หนุ่มอ้างสู้ชีวิต กินข้าวไปขับรถไป ให้คนข้าง ๆ บังคับพวงมาลัย

Advertisement หนุ่มลงคลิป กินข้าวไปขับรถไป ให้คนข้าง ๆ บังคับพวงมาลัย พูดคำคมภูมิใจที่เป็นลูกคนจน เพราะอดทนมากกว่าคนอื่น งานนี้เจอวิจารณ์สนั่น จอดรถกินข้าว 5 นาทีเพื่อความปลอดภัยของตัวเองและเพื่อนร่วมถนนดีกว่า Advertisement วันที่ 2 เมษายน 2565 เฟซบุ๊ก เฮียขับรถ ลงคลิปชายหนุ่มคนหนึ่ง มีการลงภาพจากกล้องในรถพร้อมกับพูดคำคมสู้ชีวิต คาดว่าอาจจะอยากให้ดูความลำบากในการทำงานขับรถ ที่บางช่วงไม่มีเวลากินข้าว จนต้องขับไปกินไป โดยให้คนนั่งข้าง ๆ บังคับพวกมาลัยให้ ในคลิปจะเห็นว่าคนขับนั้นกำลังนั่งกินข้าวกล่อง พร้อมกับเหยียบคันเร่งขับรถ แต่ไม่ได้บังคับพวงมาลัยเอง โดยให้คนข้าง ๆ เป็นคนบังคับพวงมาลัยแทน โดยขับที่ความเร็วประมาณ 50-60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งด้วยการบังคับรถแบบนี้ บางช่วงจะเห็นว่ารถนั้นไม่ได้ขับตรงเลน แต่จะกินเลนออกไปด้านซ้ายตลอด ซึ่งแม้ถนนจะโล่งเป็นส่วนใหญ่ แต่บางช่วงก็มีรถสวนมาเลนขวา หรือรถจากแยกฝั่งซ้ายเช่นกัน ในคลิปชายคนขับบรรยายว่า “การเดินทางของชีวิต มันก็ต้องมีทั้งสุขและทุกข์ปะปนกันไปนะครับทุกคน ผมเนี่ยโคตรภูมิใจเลยนะที่เกิดมาเป็นลูกคนจน เพราะมันสอนให้ผมอดทนมากกว่าคนอื่นนะครับ ไม่ว่าทางข้างหน้าจะเป็นยังไง ถ้าไม่กล้าก้าวออกไปก็อยู่ที่เดิมนะครับทุกคน ผมฝากไว้ให้คิดละกัน หวานเจี๊ยบ” Advertisement ทั้งนี้ หลังคลิปดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก […]

สูญรายได้หลักแสน โควิดพ่นพิษ ทำทัวร์เจ๊ง 2ผัวเมียไม่ยอมแพ้ เพาะหอยขายสู้ชีวิต

เจอโควิด ทำธุรกิจทัวร์เจ๊ง รายได้หลักแสนหายวับ ต้องหอบลูกกลับบ้านเกิด หันมาเพาะหอยโข่งขาย สู้ชีวิต ไม่ยอมแพ้ แม้รายได้หลักหมื่น ก็ยังดูแลครอบครัวได้ วันที่ 9 ก.ย.2564 นายทัศไนย ส่งศรี อายุ 42 ปีและน.ส.วิกันดา คงพงษ์ อายุ 42 ปี สองสามีภรรยาอดีตเจ้าของธุรกิจทัวร์ในพื้นที่หาดอ่าวนาง จ.กระบี่ แต่เจอพิษโควิด-19 ทำให้รายได้เฉลี่ย 6 หลักต่อเดือนหายไป จนต้องเดินทางกลับมาที่ต.บ้านควน อ.เมือง จ.ตรังประกอบอาชีพเพาะหอยโข่งขายรายได้เหลือเดือนละหลักหมื่น แต่ก็ยังสามารถจุนเจือครอบครัวได้ นายทัศไนยเผยว่า ครอบครัวตนมีด้วยกัน 5 คน มีลูก 3 คน คนโตเป็นชายอายุ 11 ปี คนรองเป็นหญิง อายุ 8 ขวบ คนเล็กเป็นหญิงอายุเพียง 4 ขวบ เมื่อ 5 เดือนก่อน ธุรกิจทัวร์เจอพิษโควิดจนต้องปิดตัวลง ทั้งบ้านไม่มีรายได้เข้ามา จนต้องกลับมาอยู่ที่จ.ตรีง แล้วใช้พื้นที่รอบบ้านเพาะเลี้ยงหอยโข่งขาย […]

เด็กหญิง “บาสเก็ตบอล” ไม่ยอมเเพ้ต่อโชคชะตา เธอต่อสู้อุปสรรค์จนล่าสุดชีวิตเธอเปลี่ยนไปเป็นแบบนี้แล้ว!!(มีคลิป)

วันนี้ทีมงานมีเรื่องจะมาเล่าให้ฟัง หากคุณกำลังท้อแท้ และยอมแพ้กับโชคชะตา เรื่องราวของหนูน้อยคนนี้อาจสร้างแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตให้คุณได้ หนูน้อยคนนี้ มีชื่อว่า Qian Hongyan แห่งประเทศจีน เธอสูญเสียขาทั้งสองข้างของเธอในอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่น่ากลัวในปี 2000 ส่งผลให้ขาทั้งสองข้างของเธอขาด ประกอบกับครอบครัวที่มีฐานะยากจน ทำให้เธอมีเพียงลูกบาสเกตบอล และแปรงขัดพื้นที่พ่อแม่ของเธอทำให้ เป็นอุปกรณ์ในการช่วยดำรงชีวิต เธอใช้เวลาบนลูกบาสเกตบอลถึง 5 ปี เปลี่ยนลูกบาสมาแล้ว 7 ลูก เธอได้เข้ารับการดูแลจากศูนย์พักฟื้น ในกรุงปักกิ่งตอนใต้ของประเทศจีน ทีมแพทย์ได้ให้คำสัญญากับเธอว่า จะทำให้เธอสามารถเดินได้ภายใน 6 เดือนและข่าวดีก็มาถึง เมื่อล่าสุดทีมแพทย์ได้สร้างขาเทียมแบบพิเศษสำหรับเธอ (จากเงินบริจาคถึง 5,600 ปอนด์) โดยจะติดขาเทียมไว้แน่นกับช่วงเอว ซึ่งช่วยให้เธอเดินและดำรงชีวิตได้อย่างปกติมากที่สุดเธอสามารถเดินไปมาระหว่างบ้าน และโรงเรียนได้สะดวกมากขึ้น แต่ความเป็นนักสู้ของเธอไม่ได้หยุดอยู่แค่การเดินได้เท่านั้น เธอได้เข้าร่วมสโมสรว่ายน้ำของประเทศสำหรับคนพิการ และด้วยความพยายามอย่างหนัก เมื่อเธออายุ 18 ปี เธอได้เป็นนักกีฬาว่ายน้ำ และได้รับการยกย่องสำหรับการชนะเลิศการแข่งขันว่ายน้ำ 100 เมตรหญิง ประเภทว่ายกบในการแข่งขันว่ายน้ำกีฬาคนพิการที่เมืองยูนนาน ชมคลิป ขอบคุณที่มาจาก : firsttoknow.com

เผยชีวิต “ยาซ่า” ผู้ชนะเลิศคัดลายมือภาษาไทย 2557

เผยชีวิต “ยาซ่า” ผู้ชนะเลิศคัดลายมือภาษาไทย 2557   เด็กชายยาซ่า เด็กชายชาวพม่าคนหนึ่งที่สนใจกับการเรียนและเขียนอ่านภาษาไทยส่งผลให้ได้รับรางวัล การเเข่งขันทักษะการคัดลายมือ ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-3 รางวัลชนะเลิศระดับประเทศ ในงานวันภาษาไทยแห่งชาติประจำปี พ.ศ. 2557  [ads=center]   ยาซ่า อาศัยอยู่กับครอบครัว ‘อายี่’ พ่อวัย 37 ปี และ ‘เฉ่ง’ แม่วัย 34 อาชีพรับจ้างทำสวนทำไร่ มีน้องชายอีกสองคนอาศัยอยู่ในกระท่อมไม้หลังเล็กๆปะด้วยสังกะสี ที่ขอเช่าที่จากนายจ้างประมาณ 1 งาน ปีละ 1,500 บาท ภายในหมู่บ้านห้วยนกแล หมู่ 9 ตำบลช่องแคบ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก โดยแบ่งที่อีกส่วนไว้ทำสวนผัก สวนดอกไม้ไว้ขายเพื่อจุนเจือครอบครัว ปัจจุบันพ่อต้องออกไปทำงานคนเดียว ส่วนแม่เลี้ยงน้องชายคนเล็กอายุ 4 ขวบ คนกลางไปเรียนในศูนย์การเรียนของพม่า   อายี่ พ่อ ยาซ่า บอกว่าที่ลูกได้รับรางวัลคัดไทย ไม่รู้ว่า มันสำคัญและยิ่งใหญ่แค่ไหน แต่ถ้ายังมีงานทำและมีเงินจะส่ง […]

error: