กระทรวงการคลัง เผยแพร่กฎกระทรวงล่าสุด สรุปใจความได้ว่า จากนี้เป็นต้นไป ผู้ที่มีการฝากหรือรับโอนเงินทุกบัญชีรวมกันตั้งแต่ 3,000 ครั้งหรือ มีการฝากหรือรับโอนเงินทุกบัญชีรวมกันตั้งแต่ 400 ครั้ง และมียอดเงินรวมกันตั้งแต่ 2 ล้านบาทขึ้นไป ธนาคารจะต้องรายงานข้อมูลต่อ กรมสรรพากร ซึ่งกฎหมายดังกล่าวมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 23 ธันวาคมที่ผ่านมา และได้เริ่มเก็บข้อมูลแล้วนับตั้งแต่วันที่ 24 ธันวาคม 2562 หากผู้มีหน้าที่รายงานข้อมูล ไม่ปฏิบัติตาม มีโทษปรับไม่เกิน 100,000 บาท และปรับอีกไม่เกินวันละ 10,000 บาท ตลอดเวลาที่ยังฝ่าฝืน หรือจนกว่าจะปฏิบัติให้ถูกต้อง ส่วนโทษสำหรับกรณีเจ้าพนักงานเปิดเผยข้อมูลของผู้เสียภาษีอากรหรือของผู้อื่นที่เกี่ยวข้อง มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 2,0000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
เรื่องดังกล่าว มีผู้โพสต์ผ่านสื่อสังคมออนไลน์เป็นวงกว้าง หลายคนประเมินว่า กลุ่มที่ถูกจับตามากที่สุด น่าจะเป็นกลุ่มผู้ค้าออนไลน์ โดยกรมสรรพากรจะใช้ข้อมูลการโอนเงินไปประกอบการพิจารณากับข้อมูลอื่น เพื่อเรียกเก็บภาษีจากผู้ค้าออนไลน์ที่เสียภาษีไม่ถูกต้องต่อไป ซึ่งในปีงบประมาณ 2562 กรมสรรพากร สามารถจัดเก็บภาษีจากกลุ่มที่อยู่นอกระบบเพิ่มเป็นเงินกว่า 1,000 ล้านบาท
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
แจงแล้ว ข่าวไม่มีวัสดุทำบัตรประชาชน แค่เจ้าหน้าที่กังวลไปเอง
Advertisement 28 เมษายน นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากที่มีการโพสต์ข้อความในสื่อโซเชียลว่างดรับบริการทำบัตรกรณีทำบัตรครั้งแรก เนื่องจากวัสดุมีจำกัด กรุณาติดต่อหลังสงกรานต์ โดยกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า ก่อนระยะเวลาตามที่ปรากฏเป็นข่าว กรมการปกครองได้ดำเนินการจัดซื้อบัตรประจำตัวประชาชน (Smart Card) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 จำนวน 8,503,426 บัตร โดยวิธีการประกวดราคาทางอิเล็กทรอนิกส์เสร็จสิ้นตามขั้นตอนแล้ว แต่เนื่องจากก่อนการส่งมอบตามสัญญาจะต้องนำบัตรไปทดสอบเกี่ยวกับมาตรฐานของวัสดุบัตรกับกรมวิทยาศาสตร์บริการ และบริษัทโทรคมนาคม แห่งชาติ จำกัด (มหาชน) ให้เป็นไปตามข้อกำหนดรายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะของงานการจัดซื้อบัตรประจำตัวประชาชนที่ออกด้วยระบบคอมพิวเตอร์ แบบอเนกประสงค์ (Smart Card) ก่อนการส่งมอบบัตรให้แก่กรมการปกครอง ซึ่งการทดสอบเกี่ยวกับมาตรฐานของวัสดุบัตรต้องใช้ระยะเวลาพอสมควร จึงทำให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานของสำนักทะเบียนบางแห่งเกิดความกังวลว่าจะมีวัสดุบัตรไม่เพียงพอต่อการให้บริการในห้วงดังกล่าว ทั้งนี้ ตามข้อเท็จจริงในห้วงระยะเวลาที่ปรากฏเป็นข่าวสำนักทะเบียนทุกแห่งทั่วประเทศยังคงมีบัตรให้บริการแก่ประชาชนผู้ประสงค์ขอทำบัตร “กรมการปกครองได้ดำเนินการเกี่ยวกับกระบวนการดังกล่าวข้างต้นเสร็จสิ้นและได้รับมอบบัตรตามสัญญา พร้อมทั้งได้ส่งมอบบัตรให้แก่สำนักทะเบียนทุกแห่งทั่วประเทศแล้วตั้งแต่วันที่ 10 เมษายน 2567 เป็นต้นมา สำหรับสถิติในการจัดทำบัตรประจำตัวประชาชนทั้งประเทศเฉลี่ยเดือนละ 800,000-900,000 บัตร ซึ่งบัตรที่กรมการปกครองจัดซื้อตามจำนวนดังกล่าวข้างต้นสามารถมีบัตรใช้ได้จนถึงประมาณเดือนกุมภาพันธ์ 2568 จึงมีวัสดุบัตรสนับสนุนให้แก่สำนักทะเบียนทุกแห่งทั่วประเทศได้อย่างเพียงพอ” นายคารมกล่าว นายคารมกล่าวว่า ข้อมูลที่โพสต์และแชร์ต่อในขณะนี้เป็นข้อมูลบิดเบือน ขอความร่วมมือประชาชนไม่แชร์ ไม่ส่งต่อข่าวดังกล่าว เพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น […]
admin111 admin111
28 April 2567“ธนาคารออมสิน” ประกาศยุติเว็บ “อินเทอร์เน็ต แบงก์กิ้ง” 1 ก.ค.67
Advertisement ธนาคารออมสิน โพสต์เฟซบุ๊ก “GSB Society” ประกาศแจ้งขอยุติการให้บริการเว็บอินเทอร์เน็ตแบงก์กิ้ง “GSB Internet Banking” (สำหรับบุคคลธรรมดา) ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2567 เป็นต้นไป ทั้งนี้ลูกค้ายังสามารถทำธุรกรรมผ่าน 3 ช่องทางอื่นๆ ของธนาคารได้ตามปกติ คือ 1.) แอปพลิเคชัน “MyMo” 2.) ตู้ ADM / ATM ของธนาคารออมสิน 3.) สาขาธนาคารออมสินทั่วประเทศ พร้อมขออภัยในความไม่สะดวก และขอขอบคุณลูกค้าที่ไว้วางใจใช้บริการของธนาคารด้วยดีเสมอมา และหากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ธนาคารออมสินทุกสาขา หรือ GSB Contact Center โทร.1115 สำหรับบริการออมสินอินเทอร์เน็ตแบงก์กิ้ง (Internet Banking) คือระบบงานธนาคารทางอิเล็กทรอนิกส์สำหรับลูกค้าบุคคล ให้สามารถทำธุรกรรมทางการเงินและตรวจสอบข้อมูลทางการเงินผ่านระบบอินเตอร์เน็ตได้ทุกที่ ทุกเวลา ถือเป็นทางเลือกสำหรับลูกค้าของธนาคารที่ต้องการความสะดวก รวดเร็ว ประหยัดเวลาค่าใช้จ่ายในการเดินทาง เสมือนเดินทางมาทำธุรกรรมทางการเงินกับธนาคารด้วยตนเอง ทั้งนี้ระบบบริการที่กำลังจะยุติให้บริการดังกล่าว หมายถึงการให้บริการทำธุรกรรมออนไลน์ ผ่านช่องทาง “เว็บไซต์” ซึ่งการทำธุรกรรมออนไลน์บนโทรศัพท์มือถือผ่านแอปพลิเคชัน “MyMo” […]
admin111 admin111
28 April 2567แก๊งรองเจ้าคณะจังหวัด ล่าสัตว์ป่าภูเขียว พบเส้นทางหนีมุ่งหน้าเหวลึก
Advertisement 27 เม.ย. 2567 ผู้สื่อข่าวยังคงตามติดกรณีเหตุการณ์ พระและโยมเข้าป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว จ.ชัยภูมิ จนกระทั่งเจ้าหน้าที่หน่วยลาดตระเวนเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียวเข้าตรวจสอบและจับกุม ซึ่งขณะจับกุมได้มีชาวบ้านที่เดินทางมากับพระ เปิดฉากยิงใส่เจ้าหน้าที่เพื่อเปิดทางให้พระส่วนหนึ่งได้หลบหนีโชคดีกระสุนไม่ถูกเจ้าหน้าที่ ล่าสุดวันนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนเพิ่มเติม พบข้อมูลจากการให้การสารภาพของพระทั้ง 2 รูปที่จับกุมตัวมาก่อนหน้านี้เผยว่าหนึ่งในพระที่หลบหนีเป็นรองเจ้าคณะจังหวัดชัยภูมิจริง รวมถึงสอบถามชื่อของพระและคนที่ติดตามเข้าไปในป่า ก็ได้ข้อมูลเกือบครบถ้วนแล้วด้วย จากกันให้กันเบื้องต้นยังบอกอีกว่ากลุ่มคนที่ติดตามไปด้วยจะมีอาวุธปืนติดตัวไปครบทุกคนอีกด้วย ทางด้านนายวิชานนท์ แสนผาลา หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว ทุ่งกระมัง อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ กล่าวว่า จากการติดต่อสอบถามประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพบว่ายังไม่สามารถติดต่อพระที่หลบหนีได้ แต่จากข้อมูลในพื้นที่ พบว่าเส้นทางที่ใช้หลบหนีเป็นเส้นทางที่มุ่งหน้าไปยังหน้าผาหรือเป็นเหวลึก การที่จะหลบหนีไปต่อได้จะต้องมีทักษะการโรยตัว และความชำนาญในพื้นที่เป็นอย่างมาก ซึ่งในขณะนี้ทางเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียวได้ส่งกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยลาดตระเวน 20 นายเข้าปิดล้อมตรวจค้นหาบุคคลและพระสงฆ์ที่ยังหลบหนีในบริเวณดังกล่าวแล้ว รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับผู้ที่หลบหนี 7 ราย ประกอบด้วย 1. พระศรีสัจญาณมุนี รองเจ้าคณะจังหวัดชัยภูมิ และ ผอ.วิทยาลัยสงฆ์ชัยภูมิ, 2. พระโน๊ต, 3. สามเณรภูมิ,4. นายสุภชัย, 5. นายชยาวัชร์, 6. นายช้วน, 7. นายบุญโฮม ข่าวจาก […]
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ