จ.ม.ขู่เอาชีวิต ‘อัยการ’ เกลือเป็นหนอนหรือไม่ รู้ได้ไงห้องอัยการอยู่ตรงไหน

Advertisement จากกรณีลูกน้อง เสี่ยแป้ง นาโหนด ส่งจดหมายข่มขู่เอาชีวิตอัยการท่านหนึ่ง ซึ่งมีตำแหน่งเป็นอัยการผู้เชี่ยวชาญ สำนักงานอัยการภาค 9 รักษาการในตำแหน่งอัยการจังหวัดคดีศาลแขวงสงขลา และทวงเงินคืนอ้างรวมหัวกันหักหลัง เสี่ยแป้ง นั้น Advertisement คืบหน้าล่าสุดเมื่อวันที่ 1 พ.ย. ที่ กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธร จ.สงขลา พ.ต.อ.ดุสิต พรหมสิน ผกก.สส.ภ.จว.สงขลา และ พ.ต.ท.เอกภพ มุสิกปักษ์ รอง ผกก.สส.ภ.จว.สงขลา ได้เรียกประชุมหัวหน้าชุดสืบสวนของ กก.สส.ภ.จว.สงขลา ทุกชุด เพื่อแบ่งงานลงพื้นที่เร่งสืบสวนหาตัวคนที่นำจดหมายไปวาง Advertisement โดยในทางการสืบสวนล่าสุด ทราบว่าจดหมายถูกนำไปวางไว้ที่หน้าห้องทำงานของอัยการท่านนี้ ภายในสำนักงานอัยการภาค 9 เมื่อวันที่ 30 ต.ค. ที่ผ่านมา และทางชุดสืบสวนได้ไปพบอัยการท่านนี้ เพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมในเรื่องนี้ทั้งหมด เพื่อเป็นแนวทางการสืบสวนที่มาที่ไป   ข่าวจาก : dailynews

หนุ่ม รปภ. มุ่งมั่นสอบติดเป็นอัยการได้สำเร็จ เผยวิธีทวนเนื้อหาสอบใน1สัปดาห์ โดยไม่ต้องเปิดหนังสือเล่มใหญ่ ๆ หนา ๆ

ผู้ใช้เฟซบุ๊ก “อุดม สุขทอง” ผู้อำนวยการส่วนรักษาการ ทัณฑสถานวัยหนุ่มกลาง ได้ออกมาแชร์เรื่องราว ที่สร้างแรงบันดาลใจไม่น้อย ของอดีตเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย มหาวิทยาลัยรามคำแหงไฟแรง สอบติดอัยการผู้ช่วย โดยระบุว่า “ความพยายามไม่เคยทรยศใคร ขอแสดงความยินดีกับ คุณผดุงเกียรติ พรหมแก้ว อดีต จนท.รปภ.ม.รามคำแหง (สังกัด อผศ.) มีความพากเพียรพยายามจนสอบติดอัยการผู้ช่วย (รุ่น 64) สนามใหญ่ ลำดับ 47 ขอจงมีความเจริญก้าวหน้า และผดุงความยุติธรรมให้สมกับความคาดหวังของประชาชนต่อไป” ขณะเดียวกัน ทางเพจ “ท่านครับ”ก็ได้ออกมาแสดงความยินดี พร้อมแชร์เคล็ดลับ การเตรียมความพร้อมของอดีตรปภ.จนสอบอัยการจนสำเร็จ โดยสิ่งแรกที่ทำ คือ วางแผนการใช้ชีวิต ด้วยการใช้เวลากลางคืนในการอ่านหนังสือ ในช่วงทำงาน เพราะเป็นเวลาเงียบสงบ เหมาะแก่การอ่านหนังสือ “จากการทำงานรปภ.ดังกล่าว ทำให้ผู้เขียนได้ทำตามแผนได้อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากมีเวลามากในการอ่านหนังสือไม่เครียดกับงานที่ทำและมีสมาธิอยู่กับการอ่านหนังสือ Q : ทำไมจึงต้องทำงานนี้? A : ผู้เขียนวางแผนการอ่านหนังสือในแบบของตัวเอง ซึ่งเมื่อคำนวณแล้วต้องใช้เวลามากในการทำตามแผนที่วางไว้ จึงจำเป็นต้องหางานที่ให้เวลาที่เหมาะสมแก่การนั้น Q : แผนการอ่านคือ? A : […]

ยังไม่จบ! “คดีลุงพล” อัยการอุทธรณ์โทษจาก “รอลงอาญา” เป็น “จำคุก”

จากกรณีเมื่อวันที่ 21 เมษายน 2565 ศาลมุกดาหารได้อ่านคำพิพากษาศาลชั้นต้นเกี่ยวกับ นายไชย์พล วิภา หรือ ลุงพล และ นายธีรพงษ์ (สงวนนามสกุล) และนายนิคม (สงวนนามสกุล) สองยูทูบเบอร์ ถูกดำเนินคดีในข้อหา ความผิดร่วมกันทำไม้หวงห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ 2484 มาตรา 11 ร่วมกันทำไม้หวงห้ามในเขตป่าสงวนแห่งชาติ อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ 2507 มาตรา 14 ศาลพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยที่ 1 มีกำหนด 2 ปี 3 เดือน ปรับ 45,000 บาท จำคุกจำเลยที่ 2 และที่ 3 มีกำหนด 1 ปี ปรับคนละ 20,000 บาท ให้จำเลยที่ 1 ชดใช้ค่าเสียหายกรมป่าไม้จำนวน 23,054 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้ 2 […]

โปรดเกล้าฯ ให้ 3 อัยการพ้นจากตำแหน่ง-เรียกคืนเครื่องราชฯ ฐานทำผิดวินัยร้ายแรง

26 สิงหาคม 2565 ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ สำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง ให้ข้าราชการอัยการพ้นจากตำแหน่งและเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ความว่า มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ข้าราชการอัยการพ้นจากตำแหน่ง เนื่องจากประธานคณะกรรมการอัยการ โดยมติคณะกรรมการอัยการได้มีคำสั่งลงโทษให้ออกจากราชการ จำนวน 1 ราย และไล่ออกจากราชการ จำนวน 2 ราย รวม 3 ราย ตามมาตรา 55 (7) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการฝ่ายอัยการ พ.ศ. 2553 และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้เรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ที่ข้าราชการอัยการทั้ง 3 ราย ได้รับพระราชทาน ตามข้อ 6 และข้อ 7 (4) ของระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ พ.ศ. 2548 ดังนี้ 1. นายไพศาล เดี่ยวพันธุ์ พ้นจากตำแหน่ง อัยการประจำสำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีศาลแขวง 5 สำนักงานคดีศาลแขวง ตั้งแต่วันที่ 26 ตุลาคม 2561 เนื่องจากกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรงและถูกลงโทษให้ออกจากราชการ […]

อัยการเผยข้อ กม. เคส ตร.ตั้งด่านตรวจค้นรถ ปชช.ถ้าเสียหายฟ้องได้

อัยการเผยข้อ กม. เคส ตร.ตั้งด่านตรวจค้นรถ ปชช.ถ้าเสียหายฟ้องได้ตาม พรบ.ความรับผิดทางละเมิด กรณีปรากฎคลิปไวรัลมีผู้เข้าชม 4 ล้านคนสาวผู้ใช้ Tiktok manaao654525 โพสต์คลิปการปฏิบัติหน้าที่ด่านตรวจใน อ.เทิง จ.เชียงราย เอาไขควงมางัดฝาท้ายรถออกทั้งแผง ซึ่งในคลิปเจ้าของรถยังเผยว่ามีการขอขอแกะเครื่องเสียงด้วย ซึ่งก็มีการเเสดงความคิดเห็นกันว่า สามารถทำได้หรือไม่ที่ ตร.ตั้งด่านยาเสพติด แกะรถชาวบ้านเป็นรอยเสียหาย เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2565 เเหล่งข่าวระดับสูงจากสำนักงานอัยการสูงสุดได้ให้ความเห็นข้อกฎหมายว่าการตรวจค้นยานพาหนะของเจ้าหน้าที่ดังกล่าวไม่ใช่การตรวจค้นที่รโหฐาน ที่เป็นไปตาม ป.วิ อาญามาตรา 92 ที่บัญญัติว่า ห้ามมิให้ ค้นในที่รโหฐาน โดยไม่มีหมายค้น หรือคำสั่งของศาล การตรวจค้นดังกล่าวจึงไม่ต้องมีหมายศาลก็ได้ เเต่ประเด็นต่อมาที่ต้องมองคือการตรวจค้นพาหนะดังกล่าวเป็นไปโดยสุจริตหรือไม่ เพราะเเม้การค้นตัว ค้นยานพาหนะ อย่างรถยนต์ไม่มีต้องมีหมายศาลอย่างที่ได้อธิบายศาล เเต่ต้องมีเหตุเเห่งการค้น ตรงนี้เป็นหลัก 1.ถ้าทำโดยไม่สุจริต เช่นตำรวจไปตั้งด่านตรวจเปิดค้นทุกคันโดยไม่มีเหตุอันควรสงสัยตามสมควรก็อาจจะเข้าข่ายเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่มิชอบซึ่งจะมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ได้ 2.ในกรณีมีเหตุอันสงสัยตามสมควร เช่น มีสายรายงานว่าจะมีรถลักษณะนี้ มีหลักฐานบันทึกการรายงาน ชัดเจน เป็นขั้นเป็นตอนผ่านไปถึงผู้บังคับบัญชา เเต่เมื่อมีการค้นเเล้วอาจจะไม่เจอยาเสพติด หรือสิ่งผิดกฎหมาย เเต่เจ้าหน้าที่ก็กระทำโดยสุจริต เเละเมื่อหากเกิดความเสียหายก็จะเข้าเรื่องการละเมิด […]

error: