รมว.ศธ.เผย นทท.จีนใส่ชุดนักเรียนไทย เป็นแฟชั่น ไม่เสียหายอะไร

Advertisement 9 มี.ค. น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ กล่าวถึงกรณีที่นักท่องเที่ยวชาวจีน นำชุดนักเรียนไทยมาแต่งกายในรูปแบบแฟชั่น ว่า ตนได้เห็นเรื่องดังกล่าวแล้ว ซึ่งคิดว่าไม่น่ามีอะไรที่ต้องกังวล เนื่องจากเราต้องดูเจตนาที่การใส่ชุดนักเรียน โดยเท่าที่เห็นข้อมูลก็พบว่า เป็นเจตนาที่ดีไม่ได้สร้างความเสียหายในการนำชุดนักเรียนไทยไปทำอะไรที่ไม่เหมาะสม Advertisement Advertisement รมว.ศึกษาธิการ กล่าวต่อว่า ส่วนจะทำให้เกิดความเข้าใจผิดหรือไม่ เพราะอาจใส่ไปในสถานที่ที่ไม่เหมาะสมนั้น เรื่องนี้ตนยังไม่เห็นว่ามีการรายงานเรื่องการใส่ชุดนักเรียนของนักท่องเที่ยวที่ไม่เหมาะสมแต่อย่างใด ซึ่งมีตัวอย่างของประเทศญี่ปุ่นที่มีการแต่งชุดนักเรียนญี่ปุ่นแบบน่ารักเป็นเทรนด์แฟชั่นที่ดูเหมาะสม ดังนั้น ในส่วนของชุดนักเรียนไทยก็เป็นสิ่งที่นักท่องเที่ยวนำไปใส่เป็นแฟชั่นได้ไม่ได้เสียอะไร.   ข่าวจาก : dailynews

“ตรีนุช” ย้ำ “ชุดลูกเสือ” ให้ใช้แค่สัญลักษณ์ได้ ปรับเพื่อภาระผู้ปกครอง

รมว.ศึกษาธิการ เข้าใจภาระค่าใช้จ่ายผู้ปกครอง เคยย้ำสถานศึกษาแล้ว วิชาลูกเสือ ชุดถ้าไม่จำเป็นขอให้เป็นสัญลักษณ์ ชี้สามารถปรับยืดหยุ่นกิจกรรมได้ เมื่อวันที่ 6 มิ.ย. น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ กล่าวถึงกรณีโลกโซเชียลแห่แชร์ราคาค่าชุดลูกเสือของผู้ปกครองคนหนึ่ง โดยระบุแบกรับค่าใช้จ่ายชุดไม่ไหว ว่า กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) รับทราบปัญหาภาระค่าใช้จ่ายของผู้ปกครอง ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 มาโดยตลอด ซึ่งก่อนหน้าตนได้ย้ำไปยังสถานศึกษาทุกแห่งแล้วว่า สิ่งใดที่ไม่จำเป็นและจะเป็นการสร้างภาระให้แก่ผู้ปกครอง ขอให้สถานศึกษายืดหยุ่นการจัดการเรียนการสอน โดยบางวิชาอย่าง เช่น วิชาลูกเสือ ที่ต้องมีการแต่งเครื่องแบบก็ไม่จำเป็นจะต้องมีการแต่งเครื่องแบบ แต่ขอให้มีสัญลักษณ์เฉพาะบ่งบอกให้รู้ว่าเด็กได้เรียนวิชาลูกเสือ ทั้งนี้ ที่ผ่านมาตนได้ชี้แจงทำความเข้าใจให้แก่สถานศึกษาได้รับทราบถึงแนวปฏิบัตินี้แล้ว แต่ครั้งนี้จะกำชับสื่อสารทำความเข้าใจให้มากขึ้น   ข่าวจาก : dailynews

ด่วน! ศธ.ออกประกาศ สั่งโรงเรียนคืนค่าเทอม ส่วนไม่ได้สอนช่วงโควิด

ด่วน! ศธ.ออกประกาศ สั่งโรงเรียนคืนค่าเทอม ส่วนไม่ได้สอนช่วงโควิด-ช่วยผู้ปกครอง ให้ผ่อนผันหรือขยายระยะเรียกเก็บเงินตามความเหมาะสมเป็นกรณีไป เมื่อวันที่ 31 พ.ค.64 น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า ตามที่มีผู้ปกครองร้องเรียนเรื่องการเก็บเงินบำรุงการศึกษา ค่าธรรมเนียมการศึกษา ค่าธรรมเนียมการเรียน และค่าธรรมเนียมอื่น ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564 ของสถานศึกษา จำนวนมาก นั้น ตนได้รับทราบปัญหาดังกล่าว และมีนโยบายให้ต้นสังกัดของโรงเรียนและสถานศึกษาในสังกัดและในกำกับของ ศธ.ไปดำเนินการแก้ไขปัญหา และเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคมที่ผ่านมา ตนก็ได้ลงนามในประกาศ ศธ. เรื่อง แนวปฏิบัติการเก็บเงินบำรุงการศึกษา ค่าธรรมเนียมการศึกษา ค่าธรรมเนียมการเรียน และค่าธรรมเนียมอื่นไปแล้ว รัฐมนตรีว่าการศธ. กล่าวต่อว่า ในประกาศดังกล่าวระบุ ว่า อนุสนธิประกาศ ศธ. เรื่อง การเลื่อนเวลาเปิดภาคเรียนที่ 1 ประจำปีการศึกษา 2564 ลงวันที่ 19 พฤษภาคม 2564 เนื่องมาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด- […]

รมว.ศึกษาฯขอโทษ ‘พล.อ.ประวิตร’ ปมวิจารณ์นาฬิกา แต่ยืนยันไม่ลาออก!!

  หลังจากเมื่อวานบีบีซีไทยได้เผยแพร่คลิปเสียงของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ วิจารณ์เรื่องนาฬิกาหรู ล่าสุดวันนี้ได้แถลงยอมรับว่าเป็นคลิปเสียงจริง และขอโทษที่ทำผิดมารยาทกับเพื่อนร่วมคณะรัฐมนตรี  วันนี้ ( 13 ก.พ.61) เมื่อเวลา 12.10 น.  นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ เดินทางเข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นการส่วนตัวที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อพูดคุยกรณีบีบีซีไทยเผยแพร่คลิปเสียง นพ.ธีระเกียรติ ให้สัมภาษณ์แสดงความเห็นพาดพิงปมนาฬิกาหรูของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ในระหว่างพบปะพูดคุยกับนักเรียนไทยในประเทศอังกฤษเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่ในวันนี้ นพ.ธีระเกียรติ วันนี้ได้ขอลา ประชุม คณะรัฐมนตรี (ครม.) เนื่องจากเพิ่งเดินทางกลับมาจากอังกฤษถึงไทยในช่วงเช้า ภายหลังจากการพบกับนายกรัฐมนตรี นพ.ธีระเกียรติ ได้แถลงชี้แจงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ว่า วันนี้ได้เดินทางมาพบ พล.ประยุทธ์ และ พล.อ.ประวิตร โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคือผมไปบรรยายให้กับนักศึกษาที่ประเทศอังกฤษฟัง ยอมรับว่าเสียงที่ได้ฟังนั้นเป็นเสียงของตนเองจริง แต่ในภาพกับในเสียงเป็นคนละตอนกัน เพราะตอนที่สัมภาษณ์นั้นเป็นการยืนคุยหลังการบรรยาย และไม่ทราบว่ามีการอัดเสียงและถามเรื่องนาฬิกา ตนจึงถือว่าไม่ได้เป็นการสัมภาษณ์อย่างเป็นทางการ โดยคลิปเสียงที่ออกมาไม่ได้มีการตัดต่อแต่เป็นภาพและเสียงไม่ตรงกัน และยอมรับว่าการแสดงความเห็นต่างๆของตนเป็นการผิดมารยาทที่มีการกล่าวถึงเพื่อนร่วมคณะรัฐมนตรีและรองนายกรัฐมนตรี ก็ได้ขอโทษท่านเพราะผมทำผิดมารยาท  “ส่วนที่มีข่าวออกไปว่าจะทำอะไรต่อ ผมยังยืนยันว่าให้ความมั่นใจกับนายกรัฐมนตรี เพราะตนมาที่นี่ทำงานก็เพราะนายกรัฐมนตรี […]

error: