียค่าส่วย เพราะเป็นพื้นที่กว้าง แต่ก็ต้องระวังเอาเอง แต่ถ้าออกตามอำเภอ ต้องไปเสียค่าส่วยให้กับเขา ยิ่งอำเภอที่มีนักท่องเที่ยว มีแหล่งสถานเริงรมย์เยอะ ก็จะแพงขึ้น ส่วนส่วยในตัวจังหวัดส่วนใหญ่จะเสียให้เจ้าหน้าที่ ก็จำพวกมีแผงประจำ หน้าร้าน ตามปั๊มน้ำมัน พวกนี้เสียเป็นรายเดือนหมด แต่คนเดินขายอย่างเราก็ระวังกันเอาเอง อย่างที่ตนเคยถูกจับและเสียค่าปรับมาก่อนหน้านี้ ยกตัวอย่างสมมุติว่าไปขายในเขตของจังหวัดปราจีนบุรี พอรู้ว่าที่บ้านนามีงานใหญ่คนเยอะ ก็ไปเดินขาย ซึ่งเป็นพื้นที่ติดกัน แต่เป็นเขตของ จ.นครนายก ก็เลยโดนจับถูกปรับไป 3,000 บาท แถมขึ้นศาลอีกเพราะไปขายข้ามเขต

การเสียส่วยในแต่ละเดือนอย่างของตน ทุกเดือนจะขึ้นโรงพักไปเสียค่าปรับ โดยจ่ายไป 500 บาท เจ้าหน้าที่จะออกใบเสร็จออกมา 2,000 บาทบ้าง 3,000 บาทบ้าง แล้วแต่ละเดือน ต้องเก็บใบเสร็จไว้อย่างดีของแต่ละเดือน เมื่อเจ้าหน้าที่มาจับก็เอาใบเสร็จนี้ให้ตำรวจดู ถ้าเป็นพื้นที่เดียวกันเขาก็ปล่อยเรา ส่วนใหญ่พวกเราไปกันเป็นกลุ่ม 10-20 คน เดินทางจากจังหวัดเลย เมื่อไปถึงพื้นที่ก่อนที่เราจะขายก็ต้องไปติดต่อเขา และไปเสียค่าปรับทุกอย่างก็จบ ก็เดินขายได้เลย

 

ข่าวจาก : มติชน

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: