ศาลสั่ง รมช.ศึกษา หยุดปฏิบัติหน้าที่ ปมฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรงรุกป่าเขาใหญ่

Advertisement 26 ส.ค.65 ที่ศาลฎีกา สนามหลวง ศาลฎีกามีคำสั่งคดีหมายเลขดำที่ คมจ.2/2565 ระหว่างคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือป.ป.ช. ผู้ร้อง นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รมช.ศึกษาธิการ ผู้คัดค้าน เรื่องการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง (ชั้นรับคำร้อง) Advertisement คดีนี้ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า วันที่ 14 ก.พ.45 ผู้คัดค้านดำเนินการขอออกโฉนดที่ดินในพื้นที่หมู่ที่ 15 ต.เนินหอม อ.เมืองปราจีนบุรี เนื้อที่ 30-2-80.5 ไร่ โดยอ้างว่าซื้อที่ดินแปลงดังกล่าวมาจากนายทิว มะลิซ้อน เมื่อปี 2533 แต่นายทิวไม่มีตัวตน ทั้งไม่เคยเข้าทำประโยชน์ในที่ดินที่อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่และแนวเขตป่าไม้ถาวรป่าเขาใหญ่ ทำให้รัฐสูญเสียที่ดินในเขตอุทยานแห่งชาติให้แก่ผู้คัดค้าน การออกโฉนดที่ดินเลขที่ 41158 ต.เนินหอม อ.เมืองปราจีนบุรี จึงมิชอบด้วยกฎหมาย และเป็นความเสียหายร้ายแรง ผู้คัดค้านยังคงยึดถือครอบครองที่ดินต่อเนื่องตลอดมาจนกระทั่งเข้าดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ Advertisement ขอให้ศาลฎีกามีคำพิพากษาหรือคำสั่งว่า ผู้คัดค้านฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง ให้ผู้คัดค้านหยุดปฏิบัติหน้าที่นับแต่วันที่ศาลฎีการับคำร้องจนกว่าจะมีคำพิพากษา ให้ผู้คัดค้านพ้นจากตำแหน่งนับแต่วันหยุดปฏิบัติหน้าที่ เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้คัดค้าน และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งมีกำหนดเวลาไม่เกินสิบปี ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 256 มาตรา 235 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต […]

“สุนทร วิลาวัลย์” เข้ามอบตัวสู้คดีรุกป่าเขาใหญ่

(21 มิ.ย.2565) นายประยุทธ์ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวว่า ได้รับรายงานจากอัยการ สำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต 2 จ.ระยองว่า นายสุนทร วิลาวัลย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี (อบจ.) พ่อนางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รมช.ศึกษาธิการ หนึ่งผู้ถูกกล่าวหาในคดีบุกรุกป่าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จ.ปราจีนบุรี ขอเข้ามอบตัว กับตำรวจตามหมายจับแล้ว หลังคดีหมดอายุความ เมื่อวันที่ 13 มิ.ย.ที่ผ่านมา และหนีหมายจับนานนับสัปดาห์ โดยนายสุนทร พร้อมลูกชายและคนสนิท เข้ามามอบตัว ขณะนี้อยู่ระหว่างเจ้าหน้าที่บันทึกการจับกุม และลงบันทึกประจำวันที่ สภ.เมืองระยอง สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ นายพิจิตร จูฑะประชากุล อธิบดีอัยการสำนักงานปราบปรามการทุจริตภาค 2 ได้เตรียมคำฟ้องไว้แล้ว หากนำตัวนายสุนทร ส่งมาก็จะส่งฟ้องศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 2 ทันที นายประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีเรื่องคดีขาดอายุความหรือไม่ เนื่องจากศาลอาญาคดีทุจริต ออกหมายจับตามคำร้องของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ว่า พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 7 คือไม่นับรวมในอายุความกรณีผู้ถูกกล่าวหาหรือจำเลยหลบหนี เมื่อศาลออกหมายจับไว้ในชั้นนี้ […]

error: