ร้านค้าโวย ออกร้านงานบิ๊ก เมาท์เท่น เจ๊งยับ คนเดินมาไม่ถึง ขาดทุน2แสน

Advertisement (14 ธันวาคม 2565) มีฟีดแบ็กจากทางผู้ร่วมงานไปแล้ว ทางฝั่งพ่อค้าแม่ขายก็เริ่มมีฟีดแบ็กออกมาบ้าง โดยมีพ่อค้าอาหารรายหนึ่งได้โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊ก ระบายประสบการณ์ขายของในงานนี้ว่า เป็นประสบการณ์ที่จะจำสุดชีวิต เนื่องจากพ่อค้ากับภรรยาไปกู้เงินมาลงทุนกว่า 2 แสนบาท เพราะคำการันตีจากผู้จัดงานกับคำว่า “ต้องเตรียมสินค้าไว้วันละ 2,500 เสิร์ฟ” เห็นแบบนี้ก็ตาลุก คิดว่างานนี้ได้ขายยอดเป็นแสนแน่นอน Advertisement ทว่าการเปิดขายวันแรกเจ็บหนักมาก มองดูแล้วว่ามันไม่ใช่งานมหกรรมคอนเสิร์ต แต่มันคืองานเดินทางไกลแห่งชาติ งานแฟชั่นแห่งยุคและงานแข่งฉี่นานาชาติ พ่อค้ารู้สึกว่าเละเทะมาก การจัดการระบบน้ำ, น้ำแข็ง, ห้องน้ำ, ที่นั่งลูกค้า และความสะดวกของร้านค้ากับค่าที่ 50,000 บาท ไม่มีเลย สรุปขาดทุนย่อยยับกับงานขายฝัน ยอมรับว่าเข็ดแล้วกับงานเดินสาย ตอนนี้สงสารภรรยามาก ต้องยิ้มกลบเกลื่อนความเศร้า ไหนจะเจ๊ง ไหนจะใช้หนี้ ไหนเงินที่เก็บ สูญเปล่ากับคำว่าการันตี ชาวเน็ตแสดงความคิดเห็น ผู้ค้าขายอาหารไม่เหมาะกับกลุ่มเป้าหมาย ก็เลยเจ๊ง อย่างไรก็ตาม มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นว่า อาหารที่พ่อค้าขายเป็นต้มเล้งแซ่บ ดูแล้วไม่น่าจะเหมาะกับกลุ่มลูกค้าในงาน เพราะงานประเภทนี้ถ้าเป็นของทอด ของย่างที่เดินถือกินได้ น่าจะสะดวกกับลูกค้ามากกว่า ซึ่งพ่อค้าก็มาให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ตนได้เพิ่มเมนูราดข้าวไปแล้ว ซึ่งก็ช่วยได้นิดหน่อย เพราะไม่ได้เตรียมการมา ส่วนเหตุผลที่มั่นใจเลือกขายต้มเล้ง […]

ร้านค้าวอนรัฐหยุดเพิ่มค่าแก๊ส ปีนี้ปรับราคา6รอบแล้ว

1 กันยายน ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์การปรับราคาก๊าซหุงต้มเพิ่มอีกกิโลกรัมละ 1 บาท เป็นการปรับราคาที่ปรับมาอย่างต่อเนื่องทุกเดือน ในรอบ 6 เดือนหลังสุดเฉลี่ยแล้วปรับเพิ่มไปถึงถังละ 90 บาทแล้ว ผู้สื่อข่าวสำรวจร้านจำหน่ายก๊าซหุงต้ม และพ่อค้าแม่ค้าที่ประกอบอาชีพขายอาหาร ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า อยากให้ภาครัฐพิจารณาหยุดการปรับเพิ่มก๊าซหุงต้มได้แล้ว เพราะแค่นี้ทั้งคนขายก๊าซและประชาชนก็เดือดร้อนหนัก ด้วยต้นทุนการใช้ชีวิตเพิ่มขึ้นทุกอย่าง ที่ร้านชมบุญการค้า 3 ถนนพระองค์ดำ อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก ร้านจำหน่ายก๊าซหุงต้ม นางจิรวดี วงศ์ชัย เจ้าของร้านได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า การปรับราคาก๊าซหุงต้มครั้งล่าสุด 1 กันยายน 2565 นี้ ปรับเพิ่มอีกกิโลกรัมละ 1 บาท เป็นการปรับเพิ่มอย่างต่อเนื่องมา 6 ครั้งใน 6 เดือนนี้แล้ว และหวังว่าภาครัฐควรจะพิจารณาหยุดการปรับเพิ่มได้แล้ว เพราะตนได้ข่าวว่า ครม.จะมีการพิจารณาว่า เดือนตุลาคมนี้จะมีการปรับเพิ่มก๊าซหุงต้มอีกหรือไม่ การปรับเพิ่ม 6 ครั้งต้นทุนก๊าซหุงต้มพุ่งไปแล้วถังละ 90 บาท ร้านตนไม่ได้เดือดร้อนมากนัก เพราะเพิ่มราคาขาย ตามราคาที่ปรับเพิ่ม แต่เห็นใจประชาชนและพ่อค้าแม่ค้าที่เป็นลูกค้าร้านตน เป็นอย่างมาก ที่ตลาดเทศบาล 4 […]

คลังย้ำร้านค้าร่วมคนละครึ่ง รายได้ถึงต้องยื่นเสียภาษี เกิน1.8ล้านต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม

คลังย้ำชัดร้านค้าร่วมมาตรการคนละครึ่ง ถ้ามีรายได้ถึงเกณฑ์ต้องยื่นเสียภาษี หรือหากเกิน 1.8 ล้านบาทต่อปีต้องจดเสียภาษีมูลค่าเพิ่มด้วย ยันไม่ใช้ฐานข้อมูลร่วมสรรพากร เพื่อตรวจสอบรายได้ นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เปิดเผยว่า รัฐบาลดำเนินโครงการคนละครึ่งเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ลดภาระค่าใช้จ่ายให้แก่ประชาชน และส่งผ่านกำลังซื้อไปสู่ผู้ประกอบการให้มีรายได้เพิ่ม เมื่อผู้ประกอบการมีรายได้เพิ่มขึ้นแล้วและอยู่ในเกณฑ์เสียภาษีตามกฎหมายก็สามารถไปชำระภาษีได้ โดยฐานข้อมูลโครงการคนละครึ่งไม่ได้มีการเชื่อมต่อระบบกับกรมสรรพากรเพื่อตรวจสอบรายได้แต่อย่างใด สำหรับการปฎิบัติตามกฎหมายผู้ประกอบกิจการที่เป็นบุคคลธรรมดาประกอบกิจการแล้วมีรายได้ หากในปี พ.ศ. 2564 มีรายได้ถึงเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนดก็มีหน้าที่ต้องนำรายได้มายื่นแบบแสดงรายการเพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาภายในวันที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2565 ทั้งนี้ การเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเป็นการประเมินตนเองของผู้ประกอบการ โดยมีหน้าที่นำรายได้จากการประกอบการกิจการยื่นเสียภาษีตามข้อเท็จจริง ส่วนพยานหลักฐานที่จะพิสูจน์การมีรายได้ขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริงของการประกอบกิจการ และสามารถนำเอกสารหลักฐานต้นทุนในการประกอบกิจการมาหักค่าใช้จ่ายจากยอดขายเพื่อคำนวณภาษีเงินได้ที่จะต้องชำระ หากไม่มีการเก็บเอกสารหลักฐานต้นทุนก็สามารถเลือกหักค่าใช้จ่ายเป็นการเหมาตามที่กฎหมายกำหนดได้ ซึ่งในบางกรณีก็จะไม่มีภาษีที่ต้องชำระแต่อย่างใด สำหรับผู้ประกอบการมีรายได้จากการขายสินค้าตั้งแต่ 1.8 ล้านบาทต่อปี จะมีภาระหน้าที่ในการเสียภาษีมูลค่าเพิ่มตามที่กฎหมายกำหนดไว้ด้วย ทั้งนี้ กระทรวงการคลังขอชี้แจงประเด็นตามที่มีกระแสข่าวผู้ประกอบการร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่งถูกเรียกเก็บภาษีย้อนหลังว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นกรณีที่ผู้ประกอบการร้านค้าที่จังหวัดขอนแก่นรายหนึ่งรับทราบข่าวการประชาสัมพันธ์ของกรมสรรพากรเกี่ยวกับการยื่นเสียภาษีและสามารถขอคำแนะนำได้จากสรรพากรทั่วประเทศ จึงได้เข้าปรึกษาและขอคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่สรรพากรพื้นที่พร้อมเอกสารหลักฐานเพื่อประสงค์ชำระภาษีให้ถูกต้อง หลังจากที่เจ้าหน้าที่กรมสรรพากรได้ตรวจสอบจากหลักฐานการยื่นของผู้ประกอบการแล้วพบว่า รายได้ของผู้ประกอบการดังกล่าวเกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี เจ้าหน้าที่จึงได้ให้คำแนะนำว่ามีหน้าที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มและเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม และเจ้าหน้าที่ได้คำนวณภาษีเงินได้และภาษีมูลค่าเพิ่ม พร้อมทั้งให้คำแนะนำว่า เบี้ยปรับภาษีมูลค่าเพิ่มสามารถยื่นคำร้องของดเบี้ยปรับได้ ซึ่งผู้ประกอบการรายดังกล่าวก็ได้ยื่นชำระภาษีพร้อมทั้งได้รับการพิจารณางดเบี้ยปรับทำให้มีการชำระภาษีลดลงเรียบร้อยแล้ว   ข่าวจาก : ข่าวสด

เจ้าของคาเฟ่เปิดใจ เจอบ่อยหอบเสื้อผ้าเปลี่ยนถ่ายรูปแต่ไม่ซื้อ โอดไม่ได้ขายแพง

เจ้าของคาเฟ่ เปิดใจหลังเจอลูกค้า หอบของมาอาศัยมุมสวยของร้านถ่ายรูป แต่ไม่ซื้อน้ำสักแก้ว ชี้บางคนหอบเสื้อผ้ามาเปลี่ยนเป็นจริงเป็นจัง พ้อน้ำขายไม่แพงเลย เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 13 ก.ย.64 จากกรณีผู้ใช้เฟสบุ๊ครายหนึ่ง ซึ่งเป็นเจ้าของคาเฟ่ โพสต์ข้อความ ถึงลูกค้าบางคนที่เข้ามาในร้านเพื่อถ่ายรูปวิวสวยๆ แต่ไม่อุดหนุนหรือไม่ซื้อใดๆ บางคน เอากระเป๋าเสื้อผ้ามาเปลี่ยนชุด เพื่อถ่ายรูปขายเสื้อผ้าด้วยซ้ำ นั้น ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ร้าน CHA’MINGO cafe ตั้งอยู่ริมถนนพระยาสัจจา เลขที่ 80/265 หมู่ 3 ต.บ้านสวน อ.เมือง จ.ชลบุรี พบกับ นางสาวธันยนันท์ ศิริเมย์ อายุ 37 ปี เจ้าของร้านและเป็นผู้โพตส์ลงโซเชียล ได้พาดูที่ร้านซึ่งมีลูกค้ามาอุดหนุนเป็นยจำนวนมาก เพราะที่ร้านเพิ่งได้เปิดให้นั่งที่ร้านได้เมื่อวันที่ 1 ก.ย.ที่ผ่านมา ด้านหน้าร้านนั้นมีขนมกว่า 30 ชนิด ให้เลือก มีโต๊ะนั่งด้านในร้าน ส่วนหลังร้านนั้นมีที่นั่งแบบจัดฉากสวยงาม หลายมุมให้ถ่ายภาพเซลฟี่ได้ น.ส.ธันยนันท์ เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คือ ลูกค้าที่ลงภาพไป […]

error: