8หมื่นผู้ต้องได้ลดวันต้องโทษ ราชทัณฑ์เผยบิ๊กเนมไม่เข้าเกณฑ์

Advertisement 12 ส.ค.2565 นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 70 พรรษา 28 กรกฎาคม 2565 ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา 12 สิงหาคม 2565 ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พ.ศ.2565 นับเป็นอภิลักขิตกาลสำคัญ Advertisement พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้ตราพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ แก่ผู้ต้องราชทัณฑ์เพื่อให้โอกาสแก่บุคคลเหล่านั้นกลับประพฤติตนเป็นพลเมืองดี อันจะเป็นคุณประโยชน์แก่สังคมและประเทศชาติสืบไป นายอายุตม์ กล่าวต่อว่า โดยในครั้งนี้ ผู้ต้องราชทัณฑ์ที่จะได้รับพระราชทานอภัยโทษ ต้องเป็นนักโทษเด็ดขาดชั้นดี หรือชั้นดีมาก หรือชั้นเยี่ยมเท่านั้น และต้องได้รับโทษจำคุกมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 ของกำหนดโทษตามคำพิพากษา หรือไม่น้อยกว่า 8 ปี แล้วแต่ระยะเวลาใดจะเป็นคุณมากกว่า ซึ่งตามพระราชกฤษฎีกาฯ จะมีทั้งกลุ่มผู้ต้องราชทัณฑ์ส่วนหนึ่งที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษปล่อยตัวไป และกลุ่มที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษลดโทษจำคุกตามสัดส่วนที่กำหนด โดยแตกต่างกันตามประเภทความร้ายแรงของคดี และตามชั้นของนักโทษเด็ดขาด ทั้งนี้ กรมราชทัณฑ์ […]

พระราชทานอภัยโทษ ปล่อยตัวผู้ต้องขังติด ‘โควิด’ 99 ราย ไปรักษาต่อ

ปล่อย 99 ผู้ต้องขัง ทัณฑสถานวัยหนุ่ม นครศรีธรรมราช รักษาที่รพ.สนาม เหตุเป็นผู้ติดเชื้อ โควิด-19 ทุกราย ยังเหลืออีก 2,310 ราย ที่ติดเชื้อ เมื่อวันที่ 24 ก.ย. 2564 ที่หน้าเรือนจำทัณฑสถานวัยหนุ่ม นครศรีธรรมราช เจ้าหน้าที่ทัณฑสถานวัยหนุ่ม และเจ้าหน้าที่ สสจ.นครศรีธรรมราช ได้เข้าทำการคัดแยกนักโทษในเรือนจำจำนวน 99 ราย ซึ่งเป็นผู้ป่วยติดเชื้อ โควิด-19 ทั้งหมด จากการติดเชื้อในเรือนจำรวม 2,310 ราย โดยมีญาติของนักโทษที่ได้รับการปล่อยตัวจำนวนหนึ่งมารอติดตามข่าวด้วยความห่วงใย ทั้งนี้ในจำนวน 99 รายนี้เป็นผู้ที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณ โปรดเกล้า โปรดกระหม่อมพระราชทานอภัยโทษ ทำให้ทั้ง 99 ราย ได้รับการปลดปล่อยจากการคุมขังในทัณฑสถานวัยหนุ่มฯ แต่ยังต้องเข้ารับการรักษาจากการติดเชื้อ โดยมีการคัดแยก 42 ราย จะถูกเคลื่อนย้ายไปยังรพ.สนามหอประชุมเมือง ของเทศบาลนครนครศรีธรรมราช และอีก 57 ราย จะเดินทางกลับภูมิลำเนาเกือบทุกอำเภอ โดยแต่ละอำเภอจะมีเจ้าหน้าที่คอยรับเข้าสู่ระบบการรักษาตามระบบอยู่แล้ว สำหรับรพ.สนามหอประชุมเมือง ที่สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ 84 […]

3 หมื่นผู้ต้องขังได้ปล่อยตัว รับพระราชทานอภัยโทษ อีก 2 แสนคนได้ลดวันต้องโทษ

3 หมื่นผู้ต้องขังได้ปล่อยตัว รับพระราชทานอภัยโทษ อีก 2 แสนคนได้ลดวันต้องโทษ ตามพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ พ.ศ.2564 เมื่อวันที่ 27 ก.ค.64 ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ พระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ พ.ศ.2564 แก่ผู้ต้องราชทัณฑ์ เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม 2564 เพื่อให้โอกาสแก่บุคคลเหล่านั้นกลับประพฤติตนเป็นพลเมืองดีอันจะเป็นคุณประโยชน์แก่ประเทศชาติสืบไป พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯให้ประกาศว่าโดยที่ทรงพระราชดำาริเห็นว่าในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา28กรกฎาคม2564 เพื่อเป็นการแสดงพระมหากรุณาธิคุณในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวสมควรพระราชทานอภัยโทษแก่ผู้ต้องราชทัณฑ์เพื่อให้โอกาสแก่บุคคลเหล่านั้นกลับประพฤติตนเป็นพลเมืองดีอันจะเป็นคุณประโยชน์แก่ประเทศชาติสืบไป อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 175และมาตรา 179 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา261 ทวิวรรคสอง แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติม โดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ 9) พ.ศ. 2517 จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้ พระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ พ.ศ. 2564 มีทั้งสิ้น 20 มาตรา ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นต้นไป ทั้งนี้จะมีทั้งในส่วนที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษปล่อยตัว ตามมาตรา มาตรา 5 เป็นกลุ่ม ผู้ต้องกักขัง ผู้ทำงานบริการสังคมหรือทำงานสาธารณประโยชน์แทนค่าปรับ และ ผู้ได้รับการปล่อยตัวคุมประพฤติ […]

โปรดเกล้าฯ พระราชทานอภัยโทษ เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 ก.ค. 2564

ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่พระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษแก่ผู้ต้องหาราชทัณฑ์ รวมถึงเรือนจำทหาร เนื่องในวันวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม 2564 เพื่อให้โอกาสกลับตัว ประพฤติตนเป็นพลเมืองดี วันที่ 27 กรกฎาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่ประกาศ พระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษแก่ผู้ต้องราชทัณฑ์ เนื่องในวันวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม 2564 สำหรับเหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ระบุว่า ในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม 2564 สมควรพระราชทานอภัยโทษแก่ผู้ต้องราชทัณฑ์ เพื่อให้โอกาสแก่บุคคลเหล่านั้นกลับประพฤติตนเป็นพลเมืองดี อันจะเป็นคุณประโยชน์แก่ประเทศชาติสืบไป จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 175 และมาตรา 179 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยและมาตรา 261 ทวิ วรรคสอง แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติม โดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ 9) พ.ศ. 2517 จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้ มาตรา 1 พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ พ.ศ. 2564” มาตรา 2 […]

error: