แต่งงานแบบยุคดิจิทัล เจ้าบ่าวใช้ คริปโต เป็นสินสอด เผย อยากให้คนไทยสนใจ

Advertisement คู่บ่าวสาวยุคใหม่ ใช้เหรียญคริปโตเคอร์เรนซี่ เป็นส่วนหนึ่งของสินสอด เจ้าบ่าวเผยชัด ทำเพื่ออยากให้คนไทยสนใจและอยากรู้เรื่องการลงทุน ผู้ใช้งาน เฟซบุ๊ก รายหนึ่งชื่อว่า Nujpun Ekpatcha ได้โพสต์ภาพลงบนกลุ่ม ETH Thailand ซึ่งเป็นบรรยากาศของงานแต่งงานระหว่างตัวนาย ณัชพันธ์ และภรรยา โดยมีค่าสินสอดเป็น คริปโตเคอร์เรนซี่ หลายโทเคน Advertisement คริปโตเคอร์เรนซี (Cryptocurrency) คือ หน่วยข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ ที่สร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนสินค้า บริการ หรือแลกเปลี่ยนกับสินทรัพย์ดิจิทัลอื่นๆ สามารถใช้เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการได้หากผู้ใช้ยอมรับระหว่างกัน โดยเจ้าตัวได้เผยว่า “ความตั้งใจของผมกับเจ้าสาว คือ เรารู้และชอบเรื่องนี้กันดี จริงๆแล้ว ตอนแรกอยากให้สินสอดเป็น คริปโตเคอร์เรนซี 100% ด้วยซ้ำ แต่ด้วยขนบธรรมเนียมและความไม่เข้าใจของผู้ใหญ่ เลยต้องมีสินสอดแบบที่เขาคุ้นเคยด้วย ส่วน คริปโทคริปโตเคอร์เรนซี เป็นไฮไลท์ มูลค่าโดยรวมมันไม่เยอะครับ แต่ผมอยากให้เป็นตัวอย่าง อยากให้ถูกตั้งคำถาม และถูกพูดถึง“ Advertisement นายณัชพันธ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “ผมอยากให้คนไทยเข้าใจ คริปโตเคอร์เรนซี่ อย่างถูกต้อง ว่ามันคือ สกุลเงินที่กำลังเกิดขึ้นใหม่ […]

แฉอีก หลวงพี่ขุดเหมืองคริปโต ยังมีวีรกรรมเปิดโต๊ะบอลออนไลน์กลางวัด

แฉอีก หลวงพี่ทำเหมืองคริปโต ไม่ใช่แค่ทำกำไรด้วยไฟวัด แต่ยังเปิดโต๊ะบอลออนไลน์ ซัดเป็นมาเฟียในคราบพระ ชาวบ้านโร่แจ้งความแล้ว รอสำนักพุทธฯ ตรวจสอบ จากกรณีฮือฮาบนโลกโซเชียล เมื่อมีเพจแฉภาพของพระรูปหนึ่ง ที่กำลังขะมักเขม้นอยู่หน้าเหมืองคริปโต แถมยังมีอุปกรณ์ชุดคอมพิวเตอร์ประสิทธิภาพสูงชนิดครบครัน ซึ่งชาวเน็ตวิจารณ์ว่าการทำเหมืองคริปโตเพื่อขุดเหรียญแบบนี้ต้องเสียค่าไฟเยอะ เพราะต้องใช้ศักยภาพของคอมพิวเตอร์ อยากรู้ว่าพระรูปนี้จ่ายค่าไฟเองหรือเปล่า หรือทางวัดจ่าย ต่อมา (28 พฤษภาคม 2564) เพจ โหลกแดง Back To School ได้แฉข้อมูลเกี่ยวกับพระรูปนี้อีกรอบ โดยชี้ว่าหลวงพี่รายนี้ไม่เพียงแต่จะขุดเหรียญ Cryptocurrency (คริปโทเคอร์เรนซี) ซึ่งเป็นสกุลเงินออนไลน์ แต่ยังพบว่ามีการเปิดโต๊ะบอลออนไลน์ด้วย ในขณะที่เจ้าอาวาสกรรมการในวัดนั้นไม่รู้จัก ก็นึกว่าเป็นเพียงเครื่องคอมพิวเตอร์ธรรมดา พร้อมกันนั้นมีการเปิดภาพเอกสารที่มีคนเข้าแจ้งความเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม ที่ผ่านมา โดยพบว่าชาวบ้านที่อยู่บริเวณวัดได้ร้องเรียนว่า มีการมั่วสุมเล่นพนันออนไลน์ในพื้นที่วัดดังกล่าว อีกทั้งมีคนเผยภาพพระที่อยู่หน้าคอมพิวเตอร์ และมีเครื่องเซิร์ฟเวอร์ตั้งอยู่หลายตัว แต่เมื่อสอบถามพระในรูปได้อ้างว่าไม่มีชุดคอมพิวเตอร์ดังกล่าว แต่ไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบได้เนื่องจากมีการติดตั้งเครื่องสแกนนิ้วมือที่ประตูทางเข้า ประกอบกับทางวัดและกรรมการไม่เคยแจงเกี่ยวกับรายได้-รายจ่ายของวัด ทางชาวบ้านจึงส่งคนมาแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน เพื่อทำการแจ้งสำนักพุทธฯ ให้ดำเนินการต่อไป จากนั้นก็ได้มีผู้คนเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์กรณีที่เกิดขึ้น และเรียกร้องให้ทางสำนักพุทธฯ เข้าตรวจสอบโดยเร็วไว ก่อนที่จะมีการเคลื่อนย้ายของหนีไปจนหมด อย่างไรก็ตาม พบว่ามีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์ภาพข้อความจากสำนักพุทธฯ ที่ระบุว่าหากต้องการร้องเรียนพระสงฆ์ต้องใช้วิธีการโทรศัพท์เข้าไปแจ้ง   ข่าวจาก : […]

หลวงพี่ทำเหมืองคริปโต ลงทุนขุดเหรียญอุปกรณ์ครบ แต่..ใครจ่ายค่าไฟ ?

หลวงพี่ทำเหมืองคริปโต ลงทุนขุดเหรียญอุปกรณ์ครบ โซเชียลแซวอุปกรณ์ครบขนาดนี้ต้องมีได้กันบ้างแหละ โซเชียลแซวปัจจัยจ่ายค่าไฟหรือเปล่า เรียกได้ว่าเป็นที่สนใจในหมู่นักลงทุนรุ่นใหม่สำหรับ Cryptocurrency (คริปโตเคอร์เรนซี่) ที่เป็นสกุลเงินดิจิทัล หลายคนอาจจะเคยได้ยินชื่อเหรียญ บิทคอยต์, เหรียญหมา หรือคอยน์ดอจน์ ฯลฯ ซึ่งหลายคนก็เลือกลงทุนตามความสนใจ บางคนก็เน้นไปที่การขุดคริปโตเคอร์เรนซี่ เพื่อหาเหรียญ เพื่อซึ่งต้องใช้พลังประมวลผลของคอมพิวเตอร์ ยิ่งคอมพิวเตอร์เครื่องไหนมีพลังการประมวลผลสูงก็มีโอกาสเดาตัวเลขได้สำเร็จก่อนเครื่องอื่น ล่าสุด (27 พฤษภาคม 2564) เฟซบุ๊ก โหลกแดง Back To School ได้เผยภาพพระรูปหนึ่งกำลังขมักเขม้นอยู่หน้าเมืองคริปโต งานนี้โซเชียลต่างเข้ามาคอมเมนต์กันเพียบ บ้างก็บอกว่าอุปกรณ์ครบแบบนี้ดูท่าน่าจะต้องได้บ้าง แต่บางคนก็มองว่าการทำเหมืองคริปโตเพื่อขุดเหรียญแบบนี้ต้องเสียค่าไฟเยอะ เพราะต้องใช้ศักยภาพของคอมพิวเตอร์ อยากรู้ว่าพระรูปนี้จ่ายค่าไฟเองหรือเปล่า หรือทางวัดจ่าย หรือเป็นปัจจัยที่ญาติโยมนำมาถวาย เท่ากับว่าพระรูปนี้ไม่ต้องเสียเงินเลยสักบาท แต่ได้กำไรจากการขุด       ข่าวจาก : kapook ภาพจาก เฟซบุ๊ก โหลกแดง Back To School

นักลงทุนเงินดิจิทัลสะเทือน!! ครม.เห็นชอบกฎหมายเก็บภาษีเงินคริปโต หัก ณ ที่จ่าย 15% พร้อมต้องยื่นภาษี 40(4)

  ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 13 มีนาคม มีมติเห็นชอบร่างพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) แก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. (การจัดเก็บภาษีจากทรัพย์สินดิจิทัล) คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบหลักการร่างพระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. (การจัดเก็บภาษีจากทรัพย์สินดิจิทัล) ตามที่กระทรวงการคลัง (กค.) เสนอ กค. พิจารณาแล้วเห็นว่า ปัจจุบันประมวลรัษฎากรยังไม่ได้กำหนดเกี่ยวกับทรัพย์สินดิจิทัลไว้ จึงอาจเกิดความไม่ชัดเจน ดังนั้น เห็นควรแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร โดยกำหนดนิยามของทรัพย์สินดิจิทัล ประเภทเงินได้ของเงินได้เนื่องมาจากทรัพย์สินดิจิทัล และการหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายสำหรับเงินได้เนื่องมาจากทรัพย์สินดิจิทัล เพื่อให้ผู้มีเงินได้เนื่องมาจากทรัพย์สินดิจิทัลและผู้ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับทรัพย์สินดิจิทัลเสียภาษีตามประมวลรัษฎากรอย่างถูกต้องครบถ้วนเช่นเดียวกันกับผู้มีเงินได้เนื่องมาจากทรัพย์สินอื่น ๆ และผู้ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับทรัพย์สินอื่น ๆ และเนื่องจากในปัจจุบันได้มีการนำทรัพย์สินดิจิทัลมาใช้ในการประกอบธุรกิจและการกระทำกิจกรรมทางเศรษฐกิจในประเทศแล้ว โดยมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จึงเป็นกรณีฉุกเฉินที่มีความจำเป็นรีบด่วนเพื่อความมั่นคงในทางเศรษฐกิจของประเทศซึ่งจะต้องตราพระราชกำหนด สาระสำคัญของร่างพระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. (การจัดเก็บภาษีจากทรัพย์สินดิจิทัล) เป็นการกำหนดนิยามของทรัพย์สินดิจิทัล ประเภทเงินได้ของเงินได้เนื่องมาจากทรัพย์สินดิจิทัล และการหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายของเงินได้เนื่องมาจากทรัพย์สินดิจิทัล ดังนี้ 1.) […]

error: