สังหารหมู่ ระเบิด โรงพยาบาลฉนวนกาซา เสียชีวิตครึ่งพัน

Advertisement 18 ต.ค.2566 เกิดเหตุระเบิดครั้งใหญ่ที่โรงพยาบาลในฉนวนกาซาซึ่งเต็มไปด้วยผู้ได้รับบาดเจ็บรวมถึงชาวปาเลสไตน์อื่น ๆ ที่หาพี่พักพิงเพื่อหลบหนีความรุนแรง เมื่อวันที่ 17 ต.ค.ที่ผ่านมา เบื้องต้นกระทรวงสาธารณสุขกาซา ระบุว่า มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 500 ราย Advertisement เหตุระเบิดโรงพยาบาลที่สร้างความเสียหายอย่างรุนแรงครั้งนี้ เกิดขึ้นที่อัล-อะห์ลี ซึ่งมีสภาพไม่ต่างจากโรงพยาบาลอื่น ๆ ในฉนวนกาซาในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ที่เต็มไปด้วยชาวปาเลสไตน์จำนวนมากซึ่งพากันลี้ภัยไปอยู่ในโรงพยาบาล โดยหวังว่าพวกเขาจะรอดพ้นจากการทิ้งระเบิด หลังจากอิสราเอลได้สั่งให้ผู้ที่อาศัยอยู่ในเมืองทั้งหมดรวมถึงพื้นที่โดยรอบทางตอนเหนืออพยพลงไปยังพื้นที่ทางตอนใต้ของฉนวนกาซา ภาพวิดีโอที่ได้รับการยืนยันว่า มาจากโรงพยาบาลที่เกิดเหตุแสดงให้เห็นเพลิงไหม้ลุกท่วมอาคาร ขณะที่บริเวณโรงพยาบาลเต็มไปด้วยศพผู้คนที่ฉีกขาดจากแรงระเบิด ผู้เสียชีวิตจำนวนมากเป็นเพียงเด็กเล็ก ซึ่งรอบศพของพวกเขาที่อยู่บนพื้นหญ้ามีผ้าห่ม เป้สะพายหลังของโรงเรียน และข้าวของเครื่องใช้อื่นๆ กระจัดกระจายอยู่ หลังเกิดเหตุระเบิดทั้งรถพยาบาลและรถยนต์ส่วนตัวได้เร่งนำผู้ได้รับบาดเจ็บประมาณ 350 คนไปยังโรงพยาบาลอัล-ชิฟา ซึ่งเป็นโรงพยาบาลหลักในฉนวนกาซาที่เต็มไปด้วยผู้บาดเจ็บจากการโจมตีจากที่อื่นๆ อยู่แล้ว โดยสภาพภายในโรงพยาบาลผู้บาดเจ็บต่างนอนจมกองเลือดบนพื้นและกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด ด้าน อิสราเอลและปาเลสไตน์ ต่างกล่าวโทษกันและกันว่าเป็นฝ่ายยิงจรวดใส่โรงพยาบาลดังกล่าว โดยฮามาสอ้างว่าเป็นการโจมตีทางอากาศของอิสราเอล และเรียกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าเป็นการสังหารหมู่ที่น่าสยดสยอง Advertisement ขณะที่ กองทัพอิสราเอล ก็กล่าวโทษว่าโรงพยาบาลถูกโจมตีจากจรวดที่ยิงพลาดเป้าของกลุ่มติดอาวุธปาเลสไตล์ ที่ได้ทำการยิงจรวดจำนวนมากใกล้กับโรงพยาบาลในขณะนั้น โดยอ้างข่าวกรองจากหลายแหล่งที่อิสราเอลมีในมือซึ่งบ่งชี้ว่า กลุ่มญิฮาดอิสลามเป็นผู้รับผิดชอบต่อการยิงจรวดที่ล้มเหลวครั้งนี้ ในเวลาต่อมาฝ่ายสื่อของรัฐบาลฮามาสได้ออกแถลงการณ์ระบุว่า การโจมตีโรงพยาบาลในฉนวนกาซาถือเป็นอาชญากรรมสงคราม เพราะโรงพยาบาลเป็นที่พักพิงของผู้ป่วยและผู้ได้รับบาดเจ็บหลายร้อยคน รวมถึงผู้ที่ถูกบังคับให้ต้องกลายเป็นผู้พลัดถิ่นจากบ้านเรือนของตนเอง และขณะนี้มีเหยื่อหลายร้อยคนยังคงติดอยู่ภายใต้ซากปรักหักพังของโรงพยาบาลดังกล่าว ขณะที่โฆษกของกองทัพอิสราเอลไม่สามารถยืนยันได้ว่าพวกเขาเป็นผู้รับผิดชอบต่อเหตุที่เกิดขึ้น […]

ทัพอากาศ ส่งเครื่องบิน รับคนไทย จากอิสราเอลแล้ว

15 ต.ค.2566 กองทัพอากาศได้นำเครื่องไปอพยพคนไทยออกจากอิสราเอลแล้ว ในเวลา 23.41 ของวันที่ 14 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยมุ่งหน้าเมืองหลวงกรุงเทลอาวีฟพร้อมนำเสบียงและเจ้าหน้าที่เข้าสนับสนุนการช่วยเหลือคนไทยในอิสราเอล โดยมีผู้แทนจากกองทัพอากาศ กระทรวงต่างประเทศและกระทรวงแรงงานร่วมเดินทางไปด้วย โดยก่อนหน้านี้ รายงานระบุว่า มีคนไทยที่แสดงความจำนงต้องการกลับประเทศไทยมากกว่า 5,000 คน ทางกองทัพอากาศ เตรียมส่งอากาศยานเป็นเครื่องบิน A-340 ซึ่งจากจำนวนประชาชนที่จะเดินทางกลับมายังประเทศไทยมีจำนวนมาก ทำให้กองทัพอากาศจะต้องบินไปรับคนไทยในประเทศอิสราเอลจำนวนหลายเที่ยวบิน ถึงแม้ว่าจะมีสายการบินพาณิชย์ที่จะเข้ามาร่วมบินรับคนไทยกลับมายังประเทศด้วยแล้วนั้น แต่ด้วยระยะทางที่ไกล และต้องมีจำนวนเที่ยวบินหลายเที่ยวบิน จึงทำให้มีนักบินไม่เพียงพอ โดยเฉพาะนักบินแอร์บัส A340 ทางกองทัพอากาศจึงอยู่ระหว่างเรียกกำลังพลสำรอง ตามระบบที่จัดเตรียมไว้ในยามจำเป็น โดยจะขอให้นักบิน Airbus 340 จากการบินไทยที่มีประสบการณ์ มีความคุ้นเคยเส้นทาง และเคยบินมากับเครื่องแบบนี้แล้ว ซึ่งประสานงานกันแล้ว มีนักบินการบินไทยหลายคนพร้อมมาร่วมบินกับนักบินของกองทัพอากาศ โดยจะใช้เครื่องบินของกองทัพอากาศ เพื่อให้การหมุนเวียนและการพักผ่อนของนักบิน (Crew rest) ตามกฎการบินเพียงพอ ปลอดภัยต่อการบินเป็นไปตามมาตรฐานสากลเพราะกองทัพอากาศจะต้องบิน A-340 ต่อเนื่องหลายเที่ยวบิน เพื่อไปรับพี่น้องคนไทยในอิสราเอล   ข่าวจาก : ข่าวสด

แรงงานไทย ใน อิสราเอล ยอดดับพุ่ง 20ศพ ถูกจับเพิ่มเป็น 14ราย

11 ต.ค.2566 น.ส.กาญจนา ภัทรโชค อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศกล่าวถึงผลกระทบต่อแรงงานไทยในสถานการณ์ความรุนแรงในอิสราเอล ว่า ข้อมูลจากแรงงานในพื้นที่พบมีผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 20 ราย และสถานทูตไทยในกรุงเทลอาวีฟ รายงานผู้บาดเจ็บเพิ่มเติมอีก 4 ราย รวมเป็น 13 ราย และผู้ที่ถูกจับกุมไปเพิ่มเติมอีก 3 ราย เป็น 14 ราย น.ส.กาญจนา กล่าวต่อว่า และยังไม่ทราบสถานะความปลอดภัย จากที่ฮามาสระบุว่าจับตัวประกันไปรวม 150 คน นอกจากนี้ ได้อพยพแรงงานไทยไปที่ปลอดภัยกว่า 100 คนแล้ว และมีผู้ขอกลับไทย 5,019 คน ส่วนที่ไม่ขอกลับ 61 คน จากแรงงานไทยในพื้นที่สู้รบใกล้ฉนวนกาซาราว 5,000 คน และทั่วประเทศราว 30,000 คน สำหรับผู้บาดเจ็บ น.ส.พรรณนภา จันทรารมย์ เอกอัครราชทูตไทยในอิสราเอล ได้มีโอกาสไปเยี่ยมผู้ที่บาดเจ็บสาหัสในโรงพยาบาลใกล้กรุงเทลอาวีฟ และย้ำว่ารัฐบาลไม่ได้ทอดทิ้งแรงงานไทย   ข่าวจาก : ข่าวสด

กต.เผยความคืบหน้าเหตุไม่สงบ ในอิสราเอล คนไทยเสียชีวิต 12 ราย เจ็บ 8 และโดนจับตัว 11 ราย

จากกรณี วันที่ 8 ตุลาคม 2566 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรักษาการนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมศูนย์สถานการณ์ฉุกเฉินจากสถานการณ์ความไม่สงบในอิสราเอล โดยมีรายงานคนไทยพำนักอยู่ที่อิสราเอลประมาณ 30,000 คน อยู่ใกล้กับฉนวนกาซ่าที่เกิดความรุนแรงประมาณ 5,000 คน ส่วนใหญ่เป็นแรงงานภาคการเกษตร ได้รับรายงานว่ามีคนไทยเสียชีวิตทั้งหมด 12 ศพ ได้รับการยืนยันจากทางการอิสราเอลแล้ว 2 ศพ ส่วนอีก 10 คน ได้รับทราบข้อมูลจากนายจ้าง โดยยังไม่มีชื่อและต้องรอการตรวจสอบจากทางการอิสราเอลต่อไป ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บ 8 คน โดยบาดเจ็บสาหัส 2 คน และถูกลักพาตัว 11 คน ที่ประชุมเน้นเตรียมความพร้อมของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเมื่อสถานการณ์เอื้ออำนวยจำเป็นต้องอพยพคนไทยจะดำเนินการได้อย่างทันท่วงที และพิจารณาร่วมกับคณะทูตในอิสราเอลในการอพยพคนไทยออกมา เห็นควรดำเนินการ อพยพคนไทยในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบออกไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย แสวงหามิตรประเทศในการอพยพคนไทย กองทัพอากาศพร้อมในการอพยพคนไทย ภายใน 24 ชั่วโมง การเดินทางกลับประเทศไทยเป็นไปตามความสมัครใจของคนไทย ขณะที่ นายจักรพงษ์ แสงมณี รมช.การต่างประเทศ ทวีตข้อความใน X ทวิตเตอร์ ระบุว่า […]

หนุ่มอุดร ถูกจับภรรยา ที่อิสราเอล ยังไม่รู้ชะตากรรม

8 ต.ค. 2566 ที่บ้านเลขที่ 56 หมู่ 1 บ้านหินโงม ต.หินโงม อ.สร้างคอม จ.อุดรธานี นางเขียน พันธ์ฆ้อง อายุ 85 ปี แม่ของนายบุญถม พันธ์ฆ้อง อายุ 45 ปี หนึ่งในแรงงานไทยที่ถูกถูกจับที่อิสราเอล เปิดเผยว่า ตนมีลูกทั้งหมด 9 คน นายบุญถม เป็นลูกคนสุดท้อง ไปทำงานที่ประเทศอิสราเอลหลายปีแล้ว หลังรู้ข่าวว่าลูกชายถูกจับก็เป็นห่วงลูกชายจนกินไม่ได้นอนไม่หลับ ขณะที่นางอุไร จันทะชาติ อายุ 61 ปี พี่สาวนายบุญถม เปิดเผยว่า น้องชายไปทำงานประเทศอิสราเอลได้ 5 ปีกว่าแล้ว พอรู้ข่าวก็ตกใจทั้งแม่และพี่สาวก็เป็นห่วงน้องชายมาก คิดถึงน้องกลัวน้องเป็นอันตราย อยากให้มีชีวิตรอดปลอดภัยกลับมาหาแม่และพี่ ๆ ทุกคนเป็นห่วง ขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยปกปักรักษาให้น้องชายและน้องสะใภ้รอดปลอดภัย และอยากวิงวอนให้เจ้าหน้าที่ช่วยน้องชายและคนไทยทุกคนที่ถูกจับด้วย ด้านนายนพดล จงสมชัย แรงงานจังหวัดอุดรธานี ลงพื้นที่ บ้านเลขที่ 56 หมู่ 1 […]

นายกฯกังวลคนไทยโดนจับ ประณามโจมตีอิสราเอล

7 ต.ค.2566 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ทวีตข้อความ ประณาม การโจมตีอิสราเอลที่ไร้มนุษยธรรมว่า “ผมขอประณามการโจมตีอิสราเอล การโจมตีที่ไร้มนุษยธรรมที่ทำให้ผู้บริสุทธิ์ต้องสูญเสียชีวิตและบาดเจ็บ และขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อรัฐบาลและประชาชนอิสราเอล เหตุการณ์นี้ไม่สมควรเกิดขึ้น และผมขอร่วมกับประชาคมโลกประณามการกระทำดังกล่าว ผมได้สั่งการให้กองทัพอากาศเตรียมพร้อมเครื่อง Airbus A340 และ C-130 อพยพคนไทยออกจาก อิสราเอลทันที ทาง พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) รับทราบและพร้อมปฏิบัติการ ผมติดตามสถานการณ์ร่วมกับกระทรวงต่างประเทศอย่างใกล้ชิด และมีความกังวลใจที่เห็นรายงานเข้ามาว่ามีแรงงานไทยถูกจับไป 2 คน หรือมากกว่า ตอนนี้กำลังยืนยันข้อมูลจากทางการอิสราเอลอยู่ ทางกองทัพและหน่วยแพทย์ฉุกเฉินเตรียมความพร้อม ผมต้องการให้คนไทยทุกคนได้กลับบ้านอย่างปลอดภัยครับ   ข่าวจาก : ข่าวสด

ยอดฝีมือ! ศัลยแพทย์ผ่าตัดเย็บหัว ด.ช.วัย12 ได้สำเร็จ หลังถูกรถชน-คอเกือบขาด

เว็บไซต์ต่างประเทศ รายงานเคสสุดเหลือเชื่อของคนไข้รายหนึ่งในอิสราเอล โดยศัลแพทย์ของโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในกรุงเยรูซาเล็มได้ทำการผ่าตัดเย็บศีรษะเด็กชายรายหนึ่งให้เข้าที่ได้สำเร็จ หลังจากเกิดอุบัติเหตุรถชนขณะขี่จักรยานทำคอเกือบขาด ตามรายงานของสื่อท้องถิ่น เผยว่า ด.ช.สุไลมาน ฮัสซัน ชาวปาเลสไตน์วัย 12 ปีอาศัยอยู่ในเขตเวสต์แบงก์ ประสบอุบัติเหตุรถชนขณะที่เขาขี่จักรยาน ทำให้กระโหลกศีรษะหลุดออกจากส่วนยอดของกระดูกสันหลัง ซึ่งแพทย์ระบุว่า ศีรษะของเด็กชายคนดังกล่าวเกือบหลุดออกจากฐานคอของเขา ขณะที่ทางด้าน ดร.โอฮัด ไอนาฟ ผู้เชี่ยวชาญด้านกระดูกและข้อซึ่งเป็นผู้นำการผ่าตัด กล่าวว่า การผ่าตัดครั้งนี้ได้ใช้เวลาหลายชั่วโมง และต้องใช้แผ่นโลหะยึดกระดูกในส่วนที่เสียหายเพื่อช่วยชีวิตเด็กคนดังกล่าวได้ ซึ่งแพทย์เผยว่าโอกาสเป็นตายของเด็กคนดังกล่าวเท่าๆ กัน นายแพทย์ ไอนาฟ กล่าวต่ออีกว่า สาเหตุที่เด็กคนนี้รอดมาได้ต้องขอบคุณความสามารถของแพทย์และเทคโนโลยีล้ำสมัยในห้องผ่าตัด หลังจากนี้ต้องติดตามการฟื้นตัวของเขาอย่างใกล้ชิด อย่างไรก็ตาม หลังจากการผ่าตัดประสบความสำเร็จ แพทย์ได้เผยว่า เด็กชายรายนี้ไม่มีความบกพร่องทางระบบประสาท ประสาทสัมผัสหรือการเคลื่อนไหวผิดปกติแต่อย่างใด และเขาสามารถทำงานได้ตามปกติ รวมถึงเดินได้โดยไม่ต้องมีคนช่วย ทางด้านคุณพ่อของเด็กชาย กล่าวขอบคุณแพทย์ที่ช่วยชีวิตลูกชายของเขาไว้ด้วยความเป็นมืออาชีพ เทคโนโลยี และการตัดสินใจอย่างรวดเร็วของทีมศัลยกรรมกระดูกอีกด้วย ทั้งนี้ สำหรับปฏิบัติการสุดเหลือเชื่อนี้เกิดขึ้นมาตั้งแต่เดือนมิถุนายน แต่ทางแพทย์เพิ่งประกาศในช่วงเดือนกรกฎาคม เพราะต้องการให้มั่นใจว่าเด็กชายคนดังกล่าวหายดี โดยล่าสุดเด็กชายฮัสซานได้รับการปล่อยตัวจากโรงพยาบาลแล้ว และอยู่ภายใต้การจับตามองของทางโรงพยาบาลอย่างใกล้ชิด   ข่าวจาก : ข่าวสด

อิสราเอลพบ “ถ้วยสัตย์สาบาน” เก่าแก่กว่า1,500ปี-ฝังใต้พื้นบ้าน

อิสราเอลตื่นเต้นพบ “ถ้วยสัตย์สาบาน” – ซินหัว และ ไทมส์ออฟอิสราเอล รายงานว่า องค์การโบราณวัตถุอิสราเอล (ไอเอเอ) เปิดเผยเมื่อวันที่ 7 มี.ค. ว่าค้นพบถ้วยโบราณอายุราว 1,500 ปี ที่เมืองเยรูซาเล็ม ด้านในถ้วยมีคาถาและบทสวดปลุกเสกภาษาฮีบรูและบาบิโลน-อาราเมอิก และเป็นหนึ่งในโบราณวัตถุหลายร้อยชิ้นที่องค์การฯ และตำรวจอิสราเอลตรวจยึดได้จากบ้านพักหลังหนึ่งในเยรูซาเล็ม ถ้วยมนตร์คาถาดังกล่าว หรือที่รู้จักในชื่อ “ถ้วยสัตย์สาบาน” มีที่มาจากเมโสโปเตเมีย หรือพื้นที่ของประเทศอิรักในปัจจุบัน โดยถูกใช้เป็นเครื่องรางสำหรับต่อสู้กับคำสาป ปีศาจ โรคภัยไข้เจ็บ และแมลงศัตรูพืช องค์การโบราณวัตถุอิสราเอลเผยว่าการฝังถ้วยรูปแบบนี้ไว้ใต้พื้นบ้านเป็นแนวปฏิบัติที่พบได้ทั่วไป เหล่าช่างฝีมือจะเขียนคาถาภายในถ้วยตามความต้องการของลูกค้า โดยถ้วยใบหนึ่งมีรูปวาด “ปีศาจรัตติกาล” ซึ่งเป็นตัวแทนของภูติผีที่ต้องการจะปัดเป่า การค้นพบครั้งนี้ยังพบวัตถุโบราณทำจากกระดูกและงาช้างหายาก อายุ 3,000 ปี จำนวนหนึ่ง ซึ่งมีสไตล์แบบฟินีเซียนและมีลวดลายกลิ่นอายอียิปต์ เช่นฉากที่มาจากโลกของสัตว์ รวมถึงพบเครื่องประดับทรงเลขาคณิตจำนวนหนึ่งด้วย โบราณวัตถุชิ้นหนึ่งที่พบมีภาพกริฟฟอน หรือสิงโตมีปีกที่ใบหน้าเป็นมนุษย์สองตัวกำลังหันหน้าเข้าหากัน ส่วนวัตถุอีกชิ้นจารึกรายละเอียดการเดินทัพของขบวนสิงโต 4 ปีก ซึ่งวัตถุทั้งหมดนี้ล้วนเป็นวัตถุเพื่อการประดับตกแต่งที่ถูกยึดไว้กับเฟอร์นิเจอร์ไม้ด้วยตะปู ทั้งนี้ องค์การโบราณวัตถุอิสราเอลประเมินว่าบรรดาวัตถุจากงาช้างข้างต้นถูกขุดมาจากเนินเขาในภูมิภาคสะมาเรียอย่างผิดกฎหมาย   ข่าวจาก : ข่าวสด

อิสราเอล เปิดรับแรงงานภาคเกษตร 6,500 คน เงินเดือน 5.5 หมื่น เริ่มสมัคร 15 พ.ย.นี้

ข่าวดี! อิสราเอลต้องการแรงงานภาคเกษตร 6,500 คน เปิดรับสมัคร 15-25 พ.ย.นี้ เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรมการจัดหางาน เปิดรับสมัคร และคัดเลือกคนหางานเพื่อไปทำงานภาคเกษตรในรัฐอิสราเอล ภายใต้โครงการ “ความร่วมมือไทย – อิสราเอลเพื่อการจัดหางาน” (TIC) ครั้งที่ 16 ระหว่างวันที่ 15 – 25 พฤศจิกายนนี้ นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา และรองนายกรัฐมนตรี พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ซึ่งกำกับดูแลกระทรวงแรงงานให้ความสำคัญกับการส่งเสริมแรงงานไทยให้เดินทางไปทำงานต่างประเทศ เพื่อมีงานทำ นำรายได้ ประสบการณ์และทักษะที่ได้รับจากการทำงานในต่างประเทศมาพัฒนาตนเองหรือต่อยอดกิจการ โดยในปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 รัฐอิสราเอลเพิ่มโควตารับแรงงานภาคเกษตรจากประเทศไทยเป็น 6,500 คน มากกว่าปีที่แล้วที่ให้โควตาไว้ 5,000 คน ซึ่งผู้ที่สนใจสามารถสมัครด้วยตนเองได้ที่เว็บไซต์ https://toea.doe.go.th ระหว่างวันที่ 15 – 25 […]

อิสราเอล ทำลายทิ้ง วัคซีนไฟเซอร์ 80,000 โดส หมดอายุ

อิสราเอล ทำลายทิ้ง วัคซีนไฟเซอร์ 80,000 โดส หมดอายุ เว็บไซต์ไทม์ออฟอิสราเอล รายงานเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม ระบุว่าอิสราเอล เตรียมที่จะต้องทิ้งวัคซีนโควิด-19 ยี่ห้องไฟเซอร์ จำนวน 80,000 โดส มูลค่า 1.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 59 ล้านบาท ลงเนื่องจากวัคซีนกำลังจะหมดอายุลงในเที่ยงคืนวันเดียวกัน ไทม์ออฟอิสราเอล รายงานโดยอ้าง สถานีโทรทัศน์แชนแนล 12 ซึ่งรายงานว่า ไฟเซอร์ปฏิเสธที่จะยืดระยะเวลาหมดอายุของวัคซีนออกไป ส่วนรัฐบาลอิสราเอลยังไม่เคยทิ้งวัคซีนหมดอายุจำนวนมากเท่านี้มาก่อน รายงานระบุว่า อิสราเอล เคยบริหารจัดการวัคซีนที่กำลังหมดอายุจำนวน 700,000 โดส ด้วยการส่งวัคซีนดังกล่าวให้กับรัฐบาลเกาหลีใต้ ซึ่งตกลงที่จะส่งวัคซีนจำนวนเท่ากันคือให้ภายในปีนี้ ทั้งนี้ การต้องทิ้งวัคซีนทั้ง 80,000 โดส ดังกล่าวมีขึ้นเพียง 1 วันหลังจากอิสราเอลเริ่มฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 ให้กับประชากรกลุ่มที่มีอายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไป เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นอีกครั้ง โดยจำนวนผู้ป่วยหนักเพิ่มขึ้นเป็น 200 ราย ครั้งแรกเมื่อวันที่ 31 […]

1 2
error: