นายก อบต.โคกขี้หนอน “ไม่เห็นด้วยเพิ่มเงินเดือน” ชี้อาสามาแล้ว ต้องทำงานเต็มที่





8 มีนาคม นายสุพจน์ งามสง่า นายก อบต.โคกขี้หนอน อ.พานทอง จ.ชลบุรี กล่าวถึงกรณีที่มีการขึ้นค่าตอบแทน อบต.ว่า ความเห็นส่วนตัวมองว่าไม่น่าจะเพิ่มค่าตอบแทน อบต. หลายคนอาจจะมองว่าตนเองเป็นแกะดำ ซึ่งในความเป็นจริงไม่ว่าจะเป็น ส.ส., นายก อบจ., นายกเทศมนตรี หรือ นายก อบต.ซึ่งแข่งขันสมัครใจกันเข้ามาเป็นซึ่งแสดงว่ามีเจตนาเสียสละ เพื่อทำงานให้ชาติบ้านเมือง หรือท้องถิ่น ทั้งที่ในความเป็นจริงไม่สมควรที่จะได้รับเงินเดือนด้วยซ้ำไป เพราะในการเลือกตั้งผู้ใหญ่บ้าน, กำนัน, นายก อบต., สมาชิก อบต., นายกเทศมนตรี, สท. นายก อบจ. หรือ สจ.เห็นซื้อเสียงกันแหลกลาญเพื่ออยากจะเป็น พอเป็นแล้วอยากได้ค่าตอบแทน ทั้งที่อ้างว่าจะมีดูแลช่วยเหลือชาวบ้าน คนที่จะเป็นผู้นำ ผู้แทนชาวบ้านจะต้องมีความพร้อมในการประกอบอาชีพ ดูแลตัวเองได้ ตนอาจจะเป็นคนเดียวในประเทศไทยที่ไม่เห็นด้วย ที่จะเพิ่มเงินค่าตอบแทน อบต.

นายสุพจน์กล่าวว่า ตนเป็นนายก อบต.โคกขี้หนอนมาประมาณ 20 กว่าปีก็ไม่เคยรับเงินเดือน โดยยกให้เป็นค่าอาหารกลางวันสำหรับข้าราชการ พนักงานใน อบต.จนโดนใบแดงจาก กกต.3 รอบ ซึ่งเป็นการสวนทางกับความเป็นจริงที่มีการปลูกฝังคนให้เข้ามาดูแลชาวบ้านจะต้องเสียสละ ที่สำคัญต้องยอมรับว่าการเลือกตั้งท้องถิ่นส่วนใหญ่ซื้อเสียงเข้ามาทั้งนั้น เมื่ออยากเป็นแล้วมาขอเงินค่าตอบแทนเพิ่มเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง ควรจะเอาเงินส่วนนี้ไปดูแลคนยากคนจนไม่ดีกว่าหรือ

“เมื่อมีการขึ้นเงินเดือนนายก อบต. รวมทั้งสมาชิก ประธานสภา ส่งผลให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้านก็อยากขึ้นเงินเดือนอีกแล้ว ทั้งที่ความเป็นจริงหากเห็นว่า ค่าตอบแทนไม่คุ้มก็ลาออกไป คนอื่นเขาอยากเป็นก็ให้เขาเป็นไป ซึ่งเป็นความคิดที่ไม่เห็นด้วยในเรื่องการเรียกร้องขึ้นค่าตอบแทนมานานกว่า 20 ปีแล้ว” นายสุพจน์กล่าวและว่า ตนเองเป็นนายก อบต.โคกขี้หนอนมาก็ไม่เคยรับเงินเดือนด้วย จนโดนใบแดงมา 3 รอบฐานไม่รับเงินเดือน เพราะเลี้ยงข้าราชการ พนักงานใน อบต. ฉะนั้นจึงต้องมีการปลูกฝังจิตสำนึกของคน ในเมื่อเสียเงินเสียงทองเพื่อจะมารับตำแหน่ง ก็ไม่ควรจะมาเรียกร้องค่าตอบแทน

นายสุพจน์กล่าวอีกว่า การที่มาเพิ่มค่าตอบแทนในช่วงนี้ จะมีผลต่อการเลือกตั้ง ส.ส.แน่นอน นี่คือการใช้กลยุทธ์ในการใช้ตำแหน่งหน้าที่ทางราชการ เพื่อให้เกิดความนิยมชมชอบ ไม่ว่าจะเป็น อสม.จากเงินเดือน 1,000 บาทเป็น 2,000 บาท ซึ่งเป็นการหาเสียงโดยใช้ตำแหน่งหน้าที่ อำนาจ และงบประมาณมาหาเสียง มองได้จากทำไมไม่ทำก่อนหน้านี้ แต่มาทำช่วงจะยุบสภาเหลือไม่ถึงเดือน วิญญูชนทั่วไปก็รู้ แต่ก็อยู่ในกรอบอำนาจหน้าที่ทำได้ ไม่ผิดกฎหมาย แต่ในด้านจริยธรรม สามัญสำนึกในด้านการเป็นผู้นำ ผู้บริหาร เป็นการเอาเปรียบพรรคการเมืองอื่นที่ไม่มีตำแหน่ง หรือฝ่ายค้าน

“การเพิ่มเงิน อบต.และ อสม.มีผลต่อการเลือกตั้ง ส.ส.แน่นอน คนไทยเป็นคนที่กตัญญู และยังอยู่ในสังคมที่มีบุญคุณ ที่สำคัญไม่รู้ว่าเงินที่ได้รับนั้นก็คือเงินภาษีของตัวเอง ยอมรับว่าเงินที่เพิ่มในครั้งนี้ถือว่าไม่น้อยเหมือนกัน แต่ก็ใช้เงินงบประมาณของท้องถิ่น แต่ก็ไม่สมควรที่จะขอขึ้นเงินเดือน ในเมื่ออาสามารับใช้ประชาชนแล้วจะต้องเป็นผู้เสียสละ” นายสุพจน์กล่าว

 

ข่าวจาก : มติชน

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: